อัลเบร์โต เดล ริโอ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อัลเบร์โต เดล ริโอ

โฆเซ อัลเบร์โต โรดริเกซ (José Alberto Rodríguez; 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977)[1][2][3][4] นักมวยปล้ำอาชีพชาวเม็กซิโกที่รู้จักกันดีในนาม อัลเบร์โต เดล ริโอ (Alberto Del Rio) และ เอล ปาตรอน อัลเบร์โต (El Patrón Alberto)[14] อดีตสังกัดWWE[22][23][9] และยังปล้ำให้กับสมาคม Asistencia Asesoría y Administración(AAA) เป็นแชมป์ AAA Mega Champion[24], ริงออฟออเนอร์(ROH), World Wrestling League (WWL), Lucha Underground(LU) และโทเทิลนอนสต็อปแอคเชินเรสต์ลิง (TNA)

ข้อมูลเบื้องต้น อัลเบร์โต เดล ริโอ, ชื่อเกิด ...
อัลเบร์โต เดล ริโอ
Thumb
ชื่อเกิดโฆเซ อัลเบร์โต โรดริเกซ[1][2]
เกิด (1977-05-25) 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1977 (47 ปี)[3][4][5]
San Luis Potosí City, San Luis Potosí, Mexico[4][6]
การศึกษาUniversidad Autónoma de San Luis Potosí
คู่สมรสAngela Velkei (สมรส 2012; 2016)
บุตร3
ครอบครัว
  • Dos Caras (father)
  • El Hijo de Dos Caras (brother)
  • Mil Máscaras (uncle)
  • Sicodelico (uncle)
  • El Hijo de Sicodelico (cousin)
  • Sicodelico Jr. (cousin)
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียน
ส่วนสูง6 ฟุต 5 นิ้ว (196 เซนติเมตร)[4][17]
น้ำหนัก239 ปอนด์ (108 กิโลกรัม)[18][17]
มาจากSan Luis Potosí, Mexico[17]
ฝึกหัดโดย
เปิดตัว29 September 2000[21]
ปิด

เขาเคยเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ โดส การัส จูเนียร์ (Dos Caras, Jr.) นักมวยปล้ำภายใต้หน้ากากชื่อดังในเม็กซิโก พ่อของเขาคือดอส คารัส แล้วยังเป็นหลานของมิล มัสคารัส และไซโคเดลิโอ อีกทั้งเป็นญาติกับไซโคเดลีโอ จูเนียร์ และฮิโจ ดี ไซโคเดลีโอด้วย ตระกูลของเขานับได้ว่าเป็นตระกูลมวยปล้ำอันดับต้นๆของประเทศเม็กซิโก คำว่า ดอส คารัส นั้นมีความหมายว่าอินทรีสองตัวจะเห็นได้จากสัญลักษณ์รูปอินทรีสองหัวบนหน้ากากของเขา[3][5][19]

ประวัติมวยปล้ำอาชีพ

สรุป
มุมมอง

ดับเบิลยูดับเบิลยูอี

เดล ริโอเปิดตัวครั้งแรกในสแมคดาวน์ โดยมีผู้ประกาศส่วนตัวคือริคาร์โด โรดรีเกซ[10] และเอาชนะเรย์ มิสเตริโอไปได้เป็นแมตช์แรก ซึ่งเดล ริโอได้เล่นงานที่แขนซ้ายของเรย์จนต้องพักการปล้ำ[25] ในสแมคดาวน์ 24 กันยายน 2010 เดล ริโอได้ลอบทำร้ายคริสเตียนจนได้รับบาดเจ็บและต้องพักการปล้ำเช่นกัน[13][26] ต่อมาไม่นานเรย์ก็กลับมาเอาคืนด้วยการเอาชนะและทำลายสถิติไร้พ่ายของเขาตั้งแต่ที่เข้ามาปล้ำในสมาคม WWE[27] ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) เดล ริโอได้เข้าร่วมทีมฝั่งสแมคดาวน์เป็นคนที่4 เจอกับทีมฝั่งรอว์ โดยทีมฝั่งสแมคดาวน์ชนะไปได้[28][29] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2010) ทีมเดล ริโอแพ้ให้กับทีมเรย์ในแบบแทกทีมประเพณี 5 ต่อ 5 คัดออก[30] ในทีแอลซี (2010) เดล ริโอได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 4เส้ากับเคน, เรย์ มิสเตริโอ และเอดจ์ ในรูปแบบการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้(TLC Match) สุดท้ายเอดจ์คว้าแชมป์ไปได้[31] ในรอยัลรัมเบิล (2011) เดล ริโอได้เป็นผู้ชนะรอยัลรัมเบิลคว้าสิทธิ์ชิงแชมป์โลกในเรสเซิลเมเนีย[32] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) เดล ริโอได้เอาชนะโคฟี คิงส์ตันไปได้ คืนเดียวกันได้มาลอบทำร้ายเอดจ์ หลังจากป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาได้ในแมตช์แชมเบอร์ แต่คริสเตียนเพื่อนของเอดจ์ก็ออกมาช่วยเอาไว้[33] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 เดล ริโอได้ชิงแชมป์กับเอดจ์ แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[34] หลังจากนั้นเอดจ์ได้ประกาศเลิกปล้ำเพราะมีอาการบาดเจ็บ และต้องสละตำแหน่งแชมป์[35]

เดล ริโอได้ย้ายจากสแมคดาวน์ไปอยู่รอว์จากการดราฟท์วันที่ 25 เมษายน 2011[36] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011) เดล ริโอได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับคริสเตียนในแมตช์ไต่บันได แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[37][38] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011) เดล ริโอได้เป็นผู้ชนะมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์คว้ากระเป๋าของฝั่งรอว์ได้สำเร็จ คืนเดียวกันได้ใช้สิทธิ์กระเป๋าชิงแชมป์ WWE กับซีเอ็ม พังก์ ตามคำสั่งของวินซ์ แม็กแมนทันที หลังจากที่พังก์เพิ่งคว้าแชมป์จากจอห์น ซีนา เดล ริโอวิ่งออกมาพร้อมกระเป๋าแต่ยังไม่ทันใช้ก็โดนพังก์เตะก้านคอและปีนที่กั้นคนดูหนีออกจากสนามไปท่ามกลางผู้ชมพร้อมกับเข็มขัดแชมป์ WWE ทำให้เดล ริโอพลาดโอกาสในการคว้าแชมป์[39] ในซัมเมอร์สแลม (2011) หลังจากที่พังก์เพิ่งเอาชนะซีนา และป้องกันแชมป์ WWE เอาไว้ได้ แถมยังโดนเควิน แนชมาลอบทำร้ายอีก เดล ริโอเลยขอใช้สิทธิ์กระเป๋าชิงแชมป์กับพังก์ทันที สุดท้ายเดล ริโอก็ฉวยโอกาสเตะก้านคอและกดเอาชนะคว้าแชมป์ WWE สมัยแรกได้สำเร็จ[40] ก่อนจะเสียแชมป์ให้ซีนาในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2011)[41][42] ในเฮลอินเอเซล (2011) เดล ริโอก็สามารถคว้าคว้าแชมป์กลับคืนมาได้เป็นสมัยที่2 โดยการชนะซีนาและพังก์ ในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล 3 เส้า[43] แต่ก็เสียแชมป์คืนให้พังก์ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011)[44] ในทีแอลซี (2011)แพ้สามเส้าชิงแชมป์ WWE กับซีเอ็ม พังก์ และเดอะมิซ ในแบบ TLC[45] ต่อมาต้องพักการปล้ำจากการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบ[46]

ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012) ได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทสี่เส้ากับเชมัส, คริส เจริโค และแรนดี ออร์ตัน แต่ก็ไม่สำเร็จ[47] ในสแมคดาวน์ 25 พฤษภาคม เดล ริโอได้เอาชนะออร์ตัน และเคน และได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์กับเชมัสในโนเวย์เอาท์ (2012)[48] แต่เดล ริโอก็ได้รับอาการบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือนทางสมองจนต้องหมดสิทธิ์ชิงในโนเวย์เอาท์[49] จากนั้นได้ขอท้าชิงแชมป์กับเชมัสแต่ก็แพ้ถึง 3 ศึกใหญ่ติดกัน[50][51][52] ในต้นปี 2013 เดล ริโอได้กลายมาเป็นฝ่ายธรรมะและสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทสมัยแรกจากบิ๊กโชว์[53][54] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดล ริโอสามารถป้องกันแชมป์กับแจ็ก สแวกเกอร์เอาไว้ได้[55] แต่ในรอว์คืนต่อมาก็เสียแชมป์ให้กับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์โดยการใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์[56] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) เดล ริโอได้ชนะสแวกเกอร์ และได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์กับซิกก์เลอร์[57] ในเพย์แบ็ค (2013)สามารถคว้าแชมป์คืนจากซิกก์เลอร์ได้เป็นสมัยที่2 และกลายมาเป็นฝ่ายอธรรมอีกครั้ง[58][59]

ในสแมคดาวน์ 2 สิงหาคม ผู้จัดการทั่วไปสแมคดาวน์ วิกกี เกร์เรโร ได้จัดแมตช์สามเส้าเพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์กับเดล ริโอในซัมเมอร์สแลม (2013) โดยมี แรนดี ออร์ตัน, คริสเตียน และร็อบ แวน แดม ผลปรากฏว่าคริสเตียนชนะ[60] ในรอว์ 5 สิงหาคม ได้เจอกับแวน แดม ริคาร์โดพยายามช่วยด้วยการเอาถังน้ำวางไว้ที่เสาเวทีแล้วบอกให้เดล ริโอเหวี่ยงแวน แดมไปใส่ถัง แต่สวนกลับได้แล้วเหวี่ยงเดล ริโอไปอัดถังน้ำแทน แล้วโดนรวบกดนับ3 หลังแมตช์เดล ริโอจัดการเตะใส่เต็มหน้าริคาร์โด จากนั้นก็เอาถังน้ำมาฟาดใส่ไม่ยั้ง ปิดท้ายด้วยการลากริคาร์โดเอาหัวไปหนีบไว้ที่ขั้นบันไดเหล็กก่อนจะวิ่งมาดร็อปคิกใส่เต็มๆ[61] ในซัมเมอร์สแลม เดล ริโอสามารถป้องกันแชมป์กับคริสเตียนได้สำเร็จ[62] ในรอว์ 19 สิงหาคม ได้มีแมตช์เจอกับซิน คารา ผลปรากฏว่าเดล ริโอเป็นฝ่ายชนะ เพราะซิน คาราใช้ท่า Suicide Dive พุ่งลงไปอัดเดล ริโอที่ด้านล่างเวที แต่ผิดคิวทำให้ซิน คาราเจ็บที่นิ้วมือ กรรมการต้องให้แพทย์สนามมาดูอาการ และตัดสินให้เดล ริโอชนะ หลังแมตช์ริคาร์โดออกมาขัดจังหวะ และบอกว่าเดล ริโอไม่ใช่ฮีโร่หรอก และเขาก็รู้สึกดีที่ไม่ต้องคอยติดตามเดล ริโออีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาจะติดตามคนที่เป็นฮีโร่อย่างแท้จริงคือร็อบ แวน แดม[63] ในรอว์ 26 สิงหาคม แบรด แมดด็อกซ์ประกาศว่าถ้าแวน แดมชนะเดล ริโอ จะได้สิทธิ์ชิงแชมป์ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2013) สุดท้ายเดล ริโอแพ้จากการก่อกวนของริคาร์โด โดยขึ้นไปบนโต๊ะผู้บรรยายแล้วทำท่า RVD จนทำให้เดล ริโอเสียสมาธิ และทำให้แวน แดมได้สิทธิ์ชิงแชมป์[64] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ เดล ริโอถูกปรับแพ้ฟาล์วไม่เสียแชมป์[65] ในแบทเทิลกราวด์ เดล ริโอสามารถป้องกันแชมป์กับแวน แดมได้ในกฏฮาร์ดคอร์[66] ในรอว์ 7 ตุลาคม วิกกีออกมาประกาศคู่ต่อสู้ของเดล ริโอคือริคาร์โด อดีตลูกน้อง และยังประกาศผู้ท้าชิงแชมป์กับเดล ริโอในเฮลอินเอเซล (2013) คือจอห์น ซีนา เดล ริโอกำลังช็อคและมัวแต่โวยวายเลยโดนริคาร์โดรวบกดแพ้ไป หลังแมตช์เดล ริโอเล่นงานริคาร์โดระบายอารมณ์ จากนั้นก็เอาเก้าอี้มาหนีบแขนแล้วใส่ Cross ArmBreaker จนกรรมการต้องมาห้าม[67] ในเฮลอินเอเซลเสียแชมป์ให้ซีนา[68] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013) ไม่สามารถคว้าแชมป์คืนจากซีนาได้[69]

ในรอว์ 6 มกราคม 2014 หลังจากเอาชนะซิน คาราไปได้ เดล ริโอเอาไมค์มาพูดกับแฟนๆบอกว่าถ้าจะพูดถึงรอยัลรัมเบิลก็ควรจะพูดถึงเขาแต่กลายเป็นว่ามีแต่คนพูดถึงบาทิสตา ดังนั้นเขาจะชนะรอยัลรัมเบิลให้ได้อีกครั้ง[70] ในรอว์ 13 มกราคมหลังจากชนะเรย์ไปได้ก็ท้าทายว่าจะเล่นงานบาทิสตา ในรอว์ 20 มกราคม เอาชนะเรย์ไปได้อีกครั้ง หลังแมตช์ถูกบาทิสตาจับสไปน์บัสเตอร์และต่อด้วยบาทิสตา บอมบ์[71] ในรอยัลรัมเบิล (2014)ได้เข้าร่วมแมตช์เป็นลำดับที่27 แต่ก็ถูกกำจัดออกโดยบาทิสตา[72] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014)แพ้ให้บาทิสตา ในรอว์คืนต่อมาก็สามารถเอาชนะบาทิสตาคืนได้ จากการที่แรนดี ออร์ตันออกมาทำลายสมาธิบาทิสตา จึงโดนรวบกดจนแพ้ไป[73] วันที่ 7 สิงหาคม 2014 WWE ได้ประกาศไล่เดล ริโอออกจากสมาคม โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่มีความเป็นมืออาชีพและทะเลาะวิวาทกับเพื่อนร่วมงาน[74] เว็บไซต์ F4WOnline เปิดเผยว่าเหตุการณ์ที่ทำให้ WWE ไล่เดล ริโอออกนั้นคือเหตุการณ์ที่เดล ริโอไปตบหน้าทีมงานฝ่ายโซเชียลมีเดียของสมาคม เพราะไปพูดเหยียดเชื้อชาติ ทั้งนี้สัญญาของเดล ริโอก็กำลังจะหมดลงอยู่แล้วและเจ้าตัวก็ไม่คิดจะต่อสัญญาแต่แรกแล้วด้วย[75]

ตุลาคม 2015 เขาได้กลับมายัง WWE อีกครั้งโดยใช้นามเดิม อัลเบร์โต เดล ริโอ ในเฮลอินเอเซล (2015) มาพร้อมกับเซบ โคลเตอร์ และคว้าแชมป์ยูเอส มาจากจอห์น ซีนา เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ[76] ในช่วงปลายปี 2015 เดล ริโอได้เข้าร่วมกลุ่มเดอะลีกออฟเนชันส์[77][78] ในรอว์ (11 มกราคม 2016) เสียแชมป์ยูเอสให้กับคาลิสโต[79][80] ก่อนจะกระชากแชมป์คืนมาได้ในสแมคดาวน์ เพียง 1 วันเท่านั้น[81] แต่ก็เสียแชมป์คืนในรอยัลรัมเบิล (2016)[82][83] ในเดือนเมษายน 2016 ลีกออฟเนชันส์ได้แตกกลุ่ม[84][85] วันที่ 17 สิงหาคม เดล ริโอได้ถูก WWE แบนเป็นเวลา 30 วัน จากการตรวจสุขภาพไม่ผ่าน[86][87] วันที่ 9 กันยายน เดล ริโอได้ออกจาก WWE เป็นครั้งที่2[88][89][90] และกลับไปปล้ำสมาคมอิสระอีกครั้ง[91][92]

สมาคมอื่น

เขาได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า เอล ปาตรอน อัลเบร์โต และได้เซ็นสัญญากับสมาคม Asistencia Asesoría y Administración (AAA)[93][94][15], World Wrestling League (WWL)[95], ริงออฟออเนอร์ (ROH)[18][11][96] และ Lucha Underground (LU)[97][98][99][100], โทเทิลนอนสต็อปแอคเชินเรสต์ลิง(TNA) และ Nación Lucha Libre[101]

อาชีพนักต่อสู้แบบผสม

ข้อมูลเบื้องต้น ดอส คารัส จูเนียร์, เกิด ...
ดอส คารัส จูเนียร์
เกิด (1977-05-25) พฤษภาคม 25, 1977 (47 ปี)
San Luis Potosí, Mexico
สัญชาติMexican
ส่วนสูง1.96 m (6 ft 5 in)[102]
น้ำหนัก96 kg (212 lb; 15.1 st)[6]
รุ่นHeavyweight
รูปแบบProfessional wrestling
มาจากSan Luis Potosí, Mexico
สถิติการต่อสู้แบบผสม
คะแนนรวม14
ชนะ9
โดยการน็อก2
โดยการยอม7
แพ้5
โดยการน็อก2
โดยการยอม1
โดยการตัดสิน1
โดยการตัดสิทธิ์1
สถิติการต่อสู้แบบผสม จากเชอร์ด็อก
ปิด

สถิติการต่อสู้แบบผสม

ข้อมูลเพิ่มเติม Res., สถิติ ...
Res. สถิติ คู่ต่อสู้ Method Event วันที่ รอบ เวลา สถานที่ หมายเหตุ
Loss 9–6 Tito Ortiz Submission (rear-naked choke) Combate Americas 51: Tito vs. Alberto 7 ธันวาคม 2019 1 3:10 McAllen, Texas, United States Catchweight (210 lbs) bout.
Loss 9–5 Yamamoto Hanshi TKO (punches) Cage of Combat 4: Spanish Bombs 27 กุมภาพันธ์ 2010 2 2:47 Madrid, Spain
Win 9–4 Arthur Bart KO (head kick) Cage of Combat 3: San Vale Todo 13 กุมภาพันธ์ 2010 1 3:51 Torreón, Mexico
Win 8–4 Toshiyuki Moriya Submission (neck crank) COC I: Cage of Combat I 26 ธันวาคม 2009 1 3:17 Veracruz, Mexico
Win 7–4 Ignacio Laguna Submission (rear-naked choke) Berkman MMA Promotions I 15 ธันวาคม 2008 2 2:36 Mexico City, Mexico
Win 6–4 Hato Kiyoshi Submission (rear-naked choke) MMA Xtreme 17 15 ธันวาคม 2007 2 2:31 Honduras
Win 5–4 Joao Tua Submission (guillotine choke) MMA Xtreme 14 13 ตุลาคม 2007 1 2:41 Honduras
Win 4–4 George King Submission (rear-naked choke) VFX: Vale Tudo 27 พฤษภาคม 2007 1 4:00 Tláhuac, Mexico
Loss 3–4 Kazuhiro Nakamura Decision (unanimous) Pride 27 1 กุมภาพันธ์ 2004 3 5:00 Osaka, Japan
Loss 3–3 Mirko Cro Cop KO (head kick) Pride Bushido 1 5 ตุลาคม 2003 1 0:46 Saitama, Japan
Win 3–2 Brad Kohler TKO (shoulder injury) Deep: 12th Impact 15 กันยายน 2003 1 1:25 Tokyo, Japan
Loss 2–2 Hiroyuki Ito DQ (grabbing the ropes) Deep: 9th Impact 5 พฤษภาคม 2003 1 3:21 Tokyo, Japan
Win 2–1 Tatsuaki Nakano Submission (rear-naked choke) Deep: 6th Impact 7 กันยายน 2002 1 4:05 Tokyo, Japan
Loss 1–1 Kengo Watanabe Submission (rear-naked choke) Deep: 4th Impact 30 มีนาคม 2002 2 3:52 Nagoya, Japan
Win 1–0 Kengo Watanabe TKO (broken arm) Deep: 2nd Impact 18 สิงหาคม 2001 1 0:50 Yokohama, Japan
ปิด

ชีวิตส่วนตัว

Rodríguezเคยแต่งงานกับ Angela Velkei ซึ่งเขามีลูกสามคน[103] Velkei ยื่นฟ้องหย่าจากRodríguezในเดือนมิถุนายน 2016 และระบุว่าการแต่งงานสิ้นสุดลงในเดือนก่อนหน้าเนื่องจากการล่วงประเวณี อย่างไรก็ตามRodríguezอ้างว่าการแต่งงานสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายน 2558

ในเดือนพฤษภาคม 2016 Rodríguezและนักมวยปล้ำอาชีพ Saraya-Jade Bevis ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในนาม Paige ได้เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขา[104][105] ทั้งสองเริ่มหมั้นกันในเดือนตุลาคม 2016[106] พวกเขาแยกปลายปี 2017[107]

Rodríguezเป็นเจ้าของร้านอาหารในซานอันโตนิโอเท็กซัสชื่อ La Cantinita ซึ่งเปิดในปี 2016[108] อย่างไรก็ตามร้านอาหารปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2017[109]

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 Rodríguezกลายเป็นพลเมืองสัญชาติของสหรัฐอเมริกา[110]

แชมป์และรางวัล

มวยสมัครเล่น

  • Central American and Caribbean Games
    • First place (3 times)
  • World Junior Championships
    • Gold (1997)

มวยปล้ำอาชีพ

นัดที่มีเดิมพัน

ข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ชนะ, ผู้แพ้ ...
ผู้ชนะ ผู้แพ้ สถานที่ ศึก วันที่ หมายเหตุ
ดอส คาราส จูเนียร์ (หน้ากาก)ดาร์เคโต (หน้ากาก)Aguascalientes, Aguascalientes, เม็กซิโกLive event6 มีนาคม 2003[19]
เอล ปาตรอน อัลเบร์โต (ผม)Brian Cage (ผม)Mexico City, เม็กซิโกTriplemanía XXIII9 สิงหาคม 2015[130]
ปิด

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.