Loading AI tools
ไฮเปอร์มาร์เก็ต จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บิ๊กซี (อังกฤษ: Big C) เป็นศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ต, ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อสัญชาติไทย ดำเนินกิจการค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ลาว กัมพูชา เวียดนามและฮ่องกง บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2536 และเปิดให้บริการสาขาแรกบนถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2537 ปัจจุบันกิจการในประเทศไทย ลาว และกัมพูชา เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) ภายใต้กลุ่มทีซีซี
ประเภท | บริษัทมหาชน |
---|---|
ISIN | TH0280010016 |
อุตสาหกรรม | ศูนย์การค้า |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2536 (31 ปี) |
ผู้ก่อตั้ง | กลุ่มเซ็นทรัล |
สำนักงานใหญ่ | 88/9 ซอยสมานฉันท์-บาร์โบส ถนนสุขุมวิท 42 (กล้วยน้ำไท) แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร |
พื้นที่ให้บริการ | ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง |
บุคลากรหลัก | เจริญ สิริวัฒนภักดี (ประธานกรรมการ) อัศวิน เตชะเจริญวิกุล (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่) |
ผลิตภัณฑ์ | ศูนย์การค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ |
รายได้ | ฿ 120,918 ล้านบาท (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2559)[1] |
รายได้สุทธิ | ฿ 6,372 ล้านบาท (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2559)[1] |
เจ้าของ | บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) |
พนักงาน | 29,394 (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2559)[1] |
บริษัทแม่ | กลุ่มทีซีซี |
เว็บไซต์ | http://www.bigc.co.th |
เชิงอรรถ / อ้างอิง [1] |
กลุ่มเซ็นทรัล ได้มีแนวคิดในการขยายธุรกิจออกสู่รูปแบบห้างสรรพสินค้าครบวงจรในที่เดียว (Bigbox Retail) จึงได้เปิดบริษัท เซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ จำกัด และเปิดให้บริการเซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ สาขาแรกแทนที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาวงศ์สว่าง (ปัจจุบันคือมาร์เก็ต เพลส วงศ์สว่าง) ในวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2536[2] นับเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นรูปแบบการค้าปลีกแบบใหม่ของประเทศไทยในขณะนั้น ก่อนที่กลุ่มเซ็นทรัลจะเปิดบริษัทที่ร่วมทุนกับกลุ่มอิมพีเรียล ของตระกูลกิจเลิศไพโรจน์ ในนาม บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2536[3][4][a] และเปิดให้บริการไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกในนาม บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ บนถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2537[5] และเปลี่ยนชื่อ เซ็นทรัล ซูเปอร์สโตร์ เป็นบิ๊กซีในปีถัดมา รวมถึงในปี พ.ศ. 2539 กลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าซื้อกิจการกลุ่มโรบินสัน และเปลี่ยนชื่อห้างค้าปลีกของกลุ่มโรบินสันในนามว่า "เซฟวัน" ที่รังสิตมาเป็นบิ๊กซีด้วย
บิ๊กซีได้เปิดให้บริการอีก 19 สาขาในทั่วประเทศหลังจากเปิดสาขาแรก แต่ผลจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ทำให้บิ๊กซีตัดสินใจหยุดขยายสาขา หลังเปิดให้บริการสาขาที่ 20 ที่เพชรบุรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนจากผลของภาระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ได้นำมาใช้ในการขยายสาขา ระหว่างนั้นจึงพยายามแสวงหากลุ่มทุนเข้ามาช่วยเหลือ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2542[6] กลุ่มคาสิโน ผู้ประกอบการค้าปลีกสัญชาติฝรั่งเศส ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทจำนวน 530 ล้านหุ้น และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 66% บิ๊กซีจึงกลายเป็นค้าปลีกต่างชาติเช่นเดียวกับ เทสโก้ โลตัส และ คาร์ฟูร์ ในขณะนั้นโดยสมบูรณ์[7]
ในปี พ.ศ. 2545 บิ๊กซีได้มีการจัดตั้งมูลนิธิบิ๊กซีไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนที่ด้อยโอกาส โดยในปี พ.ศ. 2559 มูลนิธิได้ให้ความช่วยเหลือเยาวชนไทยเป็นจำนวนเงินรวมนับตั้งแต่ก่อตั้งกว่า 350 ล้านบาท มีการสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนมาแล้ว 44 หลัง การให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนกว่า 42,000 ทุน และการส่งเสริมการศึกษาด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในปี พ.ศ. 2551 บิ๊กซีได้เริ่มขยายกิจการจากการค้าปลีกในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตออกสู่ตลาดร้านสะดวกซื้อและร้านขายยา ภายใต้ชื่อ มินิบิ๊กซี และ เพรียว ตามลำดับ[8] ในปี พ.ศ. 2553 บิ๊กซี ได้เปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ตภายใต้ชื่อ บิ๊กซี จูเนียร์ สาขาแรกที่ศูนย์การค้าทวีกิจ คอมเพล็กซ์ สระบุรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม[6], ในปี พ.ศ. 2561 บิ๊กซี ยังได้เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตในรูปแบบ บิ๊กซี ฟู้ดเพลส สาขาแรกที่เกทเวย์ แอท บางซื่อ อีกด้วย[9]
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 กลุ่มคาสิโน ได้ชนะการประมูลกิจการคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ด้วยราคาซื้อขาย 868 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงิน 35,857 ล้านบาท[b][10]และมีผลทำให้ตลาดค้าปลีกในประเทศไทยเหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่เท่านั้น ได้แก่ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซึ่งกิจการได้ควบรวมกันเสร็จสิ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 และในปี พ.ศ. 2556 บิ๊กซีได้ทำการปรับปรุงคาร์ฟูร์ทั้งหมดเสร็จสิ้น โดยแบ่งออกเป็นรูปแบบคาร์ฟูร์ไฮเปอร์มาร์เก็ต (ร้านขนาดใหญ่) จำนวนทั้งหมด 34 สาขาให้กลายเป็นบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 13 สาขา, บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า 15 สาขา, บิ๊กซี จัมโบ้ 1 สาขา ที่สำโรง ส่วนในบางสาขาที่มีความซ้ำซ้อนกันหรือหมดสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่ารายเดิมก็ได้ปิดตัวไปจำนวน 5 สาขา และยังได้ปรับปรุงร้านคาร์ฟูร์ มาร์เก็ต 8 สาขา รวมถึงบิ๊กซี จูเนียร์ 2 สาขาให้เป็น บิ๊กซี มาร์เก็ต และปรับปรุงร้านคาร์ฟูร์ ซิตี้ เป็น มินิบิ๊กซี[11][12]
ในปี พ.ศ. 2559 กลุ่มคาสิโนได้ประสบปัญหาด้านการเงิน จึงเปิดประมูลกิจการบิ๊กซีในไทย ลาว และเวียดนาม เพื่อนำเงินทุนไปชำระหนี้สินของบริษัทฯ โดยมี กลุ่มเซ็นทรัล กับ กลุ่มทีซีซี เข้าร่วมประมูล ซึ่งกลุ่มทีซีซีได้ชนะการประมูลบิ๊กซีในประเทศไทยด้วยมูลค่า 2 แสนล้านบาท[6] และกลายเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 97.94% โดยการซื้อขายหุ้นได้เสร็จเรียบร้อยภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 และกลุ่มเซ็นทรัลก็ได้ขายหุ้นที่มีอยู่ในบิ๊กซีทั้งหมดให้กับกลุ่มทีซีซี ทำให้บิ๊กซีกลายเป็นกิจการค้าปลีกของคนไทยอีกครั้ง และมีการเปลี่ยนคำขวัญเป็น "ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า" นับแต่นั้นมา โดยปัจจุบันอยู่ภายใต้การถือหุ้นใหญ่โดยบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)[1] ขณะที่กลุ่มเซ็นทรัลได้เพียงแค่กิจการในประเทศเวียดนาม ด้วยมูลค่า 3.68 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มเหงียนคิม ผู้ประกอบการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ของเวียดนาม[13] โดยสาขาในประเทศเวียดนามทั้งหมดถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "โก!" และ "ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต" ครบทุกสาขาใน พ.ศ. 2566 เนื่องด้วยสิทธิการใช้ชื่อบิ๊กซีของกลุ่มเซ็นทรัลได้หมดลง ทั้งนี้กลุ่มทีซีซีมีความคิดที่จะขยายธุรกิจบิ๊กซีออกไปยังเวียดนามหลังจากสิทธิการใช้ชื่อบิ๊กซีของกลุ่มเซ็นทรัลหมดลงด้วยเช่นกัน[14]
หลังการเข้าซื้อกิจการ 6 ปี ใน พ.ศ. 2565 บีเจซีมีแนวคิดในการแยกบิ๊กซีออกเป็นบริษัทเอกเทศผ่านการระดมทุนสาธารณะด้วยการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน และกลับเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบีเจซีตั้งเป้าระดมทุนไม่เกิน 18,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียนและขายกิจการตามแผนงานที่บีเจซีได้วางไว้ แทนการใช้งบประมาณจากบีเจซีที่ปัจจุบันต้องปันส่วนงบประมาณกว่า 90% มาใช้หมุนเวียนกิจการบิ๊กซีที่ปัจจุบันถือเป็นรายได้หลักของบีเจซี
ต่อมาใน พ.ศ. 2566 บีเจซีได้แปรสภาพ บริษัท บีเจซี โลจิสติกส์ แอนด์ แวร์เฮ้าส์ จำกัด ให้เป็น บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ย่อ: BRC) โดยบีเจซีถือหุ้นเองทั้งหมด และได้โอนย้ายกิจการค้าปลีกภายใต้บีเจซี ซึ่งประกอบไปด้วย บิ๊กซี เอเชียบุ๊คส์ กาแฟวาวี ร้านยาเพรียว ร้านยาสิริฟาร์มา รวมถึงโอนธุรกิจ เอ็มเอ็ม ฟู้ดเซอร์วิส ในประเทศไทย ให้เป็นของบิ๊กซี ภายใต้ชื่อ บิ๊กซี ฟู้ดเซอร์วิส และโอนธุรกิจ เอ็มเอ็ม เมก้ามาร์เก็ต ในประเทศเวียดนามให้อยู่ภายใต้บิ๊กซี
ต่อมา บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการนำหุ้นสามัญของ BRC เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ [15]
ต่อมาในเดือนเมษายน บีอาร์ซี ได้ยื่นหนังสือชี้ชวนให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พิจารณา และได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566 โดยรายงานเปิดเผยว่า บีเจซี เสนอขายหุ้น บีอาร์ซี ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 29.98% แก่ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ บิ๊กซี รีเทล ยังมีความคิดที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แทนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย โดยยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาถึงแหล่งเงินทุนและโอกาสในการเข้าตลาด
บิ๊กซี ได้ขยายธุรกิจออกสู่ต่างประเทศครั้งแรกที่ประเทศเวียดนามในราวคริสต์ทศวรรษ 2000[14] มีจำนวนสาขาก่อนขายกิจการทั้งสิ้น 36 สาขา ซึ่งภายหลังจากที่คาสิโนได้ขายกิจการให้กลุ่มเซ็นทรัล ปัจจุบันบิ๊กซี เวียดนามได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการจากการรีแบรนด์เป็น "โก!", "มินิโก!", และ "ท็อปส์" ในปี พ.ศ. 2565 ในขณะที่กิจการในประเทศลาวทางบีเจซีได้เข้าซื้อกิจการเองทั้งหมด และในปี พ.ศ. 2561 กลุ่มทีซีซี ยังได้เริ่มทำการเปลี่ยนชื่อ เอ็มพอยท์มาร์ท ร้านสะดวกซื้อที่บริษัทตั้งขึ้นเองในประเทศลาวทั้งหมด 44 สาขาให้เป็นมินิบิ๊กซีทั้งหมดซึ่งการเปลี่ยนแปลงชื่อได้เสร็จสิ้นในปีต่อมา[16][17] ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562 บิ๊กซียังได้เปิดสาขาแรกในประเทศกัมพูชา ที่ปอยเปต โดยใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาทบนเนื้อที่ 20 ไร่ พร้อมพื้นที่ขาย 3,000 ตารางเมตรและพื้นที่เช่า 5,000 ตารางเมตร โดยบิ๊กซียังวางแผนที่จะเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตอีกหลายแห่งแห่งในพนมเปญและเสียมราฐในอีกสองปีข้างหน้า[18][19]
ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566 บิ๊กซี รีเทล ได้เข้าซื้อกิจการ อะเบาไทย (AbouThai) กิจการซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศฮ่องกง จำนวน 24 สาขา ภายใต้งบลงทุน 300 ล้านบาท ภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการ บิ๊กซีได้เริ่มปรับร้าน AbouThai เป็นบิ๊กซี และเปลี่ยนชื่อบริษัท AbouThai Group เป็น Big C (HK) เพื่อกำหนดให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้งนี้บิ๊กซีตั้งเป้าเปิดสาขาให้ได้ 99 สาขาใน พ.ศ. 2569 และยังได้ปรึกษากับตลาดหลักทรัพย์ของประเทศฮ่องกงในการนำ Big C (HK) เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในฮ่องกงอีกด้วย
ต่อมาในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567 บิ๊กซีได้เปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกในประเทศลาว ที่นครหลวงเวียงจันทน์ เวียงจันทน์ หน้าศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก นับเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตใจกลางกรุงเวียงจันทน์แห่งแรกในประเทศลาว
เครื่องหมาย การค้า | ประเภท | พื้นที่ขาย | เวลาทำการ | ลักษณะ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|
บิ๊กซี | 4,000 – 12,000 ตรม. | 8.00, 9.00, 10.00 น. – 21.00, 22.00, 23.00 | ไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มุ่งจับลูกค้าทุกระดับ โดยมุ่งเน้นที่การนำเสนอสินค้าหลากหลายที่ประหยัด ให้ความคุ้มค่าสูงสุด รวมถึงบริการที่ประทับใจ และสภาพแวดล้อมในร้านค้าที่สะอาดและมีประสิทธิภาพสูงที่สุด พร้อมด้วยพื้นที่ร้านเช่าและบางสาขายังมีโฮมโปร และโรงภาพยนตร์เปิดทำการร่วมด้วย | [12] | |
บิ๊กซี เพลส | ไม่ทราบ | 8.00, 9.00 - 21.00, 22.00, 23.00 น. | รูปแบบศูนย์การค้าให้เช่า ควบคู่กับไฮเปอร์มาร์เก็ต เดิมเปิดเป็นส่วนต่อขยายจากบิ๊กซี สาขาพระรามที่ 4 บริเวณที่ดินทางทิศตะวันออกของอาคาร ในชื่อ "บิ๊กซี พลาซ่า" ปัจจุบันได้ยกขึ้นเป็นรูปแบบหลักสำหรับสาขาประเภทอาคารอิสระ ในจำนวนนี้มีสาขาที่ปรับปรุงจากไฮเปอร์มาร์เก็ต 4 สาขา เอ็กซ์ตร้า 1 สาขา เปิดใหม่เพียงสาขาเดียว คือสาขาสระบุรี | [19][20] | |
บิ๊กซี ฟู้ดเพลส | 750 - 2,000 ตรม. | 07.00, 08.00, 09.00, 10.00 – 21.00, 22.00 น. 24 ชั่วโมง (สามย่านมิตรทาวน์) | รูปแบบร้านที่เน้นการจำหน่ายอาหารสด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหารภายในบริเวณร้าน อนึ่ง บิ๊กซีได้นำตรา "ฟู้ดเพลส" ไปใช้เป็นชื่อแผนกอาหารแห้งและของชำในบิ๊กซีเพลสและบิ๊กซีไฮเปอร์มาร์เก็ตบางสาขาด้วย[21] นอกจากนี้ยังมีสาขารูปแบบพิเศษ "บิ๊กซี แบงค็อก มาร์เช" ตั้งอยู่ในโครงการวัน แบงค็อก[22] | [23] | |
บิ๊กซี ฟู้ดเซอร์วิส | 750 - 2,000 ตรม. | 07.00, 08.00, 09.00 – 21.00, 22.00 น. | รูปแบบร้านที่เน้นการจำหน่ายอาหารสด สินค้าอุปโภค บริโภค เพื่อผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด สด สะอาด ปลอดภัย ราคาขายส่ง เป็นการปรับภาพลักษณ์มาจาก เอ็มเอ็ม ฟู้ดเซอร์วิส เดิม | [24] | |
บิ๊กซี มินิ | เฉลี่ยประมาณ 160 ตรม. | เปิด 24 ชั่วโมง | รูปแบบร้านสะดวกซื้อที่เน้นความสะดวกสบาย มีจุดเด่นที่จำหน่ายอาหารสดเช่นเดียวกับไฮเปอร์มาร์เก็ต เพื่อตอบสนองความต้องการของนักชอปปิ้งรายวัน ยังมีบริการต่าง ๆ เช่น เคาท์เตอร์เซอร์วิส แรบบิทเซ็นเตอร์ เป็นต้น มีสาขาอยู่มากกว่า 1,000 สาขา | [12][25] | |
เพียว | ประมาณ 45 ตรม. | 6.00, 7.00, 8.00, 9.00 – 21.00, 22.00, 23.00, 24.00 น. 24 ชั่วโมง (สามย่านมิตรทาวน์) | ร้านจำหน่ายเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพและความงาม มีสินค้าประมาณ 2,000 รายการ โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในไฮเปอร์มาร์เก็ตและบิ๊กซีมาร์เก็ต แต่ก็ได้มีบางสาขาที่เปิดอย่างเป็นเอกเทศ | [12] |
ประเภท | พื้นที่ขาย | ลักษณะ | อ้างอิง |
---|---|---|---|
เอ็กซ์ตร้า | 4,000 – 12,000 ตรม. | ไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มุ่งจับลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางถึงบน โดยนำเสนอสินค้าพรีเมี่ยม อาหารสด และอาหารแห้งที่หลากหลาย รวมถึงสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ สินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ไวน์ และสินค้าพิเศษอื่น ๆ อย่างไรก็ตามสาขาเอ็กซ์ตร้าทั้งหมด ถูกยุบให้กลายเป็น บิ๊กซี เพลส ใน พ.ศ. 2565 ยกเว้นสาขาเมกาซิตี้ บางนา ที่ยังคงใช้ตราเอ็กซ์ตร้าเช่นเดิม | [12] |
จัมโบ้ | 10,000 ตรม. | เป็นร้านค้าแบบขายส่ง ภายใต้แนวคิด “พบทุกอย่างที่นี่ ที่เดียว” โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง ผู้ประกอบการรายย่อย บริษัท สถาบันและครอบครัวใหญ่ เปิดสาขาแรกที่สำโรง ซึ่งเป็นการเข้ามาแทนที่คาร์ฟูร์เดิม และเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาโดยการปรับเปลี่ยนมาจากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ที่ราษฎร์บูรณะและนวนคร อีกทั้งยังมี บิ๊กซี จัมโบ้สเตชัน ซึ่งเป็นรูปแบบขนาดเล็กของบิ๊กซี จัมโบ้ซึ่งเปิดอยู่ในบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาพัทยา และ อยุธยา ปัจจุบันสาขาทั้งหมดถูกปรับเปลี่ยนเป็น บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ | [12] |
มาร์เก็ต | 750 – 2,000 ตรม. | สาขาขนาดกลางเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในชุมชนที่ต้องการความสะดวกสบายในการจับจ่ายซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน เปิดสาขาแรกที่ทวีกิจ คอมเพล็กซ์ จังหวัดสระบุรี ต่อมาได้ปรับรูปแบบเป็น บิ๊กซี ฟู้ดเพลส | [26][27] |
ดีโป้ | 750 – 2,000 ตรม. | ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มกลางถึงล่าง มีสินค้าประมาณ 8,000 – 15,000 รายการ ทั้งอาหารสด ของใช้ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า มีทั้งรูปแบบสาขาปกติทั่วไป และเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า อย่างไรก็ตามใน พ.ศ. 2565 สาขาทั้งหมดถูกยุบให้กลายเป็น บิ๊กซี ฟู้ดเพลส | [12] |
ลีดเดอร์ไพรซ์ | 150 – 500 ตรม. | ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มล่างที่ต้องการสินค้าราคาประหยัด มีสินค้ากว่าหลายพันรายการที่ใช้ตรา ลีดเดอร์ไพรซ์ มีทั้งสาขารูปแบบปกติและสาขาเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า อย่างไรก็ดีด้วยความนิยมของตราที่เข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย ใน พ.ศ. 2548 บิ๊กซีได้พยายามเปลี่ยนตราลีดเดอร์ไพรซ์มาใช้ตรา ลีดเดอร์ไพรซ์ บาย บิ๊กซี เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น พร้อมทั้งนำสินค้าตราดังเริ่มวางจำหน่ายในสาขาแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ใน พ.ศ. 2551 บิ๊กซีได้ตัดสินใจยุบตรานี้ พร้อมทั้งปิดร้านลีดเดอร์ไพรซ์ไปจำนวนหนึ่ง โดยที่อีกจำนวนหนึ่งได้ปรับเป็นร้าน บิ๊กซี มินิ แทน | [28][29] |
ปี | รางวัล | สาขา | ผล |
---|---|---|---|
2566 | Thailand Zocial Awards 2023[30] | Best Brand Performance on Social Media กลุ่มธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตและซุปเปอร์มาร์เก็ต | ชนะ |
ชื่อสาขา | วันที่เปิดบริการ | วันที่ปิดบริการ | จังหวัดที่ตั้ง | สถานะในปัจจุบัน |
---|---|---|---|---|
ปราจีนบุรี | 14 ธันวาคม พ.ศ. 2549 | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563 | จังหวัดปราจีนบุรี | ย้ายสาขาไปยังบิ๊กซี ศรีมหาโพธิ ส่วนที่ตั้งเดิมหมดสัญญาเช่า |
สหไทยพลาซา นครศรีธรรมราช | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 | พ.ศ. 2562 | จังหวัดนครศรีธรรมราช | ย้ายสาขาไปยังบิ๊กซี นครศรีธรรมราช (ถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ) ส่วนที่ตั้งเดิมปรับปรุงเป็นสหไทยซูเปอร์มาร์เก็ต |
สุขาภิบาล 3 สาขา 2 | 7 มีนาคม พ.ศ. 2539 | 15 กันยายน พ.ศ. 2567 | กรุงเทพมหานคร | ย้ายสาขาไปยังบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 สาขา 1 และสาขาสุวินทวงศ์ ส่วนที่ตั้งเดิมหมดสัญญาเช่า |
รังสิต 2 | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2540 | 30 กันยายน พ.ศ. 2567 | จังหวัดปทุมธานี | ย้ายสาขาไปยังบิ๊กซี สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และ สาขาดอนเมือง ส่วนที่ตั้งเดิมหมดสัญญาเช่า |
ราษฎร์บูรณะ | 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 | 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567 | กรุงเทพมหานคร | ย้ายสาขาไปยังสาขาบางปะกอก และ สาขาสุขสวัสดิ์ ส่วนที่ตั้งเดิมหมดสัญญาเช่า โดยมีแผนจะสร้างใหม่บนที่ดินติดกับ แม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ในกลุ่มบีเจซี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.