Loading AI tools
นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เฟาส์ติโน มาร์โกส อัลเบร์โต โรโฆ (สเปน: Faustino Marcos Alberto Rojo) เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1990 เป็นนักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ปัจจุบันเล่นให้กับโบกายูนิออร์สในตำแหน่งกองหลัง
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เฟาส์ติโน มาร์โกส อัลเบร์โต โรโฆ | ||||||||||||||||||
วันเกิด | [1] | 20 มีนาคม ค.ศ. 1990||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | ลาปลาตา อาร์เจนตินา | ||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.87 เมตร (6 ฟุต 2 นิ้ว)[1] | ||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหลัง | ||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | โบกายูนิออร์ส | ||||||||||||||||||
หมายเลข | 6 | ||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||
2000–2008 | เอสตูดิเอนเตส | ||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||
2008–2011 | เอสตูดิเอนเตส | 43 | (3) | ||||||||||||||||
2011–2012 | สปาร์ตัคมอสโก | 8 | (0) | ||||||||||||||||
2012–2014 | สปอร์ติงลิสบอน | 49 | (5) | ||||||||||||||||
2014–2021 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 76 | (1) | ||||||||||||||||
2020 | → เอสตูดิเอนเตส (ยืมตัว) | 1 | (0) | ||||||||||||||||
2021– | โบกายูนิออร์ส | 45 | (6) | ||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||||
2011–2019 | อาร์เจนตินา | 61 | (3) | ||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2021 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2019 |
โรโฆเริ่มอาชีพนักฟุตบอลที่สโมสรท้องถิ่นเอสตูดิเอนเตสเดลาปลาตา และคว้าแชมป์โกปาลิเบร์ตาโดเรสในปี ค.ศ. 2009 หลังจากนั้นเขาย้ายไปที่สปาร์ตัคมอสโกและสปอร์ติงลิสบอน หลังจากทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลก 2014 กับทีมชาติอาร์เจนตินา สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ซื้อตัวเขาไปในราคา 16 ล้านปอนด์
มาร์กอส โรโฆ เป็นกองหลังที่ดุดันตามแบบฉบับแข้งชาวอาร์เจนตินา โดยมีรูปแบบการเข้าสกัดที่รุนแรงซึ่งเป็นคุณสมบัติที่แฟนบอลชื่นชอบในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด นักเตะจากทวีปอเมริกาใต้ มีความชื่นชอบการปะทะทางร่างกายเหมือนกับที่มีให้รอยสัก โดยคำว่า "Pride" และ "Glory" ถูกสลักลงบนต้นขาของเขา เพื่อส่งคำเตือนไปยังกองหน้ารายใดก็ตาม
โรโฆโชว์ผลงานโดดเด่นที่สุดตลอดช่วงเวลาสามปีกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2016/2017 ก่อนที่อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดจะทำให้เขาต้องปิดเทอม ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางเป็นจุดที่เปิดโอกาสให้ทุกคนตอนซีซั่นเริ่มต้นขึ้น และเขาก็คว้าเอาไว้ได้ โดยเป็นกำลังสำคัญในแผงแบ็คโฟร์ที่เหนียวแน่นที่สุดของลีก ทั้งความโหดเหี้ยมในจังหวะเข้าสกัดและความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศ โรโฆกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมโดยพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีก คัพและยูโรปาลีกมาครอง
ฤดูกาลที่ประเดิมสนามกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของเขาต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บ รวมทั้งอาการไหล่หลุดในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี โรโฆลงเล่นไปแค่ 26 นัด จากทุกรายการ แต่ก็ยิงประตูได้ในการแข่งขันเอฟเอคัพ ที่เอาชนะเคมบริดจ์ยูไนเต็ด 3-0 ปราการหลังสารพัดประโยชน์ของยูไนเต็ด ปิดฉากฤดูกาล 2015/2016 ด้วยการรับใช้ทีมชาติในการแข่งขันโกปาอาเมริกาจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา แต่ต้องพบกับความผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศเพราะทีมชาติอาร์เจนตินาพ่ายการดวลจุดโทษให้กับทีมชาติชิลี ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในรอบชิงดำ ปี 2015
อาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วและอาการบาดเจ็บในส่วนอื่นทำให้ฤดูกาลที่สองของโรโฆกับปีศาจแดงต้องหยุดชะงัก แต่เขาได้ลงสนามมากขึ้นเป็น 28 นัด และคว้าเหรียญรางวัลแรกจากชัยชนะในศึกเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศเหนือคริสตัลพาเลซที่สนามเวมบลีย์
โรโฆได้รับความสนใจจากยูไนเต็ดตอนโชว์ฟอร์มโดดเด่นในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งเขามีส่วนร่วมรับใช้ชาติ 6 จาก 7 นัด พลาดไปเพียงเกมเดียวในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบทีมชาติเบลเยียมเนื่องจากติดโทษแบน กองหลังรายนี้ยังสามารถยิงประตูแรกให้กับอาร์เจนตินาระหว่างการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่เอาชนะทีมชาติไนจีเรีย 3-2 โดยนักวิเคราะห์ของ Castrol Index ยังได้เลือกให้เขาติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ด้วยผลงานเฉลี่ย 9.5 เต็ม 10 คะแนนอีกด้วย
อาเลคันโดร ซาเบลา กุนซือฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา ณ เวลานั้น เคยร่วมงานกับโรโฆสมัยอยู่ด้วยกันที่เอสตูเดียนเตส โดยเถลิงแชมป์โกปาลิเบร์ตาโดเรสในปี 2009 และรับใช้ตอร์เนโออาเปร์ตูราหนึ่งปีหลังจากนั้น ถัดมาเขาได้ย้ายมาค้าแข้งที่ยุโรปกับสปาร์ตัคมอสโก แต่ก็ไม่สามารถปรับตัวกับการใช้ชีวิตในรัสเซียให้อดีตต้นสังกัดของเนมันยา วีดิช อย่างไรก็แล้วแต่ โอกาสในการติดทีมชาติอาร์เจนตินายังไม่หายไป และเขาก็ได้มีส่วนร่วมลงแข่งขันโกปาอาเมริกา ซึ่งก็ยังสามารถพิสูจน์คุณค่าในเวทีระดับสูงสุด
การย้ายไปค้าแข้งให้กับสปอร์ติงเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ ปี 2012 ด้วยค่าตัวประมาณ 3.5 ล้านปอนด์ และหลังจากที่ปรับตัวเข้ากับชีวิตในลีกโปรตุเกส เขาสามารถโชว์ผลงานที่โดดเด่นตลอดฤดูกาล 2013/14 ช่วยให้ทีมจบในตำแหน่งรองแชมป์ตามหลังไบฟีกา แม้ว่าจะลงประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับอาร์เจนตินาเป็นส่วนใหญ่ แต่โรโฆมักถูกจับมายืนเป็นกองหลังตัวกลางในแนวรับของสปอร์ติงซึ่งถือว่าเหมาะสมกับแผงหลังสามคน ส่งผลประโยชน์ต่อมายังระบบการเล่น 3-5-2 ของลูวี ฟัน คาล ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จึงได้ดึงเข้าร่วมทีม
โรโฆ ในภาษาสเปนแปลว่า "แดง" โรโฆกลายเป็นผู้เล่นชาวอาร์เจนตินาคนที่สี่ซึ่งย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถัดจากควน เซบัสเตียน เบรอน อดีตเพื่อนร่วมทีมเอสตูเดียนเตส, กาเบรียล เอย์นเซ และการ์โลส เตเบซ
เอสตูดิเอนเตส[2]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โบกายูนิออร์ส
อาร์เจนตินา
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.