เดอะ ไวร์เลส เฮาส์
อาคารอนุรักษ์สถานีวิทยุศาลาแดง ในโครงการ วัน แบงค็อก จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดอะ ไวร์เลส เฮาส์ (อังกฤษ: The Wireless House) เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ภายในโครงการ วัน แบงค็อก ตั้งอยู่ภายในสวนไวร์เลส พาร์ค ถนนวิทยุ หน้าศูนย์การค้าเดอะ สตอรีส์ ใต้อาคารวัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 4 ในพื้นที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยปฏิสังขรณ์มาจากอาคารสถานีวิทยุศาลาแดงที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ซึ่งถูกรื้อถอนเมื่อปี พ.ศ. 2544 แต่ขยับออกจากที่ตั้งจริงของสถานีวิทยุเดิมเล็กน้อย โดยมีเสาส่งสัญญาณวิทยุของสถานีวิทยุเดิมจัดแสดงอยู่ด้านข้าง ภายในอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรทั้งหมด 4 ส่วน รวมถึงโบราณวัตถุต่าง ๆ ที่สถาปนิกและนักโบราณคดีค้นพบระหว่างทำฐานรากของโครงการ วัน แบงค็อก และผลงานศิลปะชิ้นอื่น ๆ มีพิธีเปิดอาคารเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568 โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00 – 20:00 น.
The Wireless House | |
![]() | |
![]() | |
![]() | |
ก่อตั้ง | 13 มกราคม พ.ศ. 2568 |
---|---|
ที่ตั้ง | วัน แบงค็อก ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร |
พิกัดภูมิศาสตร์ | 13.726574059451512°N 100.54582991455231°E |
ประเภท | พิพิธภัณฑ์อนุรักษ์ |
ผลงานสำคัญ | เสาสัญญาณวิทยุของอดีตสถานีวิทยุศาลาแดง |
ผลงาน | โบราณวัตถุมากกว่า 1,500 ชิ้น |
ผู้อำนวยการ | จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย |
ภัณฑารักษ์ | นันทกานต์ ทองวานิช |
สถาปนิก | วทัญญู เทพหัตถี เอกชัย ศิริเจริญกุล |
นักประวัติศาสตร์ | กษมา เกาไศยานนท์ |
เจ้าของ | วัน แบงค็อก |
ขนส่งมวลชน | ลุมพินี |
ที่จอดรถ | 12,000 คัน (ใต้ดินในโครงการ) |
ภูมิหลัง
สรุป
มุมมอง

เดอะ ไวร์เลส เฮาส์ เป็นอาคารที่โครงการวัน แบงค็อก สร้างขึ้น เนื่องจากต้องการให้ความสำคัญและวางแนวทางในการผสานองค์ประกอบทางศิลปะและวัฒนธรรมในพื้นที่ของโครงการตั้งแต่เริ่มต้น และต้องการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่ เพื่อสืบสาน รักษา และต่อยอด ให้เป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต[1] โดยอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุศาลาแดง สถานีวิทยุแห่งแรกของประเทศไทย ที่กระทรวงทหารเรือ (ปัจจุบันคือกองทัพเรือไทย) จัดตั้งขึ้น และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2456 (พ.ศ. 2457 หากนับแบบปัจจุบัน) ก่อนจะพระราชทานนามถนนที่ตัดผ่านหน้าสถานีวิทยุว่า ถนนวิทยุ และ Wireless Road ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม สถานีวิทยุศาลาแดงเริ่มลดบทบาทลงหลังกบฏแมนฮัตตัน ซึ่งทำให้กองสัญญาณทหารเรือต้องย้ายออกจากพื้นที่ ก่อนที่โรงเรียนเตรียมทหารจะเข้ามาใช้พื้นที่ต่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504[2] ในช่วงนี้ตัวอาคารสถานีวิทยุพร้อมกับเสาส่งสัญญาณวิทยุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2526[3] แต่หลังจากโรงเรียนเตรียมทหารย้ายออกไปตั้งในสถานที่ใหม่ที่จังหวัดนครนายก และบริษัท พี.คอน. ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ทำสัญญาเช่าพื้นที่พัฒนาเป็นตลาดกลางคืนในชื่อสวนลุมไนท์บาซาร์ในปี พ.ศ. 2544 ก็ได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารสถานีวิทยุศาลาแดงออกทั้งหมด คงเหลือเพียงฐานรากและเสาวิทยุโบราณไว้[2]
การสำรวจและปฏิสังขรณ์
วิดีโอหลายคลิปจากแหล่งข้อมูลภายนอก | |
---|---|
One Bangkok: The Wireless House Documentary, วิดีโอยูทูบ |
อย่างไรก็ตาม ตามแผนแม่บทของการพัฒนาโครงการ วัน แบงค็อก นั้น อาคารอนุรักษ์สถานีวิทยุศาลาแดงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ตั้งจริงของสถานีวิทยุเดิม แต่ขยับออกมาตั้งอยู่ภายในสวนไวร์เลส พาร์ค หน้าศูนย์การค้าเดอะ สตอรีส์ ใต้อาคารวัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 4 ที่อยู่ใกล้กับหัวมุมแยกวิทยุมากขึ้นแทน[2] โดยการย้ายเสาวิทยุดังกล่าวเป็นแนวคิดของเจ้าของพื้นที่คือสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตั้งแต่แรกเริ่ม เนื่องจากต้องการให้บุคคลภายนอกมองเห็นเสาวิทยุได้ชัดเจนขึ้น และแผนการย้ายเสาวิทยุดังกล่าวก็ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรเช่นกัน ส่วนพื้นที่ที่ตั้งจริงของสถานีวิทยุเดิมนั้นอยู่บนถนน วัน แบงค็อก บูเลอวาร์ด และศูนย์การค้าโพสต์ 1928 บริเวณใต้อาคารวัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 5 โดยอาคารดังกล่าวก็ออกแบบให้มีลักษณะของสัญญาณโทรเลขเช่นกัน[4] โดยมีหลักฐานปรากฏเป็นหมุดเขตประกาศโบราณสถานที่ฝังอยู่บริเวณดังกล่าวซึ่งกรมศิลปากรมิได้ออกประกาศเพิกถอนแต่อย่างใด
ในปี พ.ศ. 2559 ที่ วัน แบงค็อก เริ่มเข้าสำรวจพื้นที่ที่ตั้งโครงการในเบื้องต้นนั้น เดิมมีแผนจะทำงานร่วมกับกรมศิลปากรเฉพาะการขนย้ายเสาส่งสัญญาณวิทยุเท่านั้น โดยมี กษมา เกาไศยานนท์ เป็นนักโบราณคดีประจำโครงการ แต่หลังจากเริ่มขุดพื้นดินเพื่อปรับพื้นที่แล้ว ก็ค้นพบฐานรากของอาคารสถานีวิทยุที่หลงเหลืออยู่จากการรื้อถอนด้วย จึงกลับไปคุยกับกรมศิลปากรเพื่อขอย้ายฐานรากด้วย[3] และยังได้รับความร่วมมือกับกรมศิลปากรในการขุดค้นทางโบราณคดีเพิ่มเติมจนค้นพบส่วนอื่น ๆ ของสถานีวิทยุ คือ ตอม่อสะพานที่เชื่อมต่อกับประตูทางเข้าด้านหน้าสถานีวิทยุ รวมถึงโบราณวัตถุที่เริ่มค้นพบอีกจำนวนมาก[2]
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการในส่วนโบราณคดีแล้ว สถาปนิกอนุรักษ์คือ วทัญญู เทพหัตถี ได้นำข้อมูลทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เกี่ยวกับสถานีวิทยุ ทั้งผังที่ตั้ง ฐานราก ภาพถ่าย เอกสารสำรวจ รวมถึงข้อมูลที่ได้จากนักโบราณคดี มาปฏิสังขรณ์ (Reconstruction) ขึ้นใหม่ตามรูปทรงเดิมทั้งหมด โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สเก็ตช์อัปมาช่วย ก่อนดำเนินการขุดรากถอนเสาเข็มเก่าเพื่อฝังกลบ และเคลื่อนย้ายฐานรากอาคารสถานีวิทยุและเสาส่งสัญญาณวิทยุความสูง 60 เมตร ไปตั้งในจุดที่วางไว้ในแผนแม่บทเดิม ซึ่งสถาปนิกอนุรักษ์ตกลงกับกรมศิลปากรว่าใช้วิธีตัดฐานรากออกเป็น 10 ชิ้น ก่อนย้ายออกครั้งละ 1 ชิ้นและนำมาประกอบใหม่ เช่นเดียวกับเสาวิทยุที่ตัดแบ่งออกเป็น 7 ท่อน ก่อนย้ายออกแล้วนำมาประกอบใหม่ โดยนำมาจัดแสดงเฉพาะบางส่วนเช่นกัน[2]
เดอะ ไวร์เลส เฮาส์ เริ่มเปิดอย่างไม่เป็นทางการพร้อมกับพิธีเปิดโครงการ วัน แบงค็อก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ก่อนจะมีพิธีเปิดอาคารนี้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568[5] ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 111 ปีของการเปิดอาคารสถานีวิทยุศาลาแดง[6]
การจัดสรรพื้นที่
สรุป
มุมมอง
อาคาร เดอะ ไวร์เลส เฮาส์ มีพื้นที่จัดแสดงทั้งภายนอกและภายใน โดยภายในเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร จำนวน 4 ส่วน ดังนี้[5][1]
- ยุควิทยุโทรเลข นำเสนอความสำคัญของสถานีวิทยุศาลาแดง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารไร้สายในประเทศไทย ประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมของอาคารสถานีวิทยุ เทคโนโลยีวิทยุโทรเลข และการเชื่อมต่อกับยุโรปโดยตรงเป็นครั้งแรก รวมถึงระบุความแตกต่างระหว่างโทรเลขและวิทยุโทรเลข ซึ่งในนิทรรศการส่วนนี้มีเครื่องจำลองการส่งข้อความทางโทรเลขด้วยรหัสมอร์สอีกด้วย โดยการกรอกชื่อผู้ส่งสารและผู้รับสาร จากนั้นพิมพ์ข้อความซึ่งใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วเพื่อแปลงเป็นรหัสมอร์ส เคาะรหัสมอร์สผ่านเครื่องเคาะสัญญาณจนครบตามตัวอักษรในข้อความที่พิมพ์ จากนั้นจะส่งข้อความไปยังฝั่งตรงข้ามเป็นจดหมาย ซึ่งสามารถส่งออกได้ทั้งด้วยวิธีพิมพ์หรือดาวน์โหลด[2]
- ยุควิทยุกระจายเสียง บอกเล่าเรื่องราวของสถานีวิทยุศาลาแดง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับนำร่องทดลองระบบกระจายเสียงแห่งแรกของประเทศไทย แสดงพัฒนาการของวิทยุกระจายเสียงในประเทศไทย บรรยากาศและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการกระจายเสียงในยุคนั้น โดยผู้เข้าชมนิทรรศการจะได้ลองฟังเสียงประเภทต่าง ๆ ที่ออกอากาศในสมัยนั้น รวมถึงระบุความแตกต่างระหว่างวิทยุแร่และวิทยุหลอด
- การขุดค้น อนุรักษ์ และปฏิสังขรณ์ ระบุความสำคัญของการอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุศาลาแดงซึ่งเป็นโบราณสถาน รวมถึงจัดแสดงโบราณวัตถุจำนวนมากกว่า 1,500 ชิ้นที่ขุดค้นพบในพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในอดีต นำเสนอข้อมูลในการปฏิสังขรณ์อาคารสถานีวิทยุโดยการนำหลักฐานข้อมูล และองค์ความรู้ทั้งหมดที่มีมาบูรณาการร่วมกัน ทั้งข้อมูลในเชิงโบราณคดีเมือง (Urban Archaeology) ขั้นตอนการขุดค้นและอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุ พร้อมโมเดลอาคารเดอะ ไวร์เลส เฮาส์ ที่แสดงถึงขั้นตอนการปฏิสังขรณ์อาคารสถานีวิทยุโทรเลข ตั้งแต่การฝังกลบฐานอาคารเดิมเพื่อรักษาสภาพ การสร้างชั้นใต้ถุนสำหรับจัดเก็บโบราณวัตถุ และการใช้โครงสร้างสมัยใหม่ในการสร้างอาคารกลับมาตามรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม เป็นต้น
- ย่านวิทยุ – พระราม 4 อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต แสดงเรื่องราวพัฒนาการของย่านที่ตั้งโครงการ วัน แบงค็อก และพื้นที่ใกล้เคียง ตั้งแต่เป็นทุ่งศาลาแดง รวมถึงความเป็นสมัยใหม่ในแง่มุมต่าง ๆ ของย่านดังกล่าวในปัจจุบัน และระบุถึงศักยภาพในอนาคตของพื้นที่ โดยนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาเมือง สถานที่สำคัญภายในย่าน และความทรงจำของผู้คนต่อย่านดังกล่าว โดยมีประติมากรรม PintONE ของวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ผู้ได้รับรางวัลศิลปาธร สาขาการออกแบบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ขุดพบในพื้นที่ เช่น ไหน้ำปลา และเศษกระเบื้อง และผลงาน Greeting of Times โดย นักรบ มูลมานัส ซึ่งนำภาพผู้คน สิ่งของ สถาปัตยกรรม และกิจกรรมต่าง ๆ ในย่านดังกล่าวมาเรียบเรียงขึ้นใหม่ด้วยเทคนิคการตัดแปะบนแม่พิมพ์ทองแดงโลหะ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสื่อสารด้วยวิทยุโทรเลขในอดีต
ส่วนภายนอกมีสิ่งก่อสร้างอีก 3 จุด ดังนี้[6]
- ด้านหน้าอาคาร มีสะพานไม้ความยาว 12 เมตรทอดเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งเป็นการจำลองแบบจากสถานีวิทยุศาลาแดงเดิมที่สมัยโบราณจะสร้างสะพานข้ามทุ่งนาเข้าสู่สถานี โดยนำชิ้นส่วนตอม่อสะพานเดิม 2 ชิ้นที่ขุดพบมาประกอบกลับเข้าไปด้วย แต่ปรับเปลี่ยนให้ร่วมสมัยขึ้น โดยใช้กระจกเป็นราวสะพานแทนราวไม้รูปกากบาทแบบเดิม[2]
- ผลงาน Metropolitan Symphony เป็นประติมากรรมลำโพงสีทองและสีเงินหลายขนาด โดย ยูริ ซูซูกิ ศิลปินชาวญี่ปุ่น และออกแบบมาให้รองรับการใช้งานจริงด้วย โดยผู้เข้าชมคนหนึ่งสามารถทดลองพูดในลำโพงสีเงิน และให้ผู้เข้าชมอีกคนหนึ่งฟังเสียงที่ออกมาผ่านลำโพงสีทองได้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 ชิ้น โดยชิ้นแรกตั้งอยู่ด้านหน้าอาคาร เดอะ ไวร์เลส เฮาส์ ส่วนอีก 1 ชิ้นจัดแสดงที่โถงของอาคารวัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 3 เป็นการชั่วคราว โดยในอนาคตหลังจากศูนย์การค้าโพสต์ 1928 เปิดให้บริการแล้ว จะถูกนำไปจัดแสดงที่อาคารดังกล่าวในพื้นที่ที่โครงการทำหมุดระบุเป็นเขตประกาศโบราณสถานของสถานีวิทยุศาลาแดง[7]
- เสาส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขของสถานีวิทยุศาลาแดงในอดีต โดยจากเสาจริงที่มีความสูง 7 ท่อน รวม 60 เมตร โครงการนำมาแสดงเฉพาะ 3 ท่อนด้านบนสุด ความยาว 20 เมตร ส่วนอีก 4 ท่อนล่าง ความยาว 40 เมตร โครงการนำมาประกอบและจัดแสดงไว้ใต้อาคาร
นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมีห้องปฏิบัติการกระจายเสียง (Broadcasting Studio) ในชื่อ เดอะ ไวร์เลส คลับ (The Wireless Club) ซึ่งจะเป็นห้องสำหรับเปิดเพลงโดยนักจัดรายการวิทยุใต้ดินที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้เข้าใช้บริการภายในโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับวิวัฒนาการด้านวิทยุในวิถีชีวิตของมนุษย์ จากการสื่อสารผ่านสัญญาณวิทยุด้วยรหัสโทรเลขหรือรหัสมอร์สในอดีต เป็นการเปิดวิทยุเพื่อฟังเพลงเป็นหลักในปัจจุบัน โดยในตอนกลางวันจะเป็นร้านกาแฟ และในตอนกลางคืนจะเป็นบาร์แสดงดนตรี[3]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.