Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อะเลคเซย์ อาร์ฮีโปวิช เลโอนอฟ (รัสเซีย: Алексе́й Архи́пович Лео́нов, สัทอักษรสากล: [ɐlʲɪˈksʲej ɐˈrxʲipəvʲɪtɕ lʲɪˈonəf]) (30 พฤษภาคม ค.ศ. 1934 – 11 ตุลาคม ค.ศ. 2019) เป็นนักบินอวกาศ ทหารอากาศ นักเขียนและศิลปินชาวโซเวียต-รัสเซีย ในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1965 เขาเป็นบุคคลแรกที่กระทำการเดินอวกาศ ด้วยออกจากแคปซูลในภารกิจวอสฮอด 2 เป็นเวลา 12 นาที 9 วินาที เขาได้รับคัดเลือกให้เป็นพลเมืองโซเวียตคนแรกในโครงการลงจอดมนุษย์บนดวงจันทร์ แต่ถึงกระนั้นโครงการได้ถูกยกเลิกไป
อะเลคเซย์ เลโอนอฟ | |
---|---|
Алексе́й Архи́пович Лео́нов | |
อะเลคเซย์ เลโอนอฟ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1974 | |
เกิด | 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1934 ลีสต์เวียนคา, ดินแดนไซบีเรียตะวันตก, สาธารณรัฐรัสเซีย, สหภาพโซเวียต |
เสียชีวิต | 11 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ปี) มอสโก, รัสเซีย | (85
สัญชาติ | ชาวโซเวียต, ชาวรัสเซีย |
อาชีพ | นักบิน, นักบินอวกาศ |
รางวัล |
|
อาชีพในอวกาศ | |
นักบินอวกาศชาวโซเวียต | |
ยศ | พลอากาศตรี, กองทัพอากาศโซเวียต [1] |
อยู่บนอวกาศ | 7 วัน 00 ชั่วโมง 33 นาที 02 วินาที[2] |
การคัดเลือก | กลุ่มกองทัพอากาศที่ 1 |
ปฏิบัติการนอกยาน | 1 |
เวลาปฏิบัติการนอกยาน | 12 นาที, 9 วินาที |
ภารกิจ | วอสฮอด 2, โซยุซ 19 (ASTP) |
เครื่องหมายภารกิจ | |
ลายมือชื่อ | |
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1975 เลโอนอฟเป็นผู้บัญชาการยานอวกาศโซยุซในภารกิจอะพอลโล–โซยุซ ซึ่งเชื่อมต่อกับยานอวกาศอะพอลโลของสหรัฐในอวกาศเป็นเวลา 2 วัน
เลโอนอฟเกิดที่เมืองลีสต์เวียนคา ในดินแดนไซบีเรียตะวันตก สาธารณรัฐรัสเซีย ในวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1934 [3] อะเลคเซย์เป็นบุตรระหว่างเยฟโดเคีย (สกุลเดิม: ซอตนิโควา) กับอาร์คฮิป เลโอนอฟ เขาเป็นบุตรคนที่แปดจากบุตรเก้าคนที่รอดชีวิต[lower-alpha 1][4] บิดาของเขาเป็นช่างไฟฟ้าและคนงานเหมือง[5]
ใน ค.ศ. 1936 บิดาของเขาถูกจับกุมและประกาศว่าเป็น "ศัตรูแห่งประชาชน" เลโอนอฟเขียนในอัตชีวประวัติของเขาว่า: "เขาไม่ได้ถูกจับเพียงคนเดียว: ผู้อื่นอีกมากก็ถูกจับ มันเป็นส่วนหนึ่งของมโนธรรมที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้มีอำนาจเพื่อกำจัดใครก็ตามที่แสดงบุคลิกที่เป็นอิสระหรือแข็งแกร่งเกินไป เหตุการณ์นี้เกิดในช่วงของการกวาดล้างของสตาลิน หลายคนหายตัวไปในกูลักและไม่เคยกลับมาอีกเลย"[6] ครอบครัวของเลโอนอฟย้ายไปอยู่ที่เมืองเคเมโรโว บิดาของเขากลับมาอยู่ที่เคเมโรโวหลังจากที่เขาถูกปล่อยตัว เขาได้รับการชดเชยจากการถูกกักขังโดยมิชอบ[4] เลโอนอฟใช้งานศิลปะเป็นช่องทางในการหาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มเติม เขาเริ่มอาชีพศิลปินโดยการวาดลายดอกไม้บนเตาอบ และในภายหลังเขาวาดทิวทัศน์ลงบนผ้าใบ[4]
รัฐบาลโซเวียตสนับสนุนในพลเมืองย้ายถิ่นฐานไปยังดินแดนปรัสเซียที่ถูกยิดครองโดยสหภาพโซเวียต ด้วยเหตุนั้น ใน ค.ศ. 1948 ครอบครัวของเขาย้ายไปยังเมืองคาลีนินกราด[7] เลโอนอฟสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมศึกษาหมายเลข 21 ใน ค.ศ. 1953[7] เขาสมัครเข้าสู่สถาบันศิลปะในรีกา, สาธารณรัฐลัตเวีย แต่ตัดสินใจไม่เข้าเรียนเนื่องจากค่าเล่าเรียนสูง เลโอนอฟตัดสินใจเข้าร่วมโรงเรียนเตรียมการบินของยูเครนในเครเมนชุก เขาบินด้วยตนเองครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1955 พร้อมกับไล่ตามความชอบในศิลปะโดยการศึกษานอกเวลาในริกา เลโอนอฟเริ่มหลักสูตรการบินขั้นสูงสองปีเพื่อจะเป็นนักบินขับไล่ที่โรงเรียนทหารอากาศขั้นสูงชูกูเอฟในสาธารณรัฐยูเครน[7]
ในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1957 เลโอนอฟสำเร็จการศึกษา ได้รับปริญญาเกียรตินิยม และได้รับการแต่งตั้งเป็นร้อยโทในกรมทหารพลร่มที่ 113 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองพลวิศวกรรมการบินที่ 10 กองทัพอากาศภาคที่ 69 ในเคียฟ[7] ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1959 เขาสมรสกับสเวตลานา ปาฟลอฟนา โดเซนโค[8]หนึ่งวันก่อนที่เขาจะย้ายไปเยอรมันตะวันออกหลังจากเขาถูกแต่งตั้งให้ไปยังกรมลาดตระเวนที่ 294 กองทัพอากาศภาคที่ 16[7]
เขาเป็นหนึ่งในนักบิน 20 คนของกองทัพอากาศโซเวียตซึ่งถูกคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มฝึกซ้อมนักบินอวกาศชุดแรกใน ค.ศ. 1960[9] เหมือนกับนักบินอวกาศส่วนใหญ่ เลโอนอฟเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต การเดินอวกาศของเขาแรกเริ่มแล้วถูกวางแผนไว้สำหรับภารกิจวอสฮอด 1 แต่ได้มีการเปลี่ยนแผน เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์นี้จึงเกิดขึ้นในภารกิจวอสฮอด 2แทน[10] ในวันที่ 18 มีนาคม ค.ศ. 1965 เขาออกไปภายนอกยานอวกาศเป็นเวลา 12 นาที และ 9 วินาที โดยตัวเขาเชื่อมต่อกับยานอวกาศด้วยสายเชื่อมยาว 4.8-เมตร (16-ฟุต)[9] ในช่วงปลายของการเดินอวกาศ ชุดอวกาศของเลโอนอฟได้บวมขึ้นจากสภาพสูญญากาศของอวกาศจนถึงระดับที่เขาไม่สามารถกลับเข้ายานอวกาศผ่านประตูกักอากาศได้[9] เขาเปิดวาล์วเพื่อลดแรงดันภายในชุดอวกาศและสามารถกลับเข้าไปในยานอวกาศได้อย่างยากลำบาก[9][11] ขณะดำเนินภารกิจ เลโอนอฟได้ร่างภาพดวงอาทิตย์ขึ้นจากวงโคจร เป็นงานศิลปะชิ้นแรกที่ถูกสร้างขึ้นในอวกาศ[12] เลโอนอฟใช้เวลาสิบแปดเดือนในการฝึกซ้อมสภาพไร้แรงโน้มถ่วงเป็นสำหรับภารกิจนี้[13]
ใน ค.ศ. 1968 เลโอนอฟได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้บัญชาการภารกิจโซยุซ 7K-L1 ในการบินรอบดวงจันทร์ ภารกิจนี้ถูกยกเลิกเพราะความล่าช้าในการทำการบินรอบดวงจันทร์ที่เชื่อถือได้ (ภารกิจซอนด์ 7และซอนด์ 8 เป็นเพียงสองภารกิจในโครงการบินรอบดวงจันทร์ที่ประสบความสำเร็จ) และภารกิจอะพอลโล 8ได้ประสบความสำเร็จในก้าวนั้นในการการแข่งขันอวกาศไปก่อนแล้ว เขายังได้รับคัดเลือกให้เป็นพลเมืองโซเวียตคนแรกที่จะลงจอดบนดวงจันทร์ บนยานอวกาศLOK/N1[10] แต่ภารกิจนี้ก็ถูกยกเลิกเช่นกัน (การออกแบบจำเป็นที่จะต้องมีการเดินอวกาศระหว่างยาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับคัดเลือก) เลโอนอฟได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการของภารกิจโซยุซ 11ใน ค.ศ. 1971 ไปยังสถานีอวกาศซัลยุท 1 สถานีอวกาศแห่งแรก แต่ชุดลูกเรือของเขาถูกสลับกับชุดสำรองหลังจากหนึ่งในสมาชิกนักบินอวกาศ วาเลริ คูบาซอฟถูกสงสัยว่าจะติดเชื้อวัณโรค[14]
เลโอนอฟได้รับแต่งตั้งให้บัญชาการภารกิจไปยังสถานีอวกาศซัลยุท 1 แต่แผนนี้ถูกยกเลิกหลังจากการเสียชีวิตขิงลูกเรือภารกิจโซยุซ 11 และสถานีอวกาศก็ไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้[15] สถานีอวกาศทั้งสองที่ถูกปล่อยตามมานั้นถูกทำลายในการปล่อยหรือล้มเหลวไม่นานหลังจากนั้น การลูกเรือของเลโอนอฟพร้อมสำหรับภารกิจต่อไป แต่เมื่อสถานีอวกาศซัลยุท 4ถูกปล่อยสู่วงโคจรสำเร็จ เลโอนอฟก็ถูกย้ายไปยังโครงการที่มีความสำคัญมากกว่านั้นแล้ว[16][17]
การเดินทางสู่อวกาศครั้งที่สองของเลโอนอฟ เขาไปในฐานะผู้บัญชาการยานอวกาศโซยุซ 19ซึ่งเป็นฝั่งของโซเวียตในโครงการทดสอบอะพอลโล–โซยุซในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งเป็นภารกิจอวกาศร่วมระหว่างสหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก[16][18] ระหว่างโครงการ เลโอนอฟได้เป็นเพื่อนกับผู้บังคับบัญชาฝั่งสหรัฐ โทมัส แพตเทน สแตฟฟอร์ด โดยเลโอนอฟได้เป็นบิดาทูนหัวของบุตรของสแตฟฟอร์ด[19][20] สแตฟฟอร์ดได้กล่างบทสรรเสริญเป็นภาษารัสเซียในงานศพของเลโอนอฟในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019[21][22]
ระหว่าง ค.ศ. 1976 ถึง ค.ศ. 1982 เลโอนอฟเป็นผู้บัญชาการของคณะนักบินอวกาศ ("หัวหน้านักบินอวกาศ") และเป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฝึกซ้อมนักบินอวกาศยูรี กาการิน ที่ซึ่งเขาดูแลการฝึกซ้อมของนักบินอวกาศ เขายังเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์นักบินอวกาศเนปจูน เขาเกษียณอายุใน ค.ศ. 1992[10]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.