Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คิฮะ 183 ซีรีส์ (ญี่ปุ่น: キハ183系) เป็นรถดีเซลราง เมื่อแรกประจำการในปี 1980 อยู่ภายใต้การดูแลของการรถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่น และแปรสภาพเป็นของ JR ฮกไกโด ตั้งแต่ปี 1987 ถูกออกแบบให้สอดรับภูมิอากาศเย็นจัดของจังหวัดฮกไกโด ปัจจุบันเป็นรถด่วนพิเศษที่มีอายุการใช้งานเยอะที่สุดของ JR ฮกไกโด ยังเหลือวิ่งให้บริการขบวนโอค็อตสค์[1] และขบวนไทเซ็ตซึ[2] ประจำการที่โรงงานนาเอะโบะ และเคยประจำการที่ศูนย์ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ คุชิโระ สามารถทำความเร็วสูงสุด 110-130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คิฮะ 183 ซีรีส์ | |
---|---|
คิฮะ 183-900 ซีรีส์ โอค็อตสค์ ในปี 1990 | |
ประจำการ | 1980–ปัจจุบัน |
ผู้ผลิต | |
แทนที่ | คิฮะ 80 ซีรีส์ |
สายการผลิต | 1979–1992 |
เข้าประจำการ | 10 กุมภาพันธ์ 1980 |
จำนวนที่เก็บรักษาไว้ | 2 |
ผู้ให้บริการ |
|
คุณลักษณะ | |
ความยาว | 21,300 mm (69 ft 11 in) |
ความกว้าง | 2,903 mm (9 ft 6 in) |
ความเร็วสูงสุด | 130 km/h (81 mph) |
เครื่องยนต์ | DMF15HSA・DML30HSI |
มาตรฐานทางกว้าง | 1,067 mm (3 ft 6 in) |
ในขณะที่ตัวรถไฟส่วนใหญ่ได้รับการตกแต่งใหม่และยังคงให้บริการอยู่บางขบวนก็ถูกถอนออกจากการให้บริการเช่นกัน ในจำนวนนั้นรถสามคัน (รถ KiHa 183-200 จำนวน 2 คัน และรถ KiHa 183-5000 Niseko Express หนึ่งคัน) ได้รับทุนบูรณะซ่อมแซมและถูกเก็บไว้ในสถานที่รอบฮกไกโด บริษัท JR ฮกไกโด และฟูจิเฮฟวี่อินดัสทรีได้เริ่มการบริจาครถไฟที่ปลดระวาง 19 คันให้กับการรถไฟเมียนมาร์เพื่อใช้ในเส้นทางมัณฑะเลย์-เนปยีดอ และบริการที่ใช้รถเหล่านี้วิ่งตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 ซึ่งในปัจจุบันได้เลิกใช้แล้ว
ในวันที่ 13 ธันวาคม 2021 บริษัทรถไฟฮกไกโดบริจาครถไฟดีเซลรางรุ่นคิฮะ 183 ซีรีส์ที่ปลดระวางและจอดทิ้งไว้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 17 คัน โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เริ่มให้บริการคิฮะ 183 ซีรีส์ ในปี 2022 และได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดให้บริการครบทั้ง 17 คันภายในปี 2023
เป็นรุ่นแรกของซีรีส์ที่ถูกผลิตขึ้นเป็นรถต้นแบบในปี 1979 ทั้งหมด 12 คัน ลักษณะของตัวรถคล้ายกับรุ่นคิฮะ 183-0 ซีรีส์ แต่จะมีจุดแตกต่างเล็กน้อยเช่นช่องระบายอากาศมีขนาดไม่เท่ากัน มีลักษณะกันชนที่ต่างกัน
เป็นรุ่นหลักที่มีการผลิตออกเป็นจำนวนมากถึง 89 คัน มีการผลิตตั้งแต่ปี 1981 ถึง 1983 ในช่วงปี 1999 ถึง 2009 ได้มีโครงการเสริมความหนาของกระจกเพื่อป้องกันการเป็นรอยของกระจก ตั้งแต่ปี 1997 เริ่มมีการนำคิฮะ 283 และคิฮะ261เข้าประจำการจึงทำให้คิฮะ 183-0 ซีรีส์ลดหน้าที่ลง และทยอยตัดบัญชีลงแล้วปลดระวางทั้งหมดภายในปี 2018
ผลิตขึ้นจำนวน 20 คันเป็นตู้โดยสารมีห้องขับ โดยรุ่นนี้จะมีลักษณะพิเศษที่มีการวางห้องขับสูงกว่าระดับพื้นรถ และมีหน้ารถที่เอียงจึงมีชื่อเรียกว่า "Slanted Nose" ตัวรถมีที่นั่ง 40 ที่นั่ง
เป็นตู้กลางของคิฮะ 183-0 ซีรีส์ ผลิตขึ้นเป็นจำนวนมากที่สุดของซีรีส์ที่ 48 ตู้มีความจุผู้โดยสารมากสุด 68 ที่นั่ง
เป็นตู้กลางของคิฮะ 183-0 ซีรีส์ แต่มีเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า มีแผงระบายอากาศติดอยู่ด้านข้างของตัวรถ ผลิตขึ้นจำนวน 11 ตู้ มีความจุผู้โดยสาร 52 ที่นั่ง
เป็นรถที่มีชั้นกรีนคาร์ และห้องเตรียมอาหารของคิฮะ 183-0 ซีรีส์ ผลิตขึ้น 10 ตู้ และมีความจุผู้โดยสาร 32 ที่นั่ง
ในปี 1985 มีการนำตู้รถโดยสาร 4 คันทะเบียน คิฮะ 184 1, 3, 4 และ 5 มาปรับปรุงให้มีห้องขับเพิ่ม โดยลดความจุผู้โดยสารลงเหลือ 40 ที่นั่ง และได้เปลี่ยนเลขทะเบียนเป็น คิฮะ 183-101,102,103 และ 104 โดยหมายเลข -104 เป็นคันสุดท้ายของรุ่นที่ปลดระวาง คันเดียวที่ใช้สีโทคาชิ และเป็นคันเดียวของรุ่นที่ได้บริจาคให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย
เนื่องจากคิฮะ 183-0 จำนวน 13 คันได้มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น N-DMF13HZC จึงมีการเปลี่ยนทะเบียนเป็น -200 โดนที่หมายเลข -207 ถึง -215 มีห้องเก็บอุปกรณ์ขายอาหารสำหรับขบวนโอค็อตสค์ ส่วนหมายเลข -217 ถึง -220 จะมีห้องทำการพนักงานอยู่
ดัดแปลงจากคิฮะ 182-0 เพื่อทำการสับเปลี่ยนให้สะดวกและ รวดเร็วขึ้นจึงมีการติดตั้งห้องขับด้านหน้าของตัวรถ 3 คัน ทะเบียนคิฮะ 183-106, 107 และ 108
สำหรับการเดินรถขบวนโทคาชิ จึงมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น DMF18HZ จำนวน 4 คัน และมีการเปลี่ยนทะเบียนเป็น -200
ในปี 1996 ผู้ใช้บริการตู้กรีนคาร์ลดลง จึงมีการแบ่งตู้ครึ่งหนึ่งเป็นกรีนคาร์ และอีกครึ่งเป็นห้องโดยสารชั้นธรรมดา หมายเลขทะเบียนคิโระฮะ182-2, 3, 4,6 และ 10
เพื่อทดแทนตู้นั่งเอนได้ของ 14 ซีรีส์ที่ปลดระวางไป จึงมีการนำตู้คิฮะ182 36, 37 และ 38 มีดัดแปลงให้สามารถวิ่งผสมกับคิฮะ400 และทำสีลายรถด่วนโซยะ สำหรับขบวนบนสายหลักโซยะ เช่น รถด่วนข้ามคืนริชิริ เป็นต้น
มีการผลิตขึ้นเป็นจำนวน 36 คันโดยนิอิกาตะเอ็นจิเนียริ่ง และฟูจิเฮฟวี่อินดัสทรีในปี 1986 โดยมีการปรับเปลี่ยนตัวรถให้มีประสิทธิภาพในการเดินรถคล่องตัวขึ้น และไม่มีการผลิตรถที่มีห้องขับสูง เนื่องจากผลิตขึ้นในสมัยยุคเปลี่ยนผ่านจึงไม่ได้มีการติดสัญลักษณ์รถด่วนพิเศษของ JNR มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ N183 ซีรีส์[3] และถูกจัดเป็นรุ่นสมัยหลังรวมกับ NN183 ในสมัยที่เริ่มให้บริการของซีรีส์จะใช้สีที่มีชื่อว่า "Shin tokkyu" ตัวรถสีขาว และมีลายคาดสีแดง กับ สีส้ม
ผลิตขึ้นเป็นจำนวน 7 ตู้ เป็นตู้โดยสารมีห้องขับ ใช้เครื่องยนต์ DML30HSJ มีห้องน้ำภายในตู้แต่ไม่มีเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้ามีที่นั่งทั้งหมด 60 ที่ รถทะเบียนคิฮะ 183-505 และ 506 ถูกปรับให้ลดความเร็วสูงสุดเหลือเพียง 110 กม./ชม. ปัจจุบันคิฮะ 183-500 ถูกปลดระวางหมดยกเว้นคิฮะ 183-507 ที่ถูกดัดแปลงเป็นคิฮะ 183-6001
ผลิตขึ้นเป็นจำนวน 7 ตู้ เป็นตู้โดยสารมีห้องขับเช่นเดียวกับคิฮะ 183-500 แต่ใช้เครื่องยนต์ DMF13HS มีเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้าแต่กลับจะไม่มีห้องน้ำภายในตู้มีที่นั่งทั้งหมด 68 ที่ รถทะเบียนคิฮะ 183-1501 ถึง 1504 มีการปรับแบบให้มีห้องน้ำเพื่อรองรับการเดินรถขบวน 3 ตู้ในเส้นทางสายหลักโซยะได้
ผลิตขึ้นมา 14 ตู้ เป็นตู้โดยสารคั่นกลาง ไม่มีห้องขับมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุด 68 ที่ รถทะเบียนคิฮะ 183-504 ถึง 506 และ 513 ถูกปรับให้ลดความเร็วสูงสุดเหลือเพียง 110 กม./ชม. รถทะเบียนคิฮะ 183-512 มีการใช้ลายเดียวกับคิฮะ 183-0 คือลายโทคาชิ ปัจจุบันคิฮะ 182-500 คิฮะ 183-514 ที่ถูกดัดแปลงเป็นคิฮะ 182-6001 ปัจจุบันรุ่นนี้ถูกปลดระวางเกือบทั้งหมดยกเว้นคิฮะ 183-502 และ 508
ผลิตขึ้นมา 8 ตู้เพื่อเป็นตู้ชั้นกรีนคาร์ของซีรีส์มีลักษณะแตกต่างจากตู้อื่นๆในซีรีส์ มีการยกพื้นห้องโดยสารสูงขึ้น 50 ซม.จากความสูงทั่วไปของพื้นรถ มีกระจกขนาดใหญ่ และใช้เครื่องปรับอากาศรุ่น AU76 รุ่นเดียวกับ 14 ซีรีส์ รถทะเบียนคิโระ 182-501 ถึง 503 ได้มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ และเปลี่ยนทะเบียนเป็น -2550 ในปี 1994 และได้เปลี่ยนรุ่นอีกครั้งเป็น -7550 ปัจจุบันคิโระ 182 ที่ยังไม่ได้ตัดบัญชีเหลือเพียง -7551 ถึง 7553 และ 504 กับ 505
เนื่องจากมีการยกความเร็วสูงสุดที่ให้บริการของสายหลักฮาโกดาเตะขึ้นเป็น 120 กม./ชม. เจอาร์ ฮกไกโดจึงได้สั่งผลิตคิฮะ 183-550 ซีรีส์ ซึ่งพัฒนาต่อจากคิฮะ 183-500 ซีรีส์ แต่มีการปรับแคร่ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมมากขึ้น มีชื่อเรียกอีกชื่อคือ NN183 รวมกันกับ N183 เป็นรุ่นที่ถูกจัดอยู่ในหมวดรุ่นสมัยหลัง
เป็นตู้โดยสารมีห้องขับของซีรีส์มีการผลิตขึ้น 16 คันออกแบบตามคิฮะ 183-1500 มีการติดตั้งเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า และไม่มีห้องน้ำภายในตู้ ต่อมามีบางคันการเปลี่ยนอุปกรณ์เบรครถจึงเปลี่ยนเลขทะเบียนเป็น -3550 และบางคันได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ขับเคลื่อนใหม่ด้วยจึงใช้ทะเบียน -7550 คิฮะ 183-1555 และ 1556 มีการดัดแปลงเพื่อใช้งานในเส้นทางสายหลักโซยะ ส่วนคิฮะ 183-1507 ได้นำไปปรับสภาพเป็นคิฮะ 183-6101
เป็นตู้โดยสารคั่นกลางของซีรีส์ผลิตขึ้นมาจำนวน 12 คันออกแบบตามคิฮะ 182-500 มีห้องน้ำภายในตู้ เช่นเดียวกับคิฮะ 183-1550 มีการเปลี่ยนอุปกรณ์เบรครถได้เปลี่ยนเลขทะเบียนเป็น -3550 และทุกคันได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ขับเคลื่อนใหม่จึงใช้ทะเบียน -7550
รุ่นเดียวที่ผลิตโดยบริษัทฮิตาชิเพื่อใช้ในการทำขบวนรถด่วนพิเศษโทคาชิจำนวน 4 คันเป็นรถ 2 ชั้น ในห้องโดยสารผสมระหว่างที่นั่งกรีนคาร์ และที่นั่งธรรมดา ใช้พ่วงในริ้วขบวนของคิฮะ 183-0เป็นส่วนใหญ่ แต่เนื่องจากขบวนโทคาชิสลับมาใช้คิฮะ 283 ในการทำขบวน รุ่นนี้จึงถูกปลดระวาง และทำลายลงในปี 2001
เป็นรถเชิงท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1988 จัดอยู่ในรถประเภท "จอยฟูลเทรน" ในอดีตจะใช้วิ่งขบวนนิเซโกะสกีเอกซ์เพรส รถเที่ยวพิเศษในมุ่งไปทางตอนใต้ และรถจัดเฉพาะ ปัจจุบันได้ตัดบัญชี และทำลายลงเมื่อปี 2017
เป็นรถเชิงท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1989 จัดอยู่ในรถประเภท "จอยฟูลเทรน" ในอดีตมักจะถูกใช้เป็นรถนำเที่ยวไปทางเมืองฟูราโนะ และเป็นจัดเฉพาะ ปัจจุบันปลดระวางไปแล้ว และทำลายลงเมื่อปี 2019
เป็นรถเชิงท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1992 จัดอยู่ในรถประเภท "จอยฟูลเทรน" ถูกใช้เป็นรถนำเที่ยวในหลายพื้นที่ เป็นรถเสริมในช่วงเทศกาล และเป็นรถจัดเฉพาะ ถูกปลดระวางไปในปี 2023
ดัดแปลงมาจากคิฮะ183-507 คิฮะ182-514 และคิฮะ183-1557 ในปี 1999 รุ่น N183 ในชุดได้มีการแปลงเครื่องยนต์และอุปกรณ์ให้เหมือนรุ่น NN183 และมีการปรับปรุงตัวรถให้สามารถลอดอุโมงค์เซกังได้ ภายในห้องโดยสารเป็นที่นั่งแบบทาทามิ และมีการตกแต่งภายในให้สอดคล้องกับที่นั่ง ในปี2015 ตู้กลางคิฮะ182-6001 ถูกตัดบัญชี ส่วนตู้ที่มีห้องขับได้เปลี่ยนสีกลับเป็นลาย HET และยังประจำการอยู่ที่โรงงานนาเอโบะ โดยจะพ่วงเป็นตู้เสริมในริ้วขบวนต่าง ๆ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.