![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/cd/Ball-and-stick_model_of_folic_acid.png/640px-Ball-and-stick_model_of_folic_acid.png&w=640&q=50)
กรดโฟลิก
From Wikipedia, the free encyclopedia
โฟเลต หรืออีกรูปแบบหนึ่งที่รู้จักคือ กรดโฟลิก และ วิตามินบี9 (อังกฤษ: folate, folic acid, vitamin B9) เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง[3] มีปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 400 ไมโครกรัม[6] และมักใช้เป็นอาหารเสริมในช่วงตั้งครรภ์เพื่อป้องกันภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (NTDs) ในทารก (ซึ่งรวมการไม่มีสมองใหญ่ สมองโป่ง กระดูกสันหลังโหว่) และยังใช้รักษาภาวะเลือดจางจากการขาดกรดโฟลิก[3] กว่า 50 ประเทศเสริมกรดโฟลิกในอาหารเพื่อเป็นมาตรการลดอัตรา NTDs ในประชากร[7][8] การเสริมกรดโฟลิกในอาหารเป็นประจำสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัวใจเล็กน้อย[9] เป็นวิตามินที่สามารถใช้ทานหรือฉีดก็ได้[3]
![]() | |
![]() | |
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
การอ่านออกเสียง | /ˈfoʊlɪk, ˈfɒlɪk/ |
ชื่อทางการค้า | Folicet, Folvite |
ชื่ออื่น | FA, N-(4-{[(2-amino-4-oxo-1,4-dihydropteridin-6-yl)methyl]amino}benzoyl)-L-glutamic acid, pteroyl-L-glutamic acid, folacin, vitamin B9,[1] และในอดีตเป็น vitamin Bc และ vitamin M[2] |
AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
MedlinePlus | a682591 |
ข้อมูลทะเบียนยา |
|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
ช่องทางการรับยา | ทางปาก, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย | / S2
|
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | 50–100%[3] |
การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ[3] |
การขับออก | ปัสสาวะ[3] |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
IUPHAR/BPS | |
DrugBank |
|
ChemSpider | |
UNII |
|
KEGG | |
ChEBI | |
ChEMBL | |
PDB ligand | |
ECHA InfoCard | 100.000.381 |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C19H19N7O6 |
มวลต่อโมล | 441.404 g·mol−1 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
ความหนาแน่น | 1.6±0.1 g/cm3 [5] |
จุดหลอมเหลว | 250 องศาเซลเซียส (482 องศาฟาเรนไฮต์) (สลายตัว) |
การละลายในน้ำ | 1.6mg/L (25 °C) |
SMILES
| |
InChI
| |
![]() |
ยาไม่มีผลข้างเคียงที่สามัญ โฟเลตเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพื่อผลิต DNA RNA และกระบวนการสร้างและย่อยสลายกรดอะมิโนซึ่งจำเป็นต่อการแบ่งเซลล์[10] เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถสร้างกรดโฟลิก ดังนั้นจำต้องได้จากอาหาร[11]
การไม่ได้โฟเลตเพียงพอก็จะทำให้เกิดภาวะขาดโฟเลต ซึ่งอาจมีผลเป็นภาวะเลือดจางที่มีเม็ดเลือดขนาดใหญ่ (megaloblastic) เป็นจำนวนน้อย อาการอาจรวมความล้า หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่ทัน แผลบนลิ้นไม่หาย สีผิวหรือผมเปลี่ยน การขาดในช่วงตั้งครรภ์เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเหตุของภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (NTDs) ในทารกเกินครึ่ง[10] การขาดในเด็กอาจเกิดภายในเดือนเดียวที่ทานอาหารไม่ดี[12] ในผู้ใหญ่ระดับโฟเลตทั้งหมดในร่างกายอยู่ที่ระหว่าง 10,000-30,000 ไมโครกรัม (µg) โดยมีระดับในเลือดเกิน 7 nmol/L (3 ng/mL)[10]
กรดนี้ค้นพบในระหว่างปี พ.ศ. 2474-2486[13] อยู่ในรายการยาจำเป็นขององค์การอนามัยโลก ซึ่งหมายถึงยาที่สำคัญที่สุดในการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน[14] ราคาขายส่งของอาหารเสริมในประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ 0.001 - 0.005 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4-20 สตางค์) โดยปี 2557[15] คำภาษาอังกฤษว่า "folic" มาจากคำภาษาละตินว่า folium ซึ่งหมายถึงใบไม้[16] โฟเลตมีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารหลายอย่างรวมทั้งผักใบเขียวเข้มและตับ[10]