คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺโญ)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ นามเดิม ปัญญา ทิพย์มณฑา ฉายา อินทปญฺโญ (8 ตุลาคม พ.ศ. 2465 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และผู้สร้างโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์

ข้อมูลเบื้องต้น พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปญฺโญ), ส่วนบุคคล ...
Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เดิมชื่อ ปัญญา ทิพย์มณฑา เป็นบุตรของนายไป๋และนางแช่ม ทิพย์มณฑา อาชีพกสิกรรม เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2465 ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2477 ขณะมีอายุได้ 12 ปี ณ วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พระครูปัจฉิมทิศบริหาร (เกิด) วัดงิ้วลาย ตำบลงิ้วลาย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาเมื่ออายุได้ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเดิม เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2485 โดยมีพระพุทธวิถีนายก (เพิ่ม ปุญฺญวสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า "อินทฺปญฺโญ"

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ดำรงตำแหน่งในทางปกครองคณะสงฆ์ อาทิ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เป็นต้น สำหรับสมณศักดิ์ชั้นสุดท้ายเป็นที่พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ เมื่อ พ.ศ. 2539 ตลอดชีวิตของท่าน ได้ทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาด้านบริการชุมชนและสาธารณสุข โดยเฉพาะการสร้างโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการรักษาดวงตา

พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปญฺโญ) มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง และป่วยเรื้อรังมานานนับสิบปี ท่านได้เข้ารักษาตัวครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลธนบุรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และมรณภาพเมื่อกลางดึกวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ด้วยอาการสงบจากอาการติดเชื้อที่ปอดและกระแสโลหิต สิริรวมอายุได้ 85 ปี 4 เดือน 5 วัน พรรษา 65 พรรษา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรงศพและพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม ตามสมณศักดิ์

Remove ads

สมณศักดิ์

  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2500 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูทักษิณานุกิจ[1]
  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2504 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระปัญญาวิมลมุนี[2]
  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2511 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชปัญญาภรณ์ สุนทรธรรมวาที ศรีปริยัติกิจ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[3]
  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2524 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพวรเวที นรสีห์ธรรมานุนายก ตรีปิฎกวิภูษิต ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[4]
  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2533 เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมมหาวีรานุวัตร พิพัฒนกิจโกศล โสภณธรรมสุธี ศรีปริยัติกิจจานุกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
  • 5 ธันวาคม พ.ศ. 2539 รับสถาปนาสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ญาณวิสุทธจริยาปริณายก ดิลกศีลาทิขันธสุนทร บวรธรรมภาณ สาธุการีธรรมากร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
Remove ads

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads