เยาวภา บุรพลชัย

นักเทควันโดชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เยาวภา บุรพลชัย (เกิด: 6 กันยายน พ.ศ. 2527) อดีตนักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 28 ณ กรุงเอเธนส์ สาธารณรัฐเฮลเลนิก จากการแข่งขันในรุ่น 47-51 กิโลกรัม ที่ต่อมาเยาวภาได้เปลี่ยนกีฬาอาชีพไปเป็นกีฬาฟันดาบสากล[1]

ข้อมูลเบื้องต้น เยาวภา บุรพลชัย ต.ภ., เกิด ...
เยาวภา บุรพลชัย

เกิด6 กันยายน พ.ศ. 2527 (40 ปี)
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
สัญชาติไทย
ชื่ออื่นวิว
การศึกษาโรงเรียนขจรโรจน์วิทยา
โรงเรียนเมืองทองนิเวศน์
โรงเรียนวัดเวฬุวนาราม
โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
อาชีพ
ส่วนสูง1.60 m (5 ft 3 in)
พรรคการเมืองชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (2554)
ชาติพัฒนา (2554–2566; 2567–ปัจจุบัน)
ชาติพัฒนากล้า (2566–2567)
คู่สมรสเกรียงไกร เพิ่มทวี
บุตร4 คน
กีฬาอาชีพ
กีฬาเทควันโด
ประเภทฟลายเวท (-49 kg)
ผู้ฝึกสอนชัชชัย เช
รายการเหรียญรางวัล
เทควันโดหญิง
ตัวแทนของ ข้อผิดพลาด Lua ใน package.lua บรรทัดที่ 80: module 'Module:CountryData/summary' not found
โอลิมปิกฤดูร้อน
เอเธนส์ 2004 -49 กก.
เอเชียนเกมส์
ปูซาน 2002
ซีเกมส์
ฮานอย 2003
กีฬามหาวิทยาลัยโลก
แทกู 2003
อิซมีร์ 2003
ชิงแชมป์โลก
การ์มิช 2003ฟลายเวท
ปักกิ่ง 2007ฟลายเวท
ชิงแชมป์เอเชีย
กรุงเทพ 2006ฟลายเวท
ปิด

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

เยาวภา บุรพลชัย ชื่อเล่น วิว เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2527 เป็นบุตรีของร้อยตรีธำรง กับสมศรี บุรพลชัย มีน้องชายหนึ่งคน คือ พระประกิต ฐานชโย หรือ ประกิต บุรพลชัย (ชื่อเล่น: ปอนด์; 10 เมษายน พ.ศ. 2534—16 มกราคม พ.ศ. 2558)[2] อดีตนักกีฬาเทควันโดและฟันดาบ[3] พระประกิตมรณภาพขณะสรงน้ำเนื่องจากสูดแก๊สคาร์บอนที่รั่วออกมาจากเครื่องทำน้ำอุ่น ส่งผลให้สมองขาดอ็อกซิเจน[4]

เริ่มเล่นเทควันโดครั้งแรก ตั้งแต่อายุ 15 ปี ขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมี อาจารย์ครรชิต อมรภักดี เป็นผู้ฝึกสอนคนแรก และชเว ย็อง-ช็อก เป็นผู้ฝึกสอนในระดับทีมชาติไทย แต่ในปี พ.ศ. 2551 ก็ประกาศเลิกเล่นเทควันโด เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า จนต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ส่วนการเป็นโค้ชให้กับทีมชาติไทยหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขอศึกษาในระดับปริญญาตรีก่อน

นอกจากนี้เยาวภายังสามารถใช้ภาษาได้ถึง 4 ชาติ คือ ภาษาไทย (ภาษาแม่) ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลี

เยาวภา สมรสกับเกรียงไกร เพิ่มทวี [5]ปัจจุบันมีบุตรด้วยกัน 4 คน ชาย2 หญิง2

การศึกษา

  • จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 1 จากโรงเรียนขจรโรจน์วิทยา
  • จบการศึกษาชั้นอนุบาลปีที่ 2 - ประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนเมืองทองนิเวศน์
  • จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่ 6 ที่ โรงเรียนวัดเวฬุวนาราม
  • จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษา (มัธยมปลาย สายศิลป์-ภาษา) จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี รุ่นที่20 อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
  • จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารธุรกิจ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง)
  • เคยศึกษาที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาวิชาประวัตืศาสตร์
  • เคยศึกษาที่ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ

ผลงาน

เมื่อปี พ.ศ. 2542 ลงแข่งขันรายการ Pro Junior ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เป็นรายการแรก ได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากนั้น มีผลงานสำคัญที่ได้รับรางวัลดังนี้

ผู้จัดรายการ

  • ปี พ.ศ. 2565 ศึกมวยกรงแปดเหลี่ยม "เดอะ ไรส์ ออฟ เดอะ เลเจนด์" วันเสาร์ เดือนละหนึ่งครั้ง (/YouTube:Legend Fighting Championship, Facebook:Legend Fighting Championships Thailand) (2 เมษายน 2565-)

ผลงานพิธีกร

โทรทัศน์

  • ปี พ.ศ. 25 (/ช่อง)

ออนไลน์

  • ปี พ.ศ. 2565 ศึกมวยกรงแปดเหลี่ยม "เดอะ ไรส์ ออฟ เดอะ เลเจนด์" วันเสาร์ เดือนละหนึ่งครั้ง (/YouTube:Legend Fighting Championship, Facebook:Legend Fighting Championships Thailand) (2 เมษายน 2565-) ร่วมกับ แม้ทธิว พอล ดีน, สุวัฒน์ กลิ่นเกษร

การเมือง

เยาวภาเข้าสู่งานการเมืองโดยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน[6] และลงเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 [7] ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[8] เยาวภาลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2562 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขต 28 ในนามพรรคชาติพัฒนา[9] แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง[10]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.