Loading AI tools
ภาพยนตร์แนวแฟนตาซี ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2003 กำกับโดย ปีเตอร์ แจ็กสัน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาสงครามชิงพิภพ (อังกฤษ: The Lord of the Rings: The Return of the King) เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์แฟนตาซีผจญภัย ฉายเมื่อปี ค.ศ. 2003 กำกับโดย ปีเตอร์ แจ็กสัน ดัดแปลงจากนวนิยายเล่มที่สามของ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายใน เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ไตรภาค อำนวยการสร้างโดย แบร์รี เอ็ม. ออสบอร์น, แจ็กสันและฟราน วอลช์เขียนบทโดย วอลช์, ฟิลิปปา โบเยนส์และแจ็กสัน ภาพยนตร์ประกอบด้วยนักแสดงนำจำนวนมาก ได้แก่ เอไลจาห์ วูด, เอียน แม็กเคลเลน, ลิฟ ไทเลอร์, วิกโก มอร์เทนเซน, ฌอน แอสติน, เคต แบลนเชตต์, จอห์น ริส-เดวีส์, เบอร์นาร์ด ฮิลล์, บิลลี บอยด์, โดมินิก โมนาแฮน, ออร์แลนโด บลูม, ฮิวโก วีฟวิง, มิแรนดา ออตโท, เดวิด เวนัม, คาร์ล เออร์บัน, จอห์น โนเบิล, แอนดี เซอร์กิส, เอียน โฮล์มและณอน บีน ภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องต่อจาก อภินิหารแหวนครองพิภพ (2001) และ ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ (2002)
มหาสงครามชิงพิภพ | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | ปีเตอร์ แจ็กสัน |
บทภาพยนตร์ |
|
สร้างจาก | กษัตริย์คืนบัลลังก์ โดย เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ |
|
กำกับภาพ | แอนดรูว์ เลสนี |
ตัดต่อ | เจมี เซลเคิร์ก |
ดนตรีประกอบ | ฮาเวิร์ด ชอร์ |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | นิวไลน์ซินีมา[1] |
วันฉาย |
|
ความยาว | 201 นาที[2] 252 นาที (ฉบับขยาย)[3] |
ประเทศ | |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] |
ทำเงิน | 1.142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[4] |
หลังเหตุการณ์ใน ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ โฟรโด, แซมและกอลลัม เดินทางเข้าใกล้เมาต์ดูมในมอร์ดอร์ เพื่อทำลาย เอกธำมรงค์ โดยทั้งสองคนไม่รู้ความตั้งใจจริงของกอลลัม ขณะที่ แกนดัล์ฟ, อารากอร์น, เลโกลัส, กิมลีและกองกำลังที่เหลือเข้าร่วมการต่อสู้ที่มินัสทิริธ เพื่อต่อต้านกองทัพของเซารอน
มหาสงครามชิงพิภพ ได้รับเงินทุนและจัดจำหน่ายโดย นิวไลน์ซินีมา บริษัทสัญชาติอเมริกา แต่ภาพยนตร์ถ่ายทำและตัดต่อทั้งหมดที่ นิวซีแลนด์ บ้านเกิดของแจ็กสัน ถ่ายทำพร้อมกันกับภาพยนตร์อีกสองเรื่องในไตรภาค ภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ โรงภาพยนตร์เอ็มบาสซี ใน เวลลิงตัน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2003 และฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2003 และในนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2003 ภาพยนตร์ได้รับการยกย่องอย่างมากจากนักวิจารณ์และแฟน ๆ พิจารณาว่าเป็นหลักสำคัญของการสร้างภาพยนตร์และความสำเร็จในภาพยนตร์แนวแฟนตาซี ภาพยนตร์ทำเงิน 1.142 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดในปี ค.ศ. 2003 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับที่สอง ณ ช่วงเวลาที่ฉาย และเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดที่จัดจำหน่ายโดยนิวไลน์ซินีมา[5]
มหาสงครามชิงพิภพ ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาพยนตร์ได้รับรางวัลจำนวนมาก ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 76 ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อและชนะเลิศทั้งหมดสิบเอ็ดสาขา ได้แก่ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม, กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม, ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม, ลำดับภาพยอดเยี่ยม, แต่งหน้ายอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม สำหรับ "อินทูเดอะเวสต์", บันทึกเสียงยอดเยี่ยมและเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม ทำให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์มากที่สุดจากภาพยนตร์เรื่องเดียวและครองสถิติกวาดรางวัลออสการ์สูงสุด
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภาพยนตร์ มหาสงครามชิงพิภพ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียิ่งทั้งจากนักวิจารณ์และจากยอดรายได้ โดยสามารถทำสถิติกวาดรางวัลออสการ์จนหมดทั้ง 11 รางวัลที่ได้ส่งเข้าประกวด เป็นสถิติสูงสุดเทียบเท่าภาพยนตร์เรื่อง ไททานิก และ เบนเฮอร์ ในจำนวนรางวัลที่ได้รับนี้รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องแรกในประวัติศาสตร์รางวัลออสการ์ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุดนี้ ด้านรายได้ ภาพยนตร์สามารถทำสถิติสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยติดอันดับภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลเป็นลำดับที่ 3 (อันดับหนึ่งคือ อวตาร อันดับสองคือ ไททานิก) รางวัลใหญ่ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับได้แก่
ดีวีดีชุดพิเศษของภาพยนตร์ (Special Extended Version) ออกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2004 โดยมีการเพิ่มฉากอีกกว่า 50 นาที
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.