โตเกียว
เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京; โรมาจิ: Tōkyō; ทับศัพท์: โทเกียว) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า มหานครโตเกียว (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to; ทับศัพท์: โทเกียว-โตะ; อังกฤษ: Tokyo Metropolis) เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีระบบการปกครองแบบพิเศษซึ่งรวมการปกครองในรูปแบบจังหวัดและเทศบาลนครไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ เขตอภิมหานครโตเกียวจัดว่าเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหากนับรวมประชากรทั้งหมดในเขตอภิมหานครโตเกียวแล้วจะมีประชากรมากถึง 41 ล้านคน (ค.ศ. 2024) [8] โดยอาศัยในเขตเมืองประมาณ 14 ล้านคน[9] ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง โตเกียวตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต คำว่า "โตเกียว" หมายถึง "นครหลวงตะวันออก" โตเกียวได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน "สี่นครเอกของโลก" ร่วมกับลอนดอน ปารีส และนิวยอร์ก ได้รับการจัดอันดับตามดัชนีชี้ความน่าอยู่ทั่วโลก (Global Liveability Index) ให้เป็น 1 ใน 4 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2021
โตเกียว 東京都 | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มหานครโตเกียว 東京都 | |||||||||||||
สมญา: | |||||||||||||
เพลง: "โทเกียวโตกะ" (ญี่ปุ่น: 東京都歌; โรมาจิ: Tōkyō-to Ka) | |||||||||||||
แผนที่แบบโต้ตอบแสดงขอบเขตของมหานครโตเกียว | |||||||||||||
แผนที่โตเกียว (สีแดง) ภายในประเทศญี่ปุ่น | |||||||||||||
พิกัด: 35°41′23″N 139°41′32″E | |||||||||||||
ประเทศ | ญี่ปุ่น | ||||||||||||
ภูมิภาค | คันโต | ||||||||||||
เกาะ | ฮนชู | ||||||||||||
ศูนย์กลาง | โตเกียว[a] | ||||||||||||
เขตการปกครองย่อย | 23 เขตพิเศษ, 26 นคร, 1 อำเภอ, และ 4 กิ่งจังหวัด | ||||||||||||
การปกครอง | |||||||||||||
• องค์กร | องค์การปกครองมหานครโตเกียว | ||||||||||||
• ผู้ว่าราชการ | ยูริโกะ โคอิเกะ (อิสระ) | ||||||||||||
พื้นที่[3] | |||||||||||||
• ทั้งหมด | 2,194 ตร.กม. (847 ตร.ไมล์) | ||||||||||||
• รวมปริมณฑล | 13,452 ตร.กม. (5,194 ตร.ไมล์) | ||||||||||||
อันดับพื้นที่ | ที่ 45 ในประเทศญี่ปุ่น | ||||||||||||
ความสูงจุดสูงสุด[4] | 2,017 เมตร (6,617 ฟุต) | ||||||||||||
ความสูงจุดต่ำสุด | 0 เมตร (0 ฟุต) | ||||||||||||
ประชากร (ค.ศ. 2023)[5] | |||||||||||||
• ทั้งหมด | 14,094,034 คน | ||||||||||||
• อันดับ | ที่ 1 ในประเทศญี่ปุ่น | ||||||||||||
• ความหนาแน่น | 6,363 คน/ตร.กม. (16,480 คน/ตร.ไมล์) | ||||||||||||
• เขตเมือง | 39,105,000 คน | ||||||||||||
• รวมปริมณฑล[6] | 40,800,000 คน | ||||||||||||
• ความหนาแน่นรวมปริมณฑล | 3,000 คน/ตร.กม. (7,900 คน/ตร.ไมล์) | ||||||||||||
เดมะนิม | Tokyoite (โตเกียวไอต์) | ||||||||||||
ประชากรศาสตร์ | |||||||||||||
• ภาษาถิ่น |
| ||||||||||||
จีดีพี[7] | |||||||||||||
• ทั้งหมด | 109.692 ล้านล้านเยน 1.027 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค.ศ. 2020) | ||||||||||||
• เขตมหานคร | 222.129 ล้านล้านเยน 2.084 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค.ศ. 2020) | ||||||||||||
เขตเวลา | UTC+09:00 (เวลามาตรฐานญี่ปุ่น) | ||||||||||||
ISO 3166-2 | JP-13 | ||||||||||||
รหัสท้องถิ่น | 13000-1 | ||||||||||||
เว็บไซต์ | www.metro.tokyo.lg.jp | ||||||||||||
|
เดิมทีโตเกียวเป็นหมู่บ้านชาวประมงซึ่งรู้จักกันในชื่อ "เอโดะ" กระทั่งเมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองในช่วงประมาณ ค.ศ. 1603 ในรัฐบาลเอโดะ และได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลกในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ด้วยประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ภายหลังจากการฟื้นฟูเมจิ เมืองหลวงของจักรวรรดิญี่ปุ่นอย่างเกียวโตได้ถูกย้ายมาที่เอโดะ และได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โตเกียว" ซึ่งต่อมาทั้งเมืองได้รับผลกระทบรุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ตามด้วยการทิ้งระเบิดโตเกียว ก่อนจะได้รับการบูรณะอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษ 1950 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง นำไปสู่ยุค “ความมหัศจรรย์ของเศรษฐกิจญี่ปุ่น” ในทศวรรษ 1960 และนับตั้งแต่ ค.ศ. 1943 ได้มีการจัดตั้งมหานครโตเกียวขึ้นเป็นเขตปกครองรูปแบบพิเศษ และมีการแบ่งนครโตเกียวออกเป็น 23 เขต ซึ่งรวมถึงกลุ่มเกาะบริเวณนอกเขตเมืองอีกสองแห่งซึ่งเรียกว่า หมู่เกาะโตเกียว
โตเกียวได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยผลผลิตมวลรวมอยู่ที่ 113.7 ล้านล้านเยนหรือ 1.04 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2021 และคิดเป็น 20.7% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.07 ล้านเยนหรือ 73,820 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัว[10] โตเกียวถูกจัดอยู่ในประเภทเมืองอัลฟ่าพลัส (เมืองระดับโลก) ตามเครือข่ายการวิจัยโลกาภิวัตน์และเมืองโลก โตเกียวยังถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมหลักในภูมิภาคควบคู่ไปกับโยโกฮามะ คาวาซากิ และชิบะ เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทระดับโลกจำนวน 29 แห่งโดยฟอร์จูนโกลบอล 500 (บริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกของโลก)[11] และใน ค.ศ. 2020 โตเกียวได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับสี่ตามความสามารถในการแข่งขันด้านการเงิน เป็นรองเพียงนิวยอร์ก ลอนดอน และเซี่ยงไฮ้ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวยังเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 1.5 เท่าของ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก[12] แม้ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะลดลงในช่วงทศวรรษที่สาบสูญ
โตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการขนส่งสาธารณะที่ทันสมัยที่สุดในโลก[13][14] โตเกียวเมโทรสายกินซะเปิดให้บริการใน ค.ศ. 1927 ในปัจจุบันถือเป็นเส้นทางรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก[15] สถานีรถไฟโตเกียวยังเป็นสถานีรถไฟหลักของภูมิภาค และเป็นหนึ่งในสถานีสำคัญของประเทศ ให้บริการเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงที่รู้จักกันในชื่อ ชิงกันเซ็ง นอกจากนี้ สถานีสำคัญอย่าง สถานีรถไฟชินจูกุ ถือเป็นหนึ่งในสถานีที่มีผู้ใช้บริการมากติดอันดับโลกในแต่ละวัน โตเกียวยังเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นท่าอากาศยานภายในประเทศที่ดีที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2020[16]
โตเกียวเคยเป็นเจ้าภาพเหตุการณ์ระดับโลกหลายครั้ง ได้แก่ กีฬาโอลิมปิกปี 1964 และ 2020, พาราลิมปิกฤดูร้อน 1964 และ 2020 รวมถึงเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดกลุ่ม 7 จำนวนสามครั้ง (ค.ศ. 1979, 1986 และ 1993) โตเกียวยังเป็นศูนย์การทางด้านการวิจัยและการพัฒนาของประเทศ และเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง รวมถึงมหาวิทยาลัยโตเกียว เขตพิเศษอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงในโตเกียวได้แก่ เขตชิโยดะ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญระดับประเทศสองแห่ง ได้แก่ พระราชวังหลวงของสมเด็จพระจักรพรรดิ และอาคารรัฐสภาญี่ปุ่น, เขตชินจูกุ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ และเขตชิบูยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมด้านวัฒนธรรม การค้า และธุรกิจ โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โตเกียวดิสนีย์แลนด์, เซ็นโซจิ, ศาลเจ้าเมจิ, สวนฮามาริกีว, และโตเกียวทาวเวอร์ และยังเป็นที่ตั้งของโตเกียวสกายทรี สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น[17] รวมถึง "เส้นทางระบายน้ำเขตรอบนอกเมืองหลวง" หรือ "อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ" ซึ่งใช้รับมือเหตุอุทกภัย[18] โตเกียวยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากการสำรวจในระดับนานาชาติหลายครั้ง[19][20]
โตเกียว | |||||||
โตเกียวเมื่อเขียนด้วยคันจิ | |||||||
ชื่อภาษาญี่ปุ่น | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ชินจิไต | 東京 | ||||||
คีวจิไต | 東亰 | ||||||
ฮิรางานะ | とうきょう | ||||||
คาตากานะ | トウキョウ | ||||||
|
โตเกียวเคยถูกเรียกว่า "เอโดะ" (ญี่ปุ่น: 江戸; โรมาจิ: Edo) ซึ่งแปลว่า "ปากน้ำ"[21] ชื่อนี้มาจากที่ตั้งเริ่มแรกของชุมชนตรงบริเวณที่แม่น้ำซูมิดะไหลสู่อ่าวโตเกียว เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิในช่วงการฟื้นฟูเมจิใน ค.ศ. 1868 ก็เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว แปลว่า "กรุงตะวันออก" (東 โท "ตะวันออก" และ 京 เกียว "กรุง") สอดคล้องกับเมืองหลวงต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกในการรวมคำที่แสดงถึงเมืองหลวง (京) ไว้ในชื่อของเมือง ตัวอย่างเช่น เกียวโต (京都), เคโจ (京城), ปักกิ่ง (北京), หนานจิง (南京), และซีจิง (西京)[21] ในตอนต้นยุคเมจิ บางครั้งเรียกโตเกียวว่า "โทเก"[22] ซึ่งเป็นวิธีอ่านอีกแบบของตัวคันจิ แต่ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว[23]
โตเกียวแต่เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ที่ชื่อเอโดะ ต่อมาใน ค.ศ. 1457 ปราสาทเอโดะได้ถูกสร้างขึ้น และต่อมาในปีทศวรรษที่ 1590 เป็นยุคที่โทกูงาวะ อิเอยาซุได้เริ่มปราบหัวเมืองต่าง ๆ ซึ่งภายหลังจากปราบหัวเมืองต่าง ๆ ลงได้อย่างราบคาบแล้วใน ค.ศ. 1603 เขาได้สถาปนารัฐบาลโชกุนขึ้นปกครองประเทศ โดยมีเอโดะเป็นที่ตั้งของ "บากูฟุ" (รัฐบาลทหาร) และสถาปนาตนขึ้นเป็นโชกุน เมืองเอโดะจึงได้กลายเป็นศูนย์กลางของรัฐบาลทหารของเขาซึ่งมีอำนาจปกครองทั้งประเทศ ในช่วงเวลาต่อมาในยุคเอโดะ เมืองเอโดะก็ขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก โดยมีประชากรมากกว่า 1 ล้านคนใน คริสต์ศตวรรษที่ 18[24] และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น[25] แม้ว่าองค์จักรพรรดิประทับอยู่ในนครหลวงเฮอังเกียว (เกียวโต)
เอโดะได้เปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว (เมืองหลวงตะวันออก) เมื่อ ค.ศ. 1868 หลังจากการล่มสลายของระบอบปกครองภายใต้โชกุนเอโดะและรวบรวมอำนาจคืนสู่จักรพรรดิ จักรพรรดิเมจิผู้ทรงพระเยาว์เคยเสด็จเยือนโตเกียวครั้งหนึ่งในช่วงปลาย ค.ศ. 1868 และในที่สุดก็เสด็จย้ายเข้ามาประทับใน ค.ศ. 1869 โดยก่อนหน้านี้โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศอยู่แล้ว[26] แต่การที่จักรพรรดิทรงย้ายมาประทับจึงทำให้โตเกียวกลายเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิโดยพฤตินัยด้วย โดยที่ปราสาทเอโดะเดิมได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวงโตเกียว
ในยุคเมจิ โตเกียวมีการพัฒนาโดยได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เช่น การเปิดบริการโทรเลขระหว่างโตเกียวกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1869 และการเปิดบริการรถไฟสายแรกระหว่างชิมบาชิกับโยโกฮามะใน ค.ศ. 1872[26] ต่อมาได้มีการจัดตั้งเทศบาลนครโตเกียวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1889
โตเกียวเมโทรสายกินซะช่วงระหว่างอูเอโนะถึงอาซากูซะเป็นรถไฟใต้ดินสายแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออก ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 1927[27]
ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 โตเกียวประสบภัยพิบัติใหญ่สองครั้ง ได้แก่ ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต ค.ศ. 1923 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 140,000 คน และในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง[28]
ใน ค.ศ. 1943 เทศบาลนครโตเกียวได้ควบรวมเข้ากับจังหวัดโตเกียวเพื่อจัดตั้งเป็น "มหานครโตเกียว" (ญี่ปุ่น: 東京都; โรมาจิ: Tōkyō-to) นับตั้งแต่นั้นมา องค์การปกครองมหานครโตเกียวก็ทำหน้าที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดโตเกียวเดิม โดยครอบคลุมในส่วนของเขตพิเศษของโตเกียวที่เคยเป็นพื้นที่ของเทศบาลนครโตเกียวมาก่อนด้วย
สงครามโลกครั้งที่สองทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของโตเกียวถูกทำลายอย่างกว้างขวาง เนื่องมาจากการโจมตีทางอากาศและการใช้อาวุธเพลิงของฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์การทิ้งระเบิดที่โตเกียวใน ค.ศ. 1944 และ 1945 คาดว่าได้คร่าชีวิตพลเรือนไปเป็นจำนวนระหว่าง 75,000 ถึง 200,000 ราย และทำให้ตัวเมืองมากกว่าครึ่งถูกทำลาย[29] ในคืนวันที่ 9–10 มีนาคม ค.ศ. 1945 มีการจู่โจมของอเมริกาที่ชื่อว่า "ปฏิบัติการมีตติงเฮาส์" (Operation Meetinghouse)[30] ระเบิดเพลิงเกือบ 700,000 ลูกตกลงมายังฝั่งตะวันออกของเมือง ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่น พื้นที่สองในห้าของเมืองถูกเผาทั้งหมด อาคารมากกว่า 276,000 หลังถูกทำลาย พลเรือน 100,000 รายเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 110,000 ราย[31][32] ระหว่าง ค.ศ. 1940 ถึง 1945 ประชากรในโตเกียวลดลงจาก 6,700,000 คน เหลือน้อยกว่า 2,800,000 คน ผู้คนส่วนใหญ่ที่สูญเสียบ้านต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมชั่วคราวที่ชำรุดทรุดโทรม[33]
โตเกียวตั้งอยู่ในที่ราบคันโตติดกับอ่าวโตเกียว มีขนาดประมาณ 90 กม. จากตะวันออกถึงตะวันตก และ 25 กม. จากเหนือถึงใต้ ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดชิบะ ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดยามานาชิ ทิศใต้ติดกับจังหวัดคานางาวะ และทิศเหนือติดกับจังหวัดไซตามะ เขตการปกครองของโตเกียวนั้นรวมไปถึงหมู่เกาะอิซุและหมู่เกาะโองาซาวาระด้วย จึงทำให้โตเกียวมีจุดที่อยู่ใต้สุดและตะวันออกสุดของญี่ปุ่นอยู่ในพื้นที่ด้วย
ทางตะวันออกของโตเกียวเป็นที่ราบตะกอนน้ำพาเช่นบริเวณปากแม่น้ำซูมิดะและแม่น้ำเอโดะ พื้นดินค่อนข้างอ่อนจึงทำให้เกิดการทรุดตัวของพื้นดิน[34] อ่าวโตเกียวถูกถมที่เพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ยุคเอโดะ[35] และเริ่มมีการถมที่เพื่อสร้างสถานที่กำจัดขยะตั้งแต่ปี 1927[36] ปัจจุบันพื้นที่ประมาณร้อยละ 20 ของอ่าวโตเกียวกลายเป็นพื้นที่ถูกถม[37] ในอำเภอนิชิตามะทางตะวันตกเป็นที่สูง โดยมีเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูง 2,017 ม. เป็นจุดที่สูงที่สุดในโตเกียว โตเกียวตั้งอยู่บนรอยเลื่อนที่มีพลังซึ่งอยู่ใกล้ผิวโลกมาก จึงมีการคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขึ้น[38]
ทั้งหมู่เกาะอิซุและโองาซาวาระเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ หมู่เกาะอิซุมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังอยู่จำนวนมาก เช่นภูเขาไฟโอยามะบนเกาะมิยาเกะที่ระเบิดในปี 2000[39] ส่วนหมู่เกาะโองาซาวาระนั้นอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่มากและมีสัตว์ท้องถิ่นหลายชนิด จนบางครั้งถูกเรียกว่าหมู่เกาะกาลาปาโกสแห่งตะวันออก[40]
ตามการแบ่งเขตภูมิอากาศแบบเคิปเปน โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชุ่มชื้นกึ่งเขตร้อน (Cfa)[41] และตามการแบ่งเขตภูมิอากาศในประเทศญี่ปุ่น โตเกียวอยู่ในเขตภูมิอากาศชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีลักษณะเด่นคือมีความแตกต่างระหว่างฤดูชัดเจน อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายในแต่ละวัน ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงและฝนตกมาก ฤดูหนาวมีวันที่แดดออกและอากาศแห้ง
โตเกียวเป็นตัวอย่างของปรากฏการณ์เกาะความร้อน ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยความร้อนโดยวิธีต่าง ๆ เช่นไอร้อนจากเครื่องปรับอากาศหรือรถยนต์ และการพัฒนาตัวเมืองทำให้มีพื้นที่สีเขียวน้อยลง[42]
ข้อมูลภูมิอากาศของ23 เขตพิเศษของโตเกียว[43] (ค.ศ. 1981–2017) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | 22.6 (72.7) |
24.9 (76.8) |
25.3 (77.5) |
29.2 (84.6) |
32.2 (90) |
36.2 (97.2) |
39.5 (103.1) |
39.1 (102.4) |
38.1 (100.6) |
32.6 (90.7) |
27.3 (81.1) |
24.8 (76.6) |
39.5 (103.1) |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 9.6 (49.3) |
10.4 (50.7) |
13.6 (56.5) |
19.0 (66.2) |
22.9 (73.2) |
25.5 (77.9) |
29.2 (84.6) |
30.8 (87.4) |
26.9 (80.4) |
21.5 (70.7) |
16.3 (61.3) |
11.9 (53.4) |
19.8 (67.6) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 5.2 (41.4) |
5.7 (42.3) |
8.7 (47.7) |
13.9 (57) |
18.2 (64.8) |
21.4 (70.5) |
25.0 (77) |
26.4 (79.5) |
22.8 (73) |
17.5 (63.5) |
12.1 (53.8) |
7.6 (45.7) |
15.4 (59.7) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | 0.9 (33.6) |
1.7 (35.1) |
4.4 (39.9) |
9.4 (48.9) |
14.0 (57.2) |
18.0 (64.4) |
21.8 (71.2) |
23.0 (73.4) |
19.7 (67.5) |
14.2 (57.6) |
8.3 (46.9) |
3.5 (38.3) |
11.6 (52.9) |
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) | -9.2 (15.4) |
-7.9 (17.8) |
-5.6 (21.9) |
-3.1 (26.4) |
2.2 (36) |
8.5 (47.3) |
13.0 (55.4) |
15.4 (59.7) |
10.5 (50.9) |
-0.5 (31.1) |
-3.1 (26.4) |
-6.8 (19.8) |
−9.3 (15.3) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 52.3 (2.059) |
56.1 (2.209) |
117.5 (4.626) |
124.5 (4.902) |
137.8 (5.425) |
167.7 (6.602) |
153.5 (6.043) |
168.2 (6.622) |
209.9 (8.264) |
197.8 (7.787) |
92.5 (3.642) |
51.0 (2.008) |
1,528.8 (60.189) |
ปริมาณหิมะ ซม (นิ้ว) | 5 (2) |
5 (2) |
1 (0.4) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
0 (0) |
11 (4.3) |
ความชื้นร้อยละ | 52 | 53 | 56 | 62 | 69 | 75 | 77 | 73 | 75 | 68 | 65 | 56 | 62 |
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.5 mm) | 5.3 | 6.2 | 11.0 | 11.0 | 11.4 | 12.7 | 11.8 | 9.0 | 12.2 | 10.8 | 7.6 | 4.9 | 114.0 |
วันที่มีหิมะตกโดยเฉลี่ย | 2.8 | 3.7 | 2.2 | 0.2 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.0 | 0.8 | 9.7 |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 184.5 | 165.8 | 163.1 | 176.9 | 167.8 | 125.4 | 146.4 | 169.0 | 120.9 | 131.0 | 147.9 | 178.0 | 1,876.7 |
แหล่งที่มา: สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (รายงาน ค.ศ. 1872–ปัจจุบัน)[44][45][46] |
ข้อมูลภูมิอากาศของโตเกียวตะวันตก (ค.ศ. 1981–2017) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เดือน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. | ทั้งปี |
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) | 6.7 (44.1) |
7.1 (44.8) |
10.3 (50.5) |
16.3 (61.3) |
20.5 (68.9) |
23.0 (73.4) |
26.8 (80.2) |
28.2 (82.8) |
23.9 (75) |
18.4 (65.1) |
13.8 (56.8) |
9.3 (48.7) |
17.1 (62.8) |
อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) | 1.3 (34.3) |
1.8 (35.2) |
5.0 (41) |
10.6 (51.1) |
15.1 (59.2) |
18.5 (65.3) |
22.0 (71.6) |
23.2 (73.8) |
19.5 (67.1) |
13.8 (56.8) |
8.5 (47.3) |
3.8 (38.8) |
11.9 (53.4) |
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) | −2.7 (27.1) |
−2.3 (27.9) |
0.6 (33.1) |
5.6 (42.1) |
10.5 (50.9) |
14.8 (58.6) |
18.7 (65.7) |
19.7 (67.5) |
16.3 (61.3) |
10.3 (50.5) |
4.6 (40.3) |
−0.1 (31.8) |
8.1 (46.6) |
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) | 44.1 (1.736) |
50.0 (1.969) |
92.5 (3.642) |
109.6 (4.315) |
120.3 (4.736) |
155.7 (6.13) |
195.4 (7.693) |
280.6 (11.047) |
271.3 (10.681) |
172.4 (6.787) |
76.7 (3.02) |
39.9 (1.571) |
1,623.5 (63.917) |
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด | 147.1 | 127.7 | 132.2 | 161.8 | 154.9 | 109.8 | 127.6 | 148.3 | 99.1 | 94.5 | 122.1 | 145.6 | 1,570.7 |
แหล่งที่มา: สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น[47] |
โตเกียวมี 23 เขตพิเศษ (ญี่ปุ่น: 特別区; โรมาจิ: tokubetsu-ku) ได้แก่
นอกเหนือเขตพิเศษซึ่งจัดว่าเป็นใจกลางของมหานครโตเกียวแล้ว ทางพื้นที่ฝั่งตะวันตกของ 23 เขตพิเศษยังเป็นที่ตั้งของฝั่งโตเกียวตะวันตก หรือที่ชาวญี่ปุ่นมักเรียกว่า "ฝั่งทามะ" (ญี่ปุ่น: 多摩地域; โรมาจิ: Tamachiiki)" ซึ่งประกอบด้วยนคร 26 แห่ง
26 นครในโตเกียวตะวันตก ได้แก่
ทางตะวันตกสุดของจังหวัดโตเกียวนั้นเป็นที่ตั้งของอำเภอขนาดใหญ่ชื่อ "อำเภอนิชิตามะ" (ญี่ปุ่น: 西多摩郡; โรมาจิ: Nishitama-gun) เป็นพื้นที่ที่มีภูมิประเทศแบบภูเขา ซึ่งอำเภอนิชิตามะนี้เองเป็นที่ตั้งของภูเขาที่สูงที่สุดในโตเกียวคือเขาคูโมโตริซึ่งมีความสูงกว่า 2,017 เมตร และยังมีทะเลสาบโอกูตามะซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อกับจังหวัดยามานาชิอีกด้วย อำเภอนิชิตามะประกอบด้วยสามเมืองและหนึ่งหมู่บ้าน ได้แก่
นอกชายฝั่งออกไปนั้น โตเกียวมีหมู่เกาะมากมาย แต่เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลมากจากศาลาว่าการมหานครโตเกียว ดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้ตั้งสำนักงานท้องถิ่นขึ้นบนเกาะนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยมีหมู่เกาะที่เป็นที่รู้จักอยู่ คือ
หมู่เกาะอิซุเป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฟูจิ-ฮาโกเนะ-อิซุ ซึ่งหมู่เกาะอิซุนี้เป็นที่ตั้งของ 3 กิ่งจังหวัด
หมู่เกาะโองาซาวาระ จากเหนือจรดใต้ประกอบไปด้วยเกาะชิชิจิมะ เกาะนิชิโนะชิมะ เกาะฮาฮาจิมะ เกาะคิตะอิโอ และเกาะมินามิอิโอ ซึ่งโองาซาวาระยังบริหารเกาะเล็ก ๆ ที่ห่างไกลอีกสองเกาะคือเกาะมินามิโตริชิมะ ดินแดนส่วนตะวันออกที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวกว่า 1,850 กม. และเกาะโอกิโนะโตริชิมะ เกาะที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประชาชนท้องถิ่นแท้ ๆ จะพบเฉพาะบนเกาะชิจิและเกาะฮาฮะเท่านั้น
โตเกียวเป็น 1 ใน 3 ศูนย์กลางทางการเงินของโลกร่วมกับนครนิวยอร์กและลอนดอน โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการสำรวจพบว่าในเขตอภิมหานครโตเกียวซึ่งมีประชากรประมาณ 35.2 ล้านคน มี GDP รวม 1.191 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2005 (เทียบด้วยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ) ทำให้โตเกียวเป็นเขตเมืองที่มี GDP สูงที่สุดในโลก[48] ในปี 2008 มีบริษัท 47 แห่งในรายชื่อ Fortune Global 500 ที่มีฐานอยู่ในโตเกียว ซึ่งมากเป็นเกือบ 2 เท่าของเมืองอันดับ 2 [49]
โตเกียวเป็น 1 ในศูนย์กลางหลักทางการเงินระหว่างประเทศ[50] และมีสำนักงานใหญ่ของวาณิชธนกิจและบริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกหลายแห่ง ในระหว่างการพัฒนาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการพัฒนาภายใต้การควบคุมจากทางการ บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่งย้ายสำนักงานใหญ่จากเมืองต่าง ๆ เช่น โอซากะ (ซึ่งเป็นเมืองหลวงทางการค้าในอดีต) มายังโตเกียว โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์จากการที่ติดต่อรัฐบาลได้สะดวกขึ้น แต่แนวโน้มนี้ก็ชะลอตัวลงเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นและทำให้ค่าครองชีพสูงตามขึ้นไปด้วย
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมูลค่าการซื้อขายในตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ในปี 2003 โตเกียวมีพื้นที่เพื่อการเกษตรกรรมถึง 8.46 ตร.กม.[51] ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมงญี่ปุ่น การเกษตรกรรมมีมากในพื้นที่โตเกียวตะวันตก โดยสินค้าที่เน่าเปื่อยง่ายเช่นผัก ผลไม้ และดอกไม้สามารถขนส่งอย่างสะดวกและรวดเร็วไปยังตลาดในเขตพิเศษของจังหวัด โดยมี "โคมัตสึนะ" หรือผักโขมเป็นผักเศรษฐกิจ
โตเกียวซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคคันโตตอนใต้ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมภายในประเทศและระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งทางรถไฟ รถยนต์ และทางอากาศ การขนส่งมวลชนภายในโตเกียวที่สำคัญคือรถไฟและรถใต้ดินที่มีเครือข่ายกว้างใหญ่และมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
ภายในโตเกียวมีท่าอากาศยานนานาชาติฮาเนดะ (โตเกียว) ซึ่งให้บริการเที่ยวบินในประเทศเป็นส่วนใหญ่และเป็นสนามบินที่มีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดในเอเชีย[52] ท่าอากาศยานนานาชาติหลักคือท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะซึ่งอยู่ในจังหวัดชิบะ เกาะต่าง ๆ ในหมู่เกาะอิซุก็มีสนามบินของตนเอง เช่น ท่าอากาศยานฮาจิโจจิมะ ท่าอากาศยานมิยาเกจิมะ ท่าอากาศยานโอชิมะ และมีเที่ยวบินมายังสนามบินฮาเนดะ แต่หมู่เกาะโองาซาวาระยังไม่มีสนามบิน เพราะมีข้อโต้แย้งว่าไม่ควรสร้างสนามบินเพราะจะเป็นภัยคุกคามต่อธรรมชาติของเกาะ[53]
นอกจากนี้รถไฟยังเป็นการคมนาคมหลักในโตเกียว ซึ่งมีเครือข่ายทางรถไฟในเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออกเป็นผู้ให้บริการรถไฟที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงรถไฟสายยามาโนเตะ ซึ่งวิ่งเป็นวงผ่านสถานีที่สำคัญของโตเกียวเช่นสถานีโตเกียวและชินจูกุ รถไฟฟ้าใต้ดินให้บริการโดยโตเกียวเมโทรและสำนักขนส่งมหานครโตเกียว (โทเอ)
+ ประชากรของโตเกียว[54] | ||||
ตามพื้นที่1 |
จังหวัด |
12.79 ล้าน | ||
---|---|---|---|---|
ตามวัย² |
เยาวชน (อายุ 0-14) |
1.461 ล้าน (11.8%) | ||
ตามช่วงเวลา³ |
กลางวัน |
14.978 ล้าน | ||
ตามสัญชาติ |
ต่างชาติ |
364,6534 | ||
|
ผู้พำนักที่ขึ้นทะเบียนแบ่งตามสัญชาติ (ค.ศ. 2012) [55] | |
สัญญาติ | จำนวน |
---|---|
จีน | 161,169 |
เกาหลีเหนือ และ เกาหลีใต้ | 99,880 |
ฟิลิปปินส์ | 27,929 |
สหรัฐ | 15,901 |
อินเดีย | 8,313 |
เนปาล | 8,669 |
ไทย | 6,906 |
สหราชอาณาจักร | 5,522 |
พม่า | 4,781 |
ฝรั่งเศส | 4,635 |
โตเกียวมีประชากรทั้งหมดประมาณ 12.79 ล้านคนในเดือนตุลาคม 2007 ซึ่งในจำนวนนั้น 8.65 ล้านคนอาศัยอยู่บริเวณ 23 เขตการปกครองพิเศษในโตเกียว ในเวลากลางวันมีประชากรเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2.5 ล้านคนเนื่องจากมีประชากรจากเมืองใกล้เคียงเดินทางเข้ามาเพื่อทำงานหรือศึกษาเล่าเรียน[ต้องการอ้างอิง] ปรากฏการณ์นี้จะเป็นได้ชัดในเขตชิโยดะ เขตชูโอ และเขตมินาโตะ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนในเวลากลางวัน แต่น้อยกว่า 3 แสนคนในเวลากลางคืน
ในปี 2005 ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในโตเกียวมากที่สุด 5 เชื้อชาติได้แก่ จีน (123,611 คน) เกาหลี (106,697 คน) ฟิลิปปินส์ (31,077 คน) อเมริกัน (18,848 คน) และอังกฤษ (7,696 คน)[ต้องการอ้างอิง]
โตเกียวมีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่นมหาวิทยาลัยโตเกียว สถาบันเทคโนโลยีโตเกียว มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยนครโตเกียว มหาวิทยาลัยโชวะ มหาวิทยาลัยฮิตตสึบาชิ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งโตเกียว มหาวิทยาลัยเคโอ เป็นต้น[56][57]
ในแต่ละเขตมีโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของรัฐบริหารโดยคณะกรรมการการศึกษาของมหานครโตเกียว นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายหลายแห่ง[58]
โตเกียวมีเมืองพี่น้อง 11 แห่ง[59]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.