ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี (อังกฤษ: MCOT HD; ชื่อเดิม: สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม, สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 บางลำพู, สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท., สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี (อังกฤษ: 9 MCOT HD) เป็นสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินแห่งแรกของประเทศไทย ดำเนินการโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี[1][2] เริ่มแพร่ภาพเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ในระบบวีเอชเอฟ ภาพขาวดำ ทางช่องสัญญาณที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ย้ายมาออกอากาศด้วยภาพสีทางช่องสัญญาณที่ 9 และตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 เริ่มออกอากาศในระบบทีวีดิจิทัลช่องหมายเลข 30 มาจนถึงปัจจุบัน มีผาติยุทธ ใจสว่าง เป็นรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ชื่ออื่น | ช่อง 9 กด 30 |
---|---|
ประเทศ | ไทย |
พื้นที่แพร่ภาพ | ประเทศไทย |
เครือข่าย | สถานีโทรทัศน์/สถานีวิทยุ ช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ประเภทบริการธุรกิจระดับชาติ |
คำขวัญ | เพื่อนที่วางใจ...ข้างกายตลอดมา |
สำนักงานใหญ่ | เลขที่ 63/1 ซอยพระราม 9 7 (ทวีมิตร) ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร |
แบบรายการ | |
ระบบภาพ | 1080p (16:9 คมชัดสูง/ออนไลน์) 1080i (16:9 คมชัดสูง/โทรทัศน์ดิจิทัล) 576i (16:9 คมชัดปกติ/กล่องโทรทัศน์ดาวเทียม) |
ความเป็นเจ้าของ | |
เจ้าของ | บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด: (พ.ศ. 2498 - พ.ศ. 2520) องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย: (พ.ศ. 2520 - 16 สิงหาคม พ.ศ. 2547) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน): (ผู้รับใบอนุญาต) (17 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - ปัจจุบัน) |
บุคลากรหลัก | ผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ วศิน บุณยาคม ผู้อำนวยการสถานี |
ช่องรอง |
|
ประวัติ | |
เริ่มออกอากาศ | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 (ในนาม ไทยทีวีช่อง 4) 9 เมษายน พ.ศ. 2520 (ในนาม ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท.) 1 เมษายน พ.ศ. 2557 (ในนาม ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี) |
ชื่อเดิม | สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม: (24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 - มิถุนายน พ.ศ. 2517) สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 : (มิถุนายน พ.ศ. 2513 - 9 เมษายน พ.ศ. 2520) สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท.: (9 เมษายน พ.ศ. 2520 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545) สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี: (6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561) |
ลิงก์ | |
เว็บไซต์ | tv |
ออกอากาศ | |
ภาคพื้นดิน | |
ดิจิทัล | ช่อง 30 (มักซ์#3 : อสมท) |
เคเบิลทีวี | |
ช่อง 30 | |
ทีวีดาวเทียม | |
ไทยคม 6 C-Band | 3760 H 30000 5/6 |
ไทยคม 8 KU-Band | 11560 H 30000 |
ช่อง 30 | |
สื่อสตรีมมิง | |
MCOT | ชมรายการสด |
ประวัติ
เมื่อปี พ.ศ. 2492 สรรพสิริ วิรยศิริ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน) เขียนบทความเพื่อแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับ "วิทยุภาพ" อันเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารชนิดใหม่ของโลก ต่อมากรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน) ส่งข้าราชการกลุ่มหนึ่งไปศึกษางานที่สหราชอาณาจักรในราวปี พ.ศ. 2493 เมื่อเล็งเห็นประโยชน์มหาศาลต่อประเทศชาติ ทางกรมจึงนำเสนอ "โครงการจัดตั้งวิทยุโทรภาพ" ต่อจอมพลป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่ในสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. ส่วนมากกลับไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน จึงยุติโครงการดังกล่าวลงชั่วคราว[3]
หลังจากนั้น ประสิทธิ์ ทวีสิน ประธานกรรมการบริษัท วิเชียรวิทยุและโทรภาพ จำกัด นำเครื่องส่งวิทยุโทรภาพ 1 เครื่อง พร้อมเครื่องรับจำนวน 4 เครื่อง ซึ่งมีน้ำหนักรวมกว่า 2,000 กิโลกรัม มาทำการทดลองแพร่ภาพการแสดงดนตรีของวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล และบริเวณกรมประชาสัมพันธ์ ให้คณะรัฐมนตรีได้รับชม นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยังเปิดฉายให้ประชาชนทั่วไปทดลองรับชมที่ศาลาเฉลิมกรุงด้วย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2495
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2495 รัฐมนตรีและข้าราชการกลุ่มหนึ่งของกรมประชาสัมพันธ์ รวมจำนวน 7 คน ดำเนินการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นต่อกรมประชาสัมพันธ์ 11 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นใหญ่ร่วมกับภาครัฐอีก 8 แห่ง จำนวน 9 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท จดทะเบียนจัดตั้ง "บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด" (อังกฤษ: Thai Television Co., Ltd. ชื่อย่อ: ท.ท.ท.) ขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนของปีดังกล่าว เพื่อเป็นผู้บุกเบิกการดำเนินกิจการการส่งสัญญาณโทรทัศน์ในประเทศไทย[4]
ทั้งนี้ ในระยะก่อนจะดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์ บจก.ไทยโทรทัศน์ ได้จัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. ขึ้นเพื่อระดมทุนทรัพย์สำหรับบริหารงานและฝึกฝนบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ พร้อมทั้งเตรียมงานส่วนอื่นไปด้วย โดยกระจายเสียงจากที่ทำการบริเวณแยกคอกวัว (ปัจจุบันเป็นอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา) จากนั้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2497 พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานกรรมการ บจก.ไทยโทรทัศน์ (อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น) เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 ภายในวังบางขุนพรหม ที่ทำการของธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน (จึงเป็นที่มาของชื่อ ที่ผู้ชมทั่วไปเรียกว่า "ช่อง 4 บางขุนพรหม") โดยในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ก็เริ่มทดลองแพร่ภาพโทรทัศน์จากห้องส่งของสถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. ไปพลางก่อน จนกระทั่งก่อสร้างอาคารที่ทำการและติดตั้งเครื่องส่งเสร็จสมบูรณ์
จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเป็นประธานพิธีเปิด สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 (อังกฤษ: Thai Television Channel 4 ชื่อย่อ: ไทย ที.วี. ชื่อเรียกตามอนุสัญญาสากลว่าด้วยวิทยุโทรทัศน์: HS1-TV) ขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยและทวีปเอเชียแผ่นดินใหญ่ (Asia Continental) และเป็นแห่งที่สามของทวีปเอเชียทั้งหมด ถัดจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ซึ่งตรงกับวันชาติไทยในสมัยนั้น โดยใช้เครื่องส่งโทรทัศน์ขนาด 10 กิโลวัตต์ แพร่ภาพขาวดำระบบ 525 เส้น 30 อัตราภาพ เช่นเดียวกับที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา[4] ต่อมาในเวลา 19:00 น. วันเดียวกัน จึงเริ่มทดลองออกอากาศอย่างเป็นทางการ เริ่มด้วย อารีย์ นักดนตรี ผู้ประกาศของช่อง 4 บางขุนพรหม รำประกอบเพลงต้นบรเทศ (ในยุคหลังเรียกว่า "ต้นวรเชษฐ์"[5]) ซึ่งใช้เปิดการออกอากาศทั้งสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุของ บจก.ไทยโทรทัศน์ ออกอากาศสดจากห้องส่งโทรทัศน์ จากนั้น เย็นจิตต์ สัมมาพันธ์ ผู้ประกาศแจ้งรายการประจำวัน
สำหรับคณะผู้ปฏิบัติงานยุคแรก ของช่อง 4 บางขุนพรหม ได้แก่ จำนง รังสิกุล เป็นผู้อำนวยการคนแรกของสถานีฯ และหัวหน้าฝ่ายผลิตรายการ, อัมพร พจนพิสุทธิ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายกำกับภาพ, สมชาย มาลาเจริญ เป็นหัวหน้าฝ่ายช่างกล้อง, ธนะ นาคพันธุ์ เป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมการออกอากาศ, เกรียงไกร (สนั่น) ชีวะปรีชา เป็นหัวหน้าฝ่ายเครื่องส่ง, ธำรง วรสูตร ร่วมกับ ฟู ชมชื่น เป็นหัวหน้าฝ่ายเครื่องส่งและเสาอากาศ, จ้าน ตัณฑโกศัย เป็นหัวหน้าฝ่ายกำกับเสียง, รักษ์ศักดิ์ วัฒนพานิช เป็นหัวหน้าฝ่ายบริการเครื่องรับโทรทัศน์, สรรพสิริ วิรยศิริ เป็นหัวหน้าฝ่ายข่าว กับหัวหน้าฝ่ายช่างภาพและแสง
ส่วนผู้ประกาศยุคแรก ได้แก่ เย็นจิตต์ สัมมาพันธ์ (ปัจจุบันคือ เย็นจิตต์ รพีพัฒน์ ณ อยุธยา), อารีย์ นักดนตรี (ปัจจุบันคือ อารีย์ จันทร์เกษม), ดาเรศร์ ศาตะจันทร์, นวลละออ ทองเนื้อดี (ปัจจุบันคือ นวลละออ เศวตโสภณ), ชะนะ สาตราภัย และประไพพัฒน์ นิรัตพันธ์, สรรพสิริ วิรยศิริ, อาคม มกรานนท์, สมชาย มาลาเจริญ และบรรจบ จันทิมางกูร เป็นต้น
ในระยะแรกออกอากาศทุกวันอังคาร, วันพฤหัสบดี, วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 18:30 - 23:00 น. ต่อมาเพิ่มวันและเวลาออกอากาศมากขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้ รัฐบาลในสมัยนั้น มักใช้ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 ถ่ายทอดการปราศรัยของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี, เผยแพร่ผลงานของรัฐบาล, ถ่ายทอดการประชุมรัฐสภา ตลอดจนถ่ายทอดสดงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ในปี พ.ศ. 2500 แต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น จึงสั่งการให้กองทัพบก จัดตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ภาพขาวดำ; ปัจจุบันคือ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5) ในระหว่างปี พ.ศ. 2500 - 2501
ราวต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2517 ได้เปลี่ยนระบบการออกอากาศทาง ช่อง 4 บางขุนพรหม จากภาพขาวดำเป็นภาพสีในระบบ 625 เส้น 25 อัตราภาพอย่างสมบูรณ์ โดยได้ย้ายห้องส่งโทรทัศน์ไปที่ถนนพระสุเมรุ แขวงบางลำพู และราวปี พ.ศ. 2519 ได้หยุดทำการออกอากาศพร้อมกับการเปลี่ยนชื่อเป็น สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 บางลำพู ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2513 ที่ผ่านมา
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม มีอัตลักษณ์เป็นภาพ "วิชชุประภาเทวี" หมายถึง เทวดาผู้หญิง ที่เป็นเทพเจ้าหรือนางพญาแห่งสายฟ้า ประดับด้วยลายเมฆ และสายฟ้าอยู่ภายในรูปวงกลม ที่ออกแบบโดย กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (ในขณะนั้น)
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 บางลำพู
บจก.ไทยโทรทัศน์ เริ่มออกอากาศเป็นภาพสี 625 เส้นในย่านความถี่ VHF ทางช่องสัญญาณที่ 9 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2513 โดยแพร่ภาพออกอากาศคู่ขนานกับช่องสัญญาณที่ 4 ในระบบภาพขาวดำเป็นเวลาประมาณ 4 ปี[6] กระทั่งราวต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2517 จึงยุติการออกอากาศในระบบภาพขาวดำ 525 เส้น ทางช่องสัญญาณที่ 4 คงไว้เพียงระบบภาพสีทางช่องสัญญาณที่ 9 อย่างสมบูรณ์ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9" (อังกฤษ: Thai Color Television Channel 9) พร้อมทั้งย้ายห้องส่งโทรทัศน์รวมถึงที่ทำการทั้งหมด ไปยังอาคารพาณิชย์ขนาด 5 คูหา ย่านถนนพระสุเมรุ แขวงบางลำพู (ดังที่ผู้ชมทั่วไป มักเรียกว่า "ช่อง 9 บางลำพู" ในสมัยนั้น) เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย เสนอซื้อที่ดิน, อาคารที่ทำการ บจก.ไทยโทรทัศน์ และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ซึ่งอยู่ภายในบริเวณวังบางขุนพรหม ด้วยมูลค่า 39 ล้านบาท เพื่อแลกกับบ้านมนังคศิลา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502[ต้องการอ้างอิง]
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท.
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 คณะรัฐมนตรี นำโดยธานินทร์ กรัยวิเชียร นายกรัฐมนตรี ได้มีมติให้ยุบเลิกกิจการ บจก.ไทยโทรทัศน์ จากการปรับปรุงองค์กรเนื่องจากการรายงานข่าวในเหตุการณ์ 6 ตุลา ส่งผลให้การดำเนินงานของไทยทีวีสีช่อง 9 สิ้นสุดลงด้วย แต่มิได้ยุติการออกอากาศแต่อย่างใด[7] ต่อมาวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง "องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย" หรือ อ.ส.ม.ท. (อังกฤษ: The Mass Communication Organization of Thailand ชื่อย่อ: อ.ส.ม.ท.; M.C.O.T.) ให้เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำเนินกิจการสื่อสารมวลชนของรัฐให้มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นที่เชื่อถือของสาธารณชน โดยรัฐบาลมอบทุนประเดิม 10 ล้านบาท และให้รับโอนกิจการสื่อสารมวลชนของ บจก.ไทยโทรทัศน์ คือ สถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. และสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 เพื่อดำเนินกิจการต่อไป[8] ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2520 ซึ่งถือเป็นวันสถาปนา อ.ส.ม.ท.[4] ส่งผลให้เปลี่ยนชื่อเป็น "สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท." โดยอัตโนมัติ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดอาคารที่ทำการของ อ.ส.ม.ท. บนเนื้อที่ 14 ไร่ ที่มีห้องส่งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขณะนั้น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2524 เวลา 09:25 น.[9] ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2528 - 2532 สมเกียรติ อ่อนวิมล อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพิธีกรรายการ ความรู้คือประทีป ในขณะนั้น ตอบรับคำเชิญของผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. ในขณะนั้น ให้เข้ามาช่วยปรับปรุงการนำเสนอข่าว 9 อ.ส.ม.ท. ร่วมกับ บริษัท แปซิฟิค อินเตอร์คอมมิวนิเคชัน จำกัด ส่งผลให้เกิดผู้ประกาศข่าวคู่ซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดของยุคนั้นคือ ดร.สมเกียรติ และกรรณิกา ธรรมเกษร (ซึ่งทำหน้าที่ ในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์ ดร.สมเกียรติ ประกาศคู่กับ อรุณโรจน์ เลี่ยมทอง)
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 อ.ส.ม.ท. ร่วมลงนามในสัญญากับสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อขยายเครือข่ายกิจการโทรทัศน์ของทั้งไทยทีวีสีช่อง 3 และไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ไปสู่ส่วนภูมิภาค และหน่วยงานภาครัฐ จัดสรรคลื่นความถี่ส่งด้วยระบบวีเอชเอฟ พร้อมอุปกรณ์การออกอากาศ เพื่อจัดตั้งสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ในการกำกับของ อ.ส.ม.ท. แต่ละแห่ง (ระยะหลังจึงขยายไปสู่ระบบ UHF) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2531 - กรกฎาคม พ.ศ. 2534 เป็นระยะเวลา 3 ปี จึงทำให้สถานีโทรทัศน์ในการกำกับของ อ.ส.ม.ท. ทั้ง 2 แห่ง สามารถออกอากาศไปได้ทั่วประเทศ
ราวปี พ.ศ. 2535 แสงชัย สุนทรวัฒน์ เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. ในช่วงที่ถูกเรียกว่า "แดนสนธยา" เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลมืดฝังตัวอยู่ในองค์กร แต่แสงชัยก็สามารถขจัดอิทธิพลมืดเหล่านั้นสำเร็จ รวมถึงสามารถพัฒนา อ.ส.ม.ท. ขึ้นมาเป็นอย่างดี แต่แล้วแสงชัยก็ถูกลอบสังหารด้วยอาวุธปืนจนเสียชีวิต ระหว่างนั่งรถยนต์เดินทางกลับบ้านพักในเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2539 จากผลการสอบสวนของตำรวจ ระบุว่า อุบล บุญญชโลธร อดีตผู้รับสัมปทานจัดรายการทางสถานีวิทยุ อ.ส.ม.ท. ส่วนภูมิภาค จ้างวานให้บุตรเขย คือ ทวี พุทธจันทร์ ส่งมือปืนไปลอบสังหารแสงชัย ต่อมาอุบลถูกลอบสังหารจนเสียชีวิตบนรถยนต์ก่อนกลับถึงบ้านพักเช่นเดียวกับแสงชัย เมื่อปี พ.ศ. 2541[10]
สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์
เมื่อปี พ.ศ. 2545 มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการ อ.ส.ม.ท. ขณะนั้น มีดำริให้ปรับปรุงการบริหารงานของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ให้มีความทันสมัย รวดเร็ว และฉับไว ในด้านการนำเสนอ รายงานข่าวสาร สาระความรู้ และความบันเทิง เพื่อให้ทันต่อเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคโลกาภิวัตน์ และเพื่อขจัดความเป็น "แดนสนธยา" ภายในองค์กรอีกด้วย
ในวันที่ 6 พฤศจิกายน จึงมีพิธีเปิดตัว "สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์" โดยมีทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งเริ่มออกอากาศตามรูปแบบใหม่ ตั้งแต่เวลา 18:30 น. เป็นต้นไป โดยมีทั้งการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์ของสถานีฯ พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบการเสนอรายการตลอด 24 ชั่วโมง [4] เพิ่มเวลานำเสนอข่าว โดยเฉพาะข่าวต้นชั่วโมง และแถบตัววิ่งข่าว (News Bar) เพิ่มช่วงแมกกาซีนออนทีวีในข่าวภาคค่ำ ซึ่งนำเสนอข่าวสารและสาระความรู้ ในประเด็นและการนำเสนอแบบสบาย ๆ โดยใช้วิธีการนำเสนอแบบนิตยสาร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเป็นรายการข่าวบันเทิงในชื่อ ไนน์เอ็นเตอร์เทน ในเวลาต่อมา รวมถึงเพิ่มบทบาทความสัมพันธ์กับเครือข่ายสำนักข่าวชั้นนำทั่วโลก เช่น CNN/CNBC/AP/Reuters/VOA ของสหรัฐ, BBC ของสหราชอาณาจักร, NHK ของประเทศญี่ปุ่น และ CCTV ของประเทศจีน เป็นต้น
โมเดิร์นไนน์ทีวีดำเนินการผลิตรายการโทรทัศน์ ตลอดจนการแพร่ภาพ และควบคุมการออกอากาศ จากสถานีส่วนกลางในกรุงเทพมหานคร ไปยังสถานีเครือข่ายแอนะล็อกส่วนภูมิภาค 32 สถานี สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ 79.5% ของประเทศ มีประชากรในขอบเขตการออกอากาศไม่น้อยกว่า 96.5% ของประเทศ โดยมีรายการประเภทข่าวสาร สาระความรู้ ความบันเทิง กีฬา และรายการเพื่อสาธารณประโยชน์ รวมทั้งการถ่ายทอดสดต่างๆ โดยเฉพาะรายการประเภทข่าวสาร และสาระความรู้ ในด้านต่างๆ มานำเสนอในช่วงไพรม์ไทม์ที่มีผู้ชมมากที่สุด เพื่อให้ผู้ชม ได้รับข่าวสารและความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน โดยมุ่งหวังจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ชมชาวไทย
มีเหตุการณ์สำคัญ ระหว่างรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งเกี่ยวข้องกับโมเดิร์นไนน์ทีวี คือ เมื่อเวลา 22:15 น. พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการ ทั้งนี้ ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่จากสหรัฐอเมริกามาออกอากาศสดทางโมเดิร์นไนน์ทีวี แต่อ่านแถลงการณ์ได้เพียง 3 ฉบับ ก็มีกำลังพลทหารพร้อมอาวุธกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปถึงห้องควบคุมการออกอากาศ แล้วออกคำสั่งให้หยุดการประกาศทันที จึงทำให้เจ้าหน้าที่สถานีฯ ต้องปฏิบัติตามในที่สุด
จากนั้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานในงานครบรอบ 60 ปี การสถาปนา อสมท พร้อมทั้งเริ่มออกอากาศรายการข่าวโทรทัศน์รูปแบบใหม่ของสำนักข่าวไทย ตามดำริของ จักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ.อสมท) ประกอบด้วย การนำเทคโนโลยีวิดีโอวอลล์ ขนาดความยาว 20 เมตร ความกว้าง 3 เมตร มาใช้กับการรายงานข่าวในห้องส่ง ร่วมกับการนำเฮลิคอปเตอร์ มาใช้ประกอบรายงานข่าวนอกสถานที่ เป็นครั้งแรกของสำนักข่าวไทย โดยใช้ชื่อว่า "เบิร์ดอายส์นิวส์" (Bird Eye's News) รวมทั้งจัดสำรวจความเห็นผู้ชมในชื่อ "เอ็มคอตโพลล์" (MCOT Poll) นอกจากนี้จะออกแบบตราสัญลักษณ์ของสำนักข่าวไทยขึ้นใหม่ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น[11] (ทว่าแบบที่จัดทำในยุคของจักรพันธุ์ มิได้นำมาใช้จริงแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนั้นมีการออกแบบใหม่ แล้วจึงนำออกใช้จริงต่อมา)
สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี
เมื่อวันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558 ศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท เป็นประธานในพิธีเปิดตัว ช่อง 9 MCOT HD ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยนำเทปบันทึกภาพมาออกอากาศ ระหว่างเวลา 19:00-19:20 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ชื่อใหม่ดังกล่าว ซึ่งมีการปรับปรุงอัตลักษณ์รูปแบบใหม่ เพื่อนำมาใช้แทนที่ตราสัญลักษณ์เดิมซึ่งใช้ร่วมกับกิจการในเครือ บมจ.อสมท นับแต่ปลายปี พ.ศ. 2545 พร้อมทั้งเพิ่มเติมรายการใหม่ จากผู้ผลิตเนื้อหาหลายแห่ง เช่น บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (เนชั่นทีวี), บริษัท สปริง 26 จำกัด (สปริง 26) และบริษัท ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ทรูวิชั่นส์) เป็นต้น[12]
การยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบแอนะล็อก
ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 18:30 น. โมเดิร์นไนน์ทีวี (ชื่อในระบบทีวีแอนะล็อกของช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี) ได้ทำการยุติการออกอากาศโทรทัศน์ระบบแอนะล็อกจากสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ 13 สถานีเป็นลำดับแรก โดยมีผลกระทบต่อผู้ชมในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน (รวมไปถึงที่อำเภอแม่สะเรียง) จังหวัดน่าน จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง (รวมไปถึงอำเภอตะกั่วป่า) จังหวัดสตูล และในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18:30 น. โมเดิร์นไนน์ทีวีได้ทำการยุติการแพร่ภาพในระบบอนาล็อกครบทุกพื้นที่ในประเทศ โดยยุติการแพร่ภาพจากสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ที่เหลืออีก 23 สถานี ซึ่งรวมไปถึงสถานีในกรุงเทพมหานครซึ่งยุติการออกอากาศเป็นลำดับสุดท้าย เนื่องจากโครงข่ายการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลของ บมจ.อสมท ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว และเหลือแต่เพียงแค่การออกอากาศในระบบดิจิทัลทางช่องหมายเลข 30 (ภาพความคมชัดสูง) ในชื่อ "ช่อง 9 MCOT HD" แต่เพียงอย่างเดียว[13]
ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าว
ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าวในปัจจุบันที่มีชื่อเสียง
- กำภู ภูริภูวดล
- รัชนีย์ สุทธิธรรม
- สุทิวัส หงส์พูนพิพัฒน์
- ธีรวัฒน์ พึ่งทอง
- กุลธิดา สิริอิสสระนันท์
- ชุติมา พึ่งความสุข
- วีระ ธีรภัทร
- อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์
- เฉลิมพร ตันติกาญจนากุล
- ณทิพรดา เอื้อพิบูลย์วัฒนา
- สุวิช สุทธิประภา
- นีรชา หลิมสมบูรณ์
- นภัส ธีรดิษฐากุล
- จามร กิจเสาวภาคย์
- ภัทรดนัย เทศสุวรรณ
- วาเนสสา สมัคศรุติ
ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าวในอดีต
- สำนักข่าวไทย
- วิศาล ดิลกวณิช (บ่ายนี้มีคำตอบ)
- อณัญญา ตั้งใจตรง (หัวหน้า บก. ข่าวการเมือง, ผู้สื่อข่าวการเมือง) - เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565
- ทัชธร วงศ์วานิช (ข่าวเช้าสำนักข่าวไทย) - ปัจจุบันอยู่ช่องไทยรัฐทีวี
- ธันยมัย อนันตกรณีวัฒน์
- ภรภัทร นีลพัธน์ (คุยโขมงข่าวเช้า/พระราม9ข่าวเช้า/คุยโขมงบ่ายสามโมง; 25XX - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563)
- โศภณ นวรัตนาพงษ์ - ปัจจุบันอยู่ช่องทีเอ็นเอ็น 16
- ภิญญาพัชญ์ ด่านอุตรา (ข่าวเที่ยง/คลุกวงข่าว/คุยโขมงข่าวเช้า/Biztime/ข่าวค่ำ; 2553 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561)- ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา - ปัจจุบันอยู่ช่อง 7HD
- บัญชา ชุมชัยเวทย์ (สดจากห้องค้า; พ.ศ. 2547-2549) - ปัจจุบันเป็นผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจทางช่อง 3 เอชดี
- กิตติ สิงหาปัด (ข่าวค่ำ; 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2550-31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551) - ปัจจุบันอยู่ช่อง 3 เอชดี
- ธีระ ธัญญอนันต์ผล (ข่าวค่ำ; พ.ศ. 2551-2552) - ปัจจุบันอยู่ช่อง 8
- จำเริญ รัตนตั้งตระกูล (ข่าวเที่ยง, คัดข่าวเด่น) - ปัจจุบันอยู่ทีเอ็นเอ็น 16
- พงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ (ข่าวค่ำ, ลมฟ้าอากาศ, เกาะข่าว 9) - ปัจจบันอยู่ไทยรัฐทีวี
- อรชุน รินทรวิฑูรย์ (ข่าวต้นชั่วโมง) - ปัจจุบันอยู่ช่องวัน 31
- กุณฑีรา ปัจฉิมสวัสดิ์ (ข่าวต้นชั่วโมง) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ฤทธิกร การะเวก (ข่าวกีฬาภาคค่ำ) - ปัจจุบันอยู่ทีเอ็นเอ็น 16
- ณัฐ เสตะจันทร์ (ข่าวกีฬาภาคเที่ยง, ข่าวกีฬาภาคค่ำ) - ปัจจุบันอยู่ NBT 2HD
- ลลิตา มั่งสูงเนิน (ข่าวเที่ยง, ข่าวค่ำ, 9 SPEED NEWS, รอบวันข่าว, คุยข่าวเสาร์-อาทิตย์) - ปัจจุบันอยู่เนชั่นทีวี
- อรการ จิวะเกียรติ (ข่าวเที่ยง, ข่าวค่ำ) - ปัจจุบันอยู่เนชั่นทีวี
- อำไพรัตน์ เตชะภูวภัทร (ข่าวค่ำ, ลมฟ้าอากาศ, พิธีกรรายการเอ็มคอตแฟมิลีนิวส์) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ดาวี ไชยคีรี (ผู้สื่อข่าวการเมือง) - ปัจจุบันอยู่ไทยพีบีเอส
- สกนธ์ จินดาวรรณ (ผู้สื่อข่าว) - ปัจจุบันอยู่ ไทยพีบีเอส
- ณิชกานต์ แววคล้ายหงษ์ (ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ) - ปัจจุบันอยู่พีพีทีวี
- สันติวิธี พรหมบุตร (ผู้สื่อข่าว) - ปัจจุบันอยู่ช่อง 7HD
- ภูริภัทร บุญนิล (ผู้สื่อข่าว) - ปัจจุบันอยู่ไทยรัฐทีวี
- มินดา นิตยวรรธนะ (ข่าวค่ำ) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- รินทร์ ยงวัฒนา (ข่าวค่ำ) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ศุภโชค โอภาสะคุณ (ข่าวต้นชั่วโมง) - ปัจจุบันอยู่อมรินทร์ทีวี
- โศธิดา โชติวิจิตร (ข่าวต้นชั่วโมง) - ปัจจุบันอยู่ช่อง 3 เอชดี
- มนุชา เจอมูล (ผู้สื่อข่าว) - ปัจจุบันอยู่ทีสปอร์ตในนาม Mainstand
- ธันย์ชนก จงยศยิ่ง (ข่าวต้นชั่วโมง) - ปัจจุบันอยู่ทีเอ็นเอ็น16
- ไอลดา พิศสุวรรณ (เอ็มคอตแฟมิลีนิวส์) - ปัจจุบันอยู่ช่องเวิร์คพอยท์ในนามสำนักข่าว Workpoint Today
- นฤมล รัตนาภิบาล (ข่าวในพระราชสำนัก) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ชัยนันท์ สันติวาสะ (ข่าวในพระราชสำนัก) - ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร
- ประชา เทพาหุดี (ข่าวกีฬาภาคค่ำ) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- สุนทร สุจริตฉันท์ - ปัจจุบันเป็นสื่อมวลชนอิสระและนักธุรกิจส่วนตัว
- อรุณโรจน์ เลี่ยมทอง (ข่าวรับอรุณ) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- นิรมล เมธีสุวกุล ผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าว - ปัจจุบันเป็นพิธีกรรายการทุ่งแสงตะวัน ทางช่อง 3 เอชดี
- วิทวัจน์ สุนทรวิเนตร์ (ข่าวพยากรณ์อากาศ) - ปัจจุบันเป็นผู้บริหารบริษัท 2020 เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด พิธีกรรายการตีสิบเดย์ ทางช่อง 3 เอชดี
- กรรณิกา ธรรมเกษร (ข่าวภาคค่ำ) - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ (ข่าวพยากรณ์อากาศ)- ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- พิภู พุ่มแก้ว (ข่าวเที่ยง, ข่าวค่ำ) - ปัจจุบันอยู่ช่องเนชั่นทีวี
- ชลธิชา อัศวาณิชย์ - ปัจจุบันอยู่ทีเอ็นเอ็น 16
- อารตี คุโรปการนันท์ - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- พิสิทธิ์ กีรติการกุล - ปัจจุบันอยู่ช่อง 7HD และเป็นพิธีกรรายการคดีเด็ด
- ผศ.ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล - ปัจจุบันเป็นสื่อมวลชนอิสระ
- ศศิธร ลิ้มศรีมณี : ผู้สื่อข่าว - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- สุรชา บุญเปี่ยม : ผู้สื่อข่าว - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ศัตฉัน วิสัยจร : ผู้สื่อข่าว - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- สกาวรัตน สยามวาลา - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ศรีอาภา เรือนนาค - ปัจจุบันเป็นนักพากย์
- เพ็ญพรรณ แหลมหลวง - ปัจจุบันอยู่เนชั่นทีวี
- ถึงลูกถึงคน (พ.ศ. 2546-2549), คุยคุ้ยข่าว (พ.ศ. 2547-2549)
- สรยุทธ สุทัศนะจินดา - ปัจจุบันอยู่ช่อง 3 เอชดี
- กนก รัตน์วงศ์สกุล - ปัจจุบันอยู่ช่องท็อปนิวส์
- ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ - ปัจจุบันอยู่ช่อง MONO29
- 9 ร่วมใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน (พ.ศ. 2550-2552)
- ไชยวัฒน์ อนุตระกูลชัย - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- ธันย์ชนก จงยศยิ่ง - ปัจจุบันอยู่ทีเอ็นเอ็น16
- ถวัลย์ ไชยรัตน์ - ปัจจุบันยุติการทำหน้าที่แล้ว
- วันชัย สอนศิริ - ปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา
- ข่าวข้นคนข่าว (พ.ศ. 2550-2555), เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า (2552-2555)
- กนก รัตน์วงศ์สกุล - ปัจจุบันอยู่เจเคเอ็น 18 บาย ท็อปนิวส์
- ธีระ ธัญไพบูลย์ - ปัจจุบันอยู่เจเคเอ็น 18 บาย ท็อปนิวส์
- จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ - ปัจจุบันอยู่ The Matter
- คลุกวงข่าว (พ.ศ. 2555-2557)
- ภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ - ปัจจุบันอยู่ไทยรัฐทีวี
- ชนิตร์นันทน์ ปุณณะนิธิ - ปัจจุบันอยู่ช่อง 8
- สลิลาทิพย์ ทิพยไกรศร - ปัจจุบันเป็นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยคณบดี ฝ่ายแผนและประกันคุณภาพ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.