คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย หรือ สนามบินเชียงราย (อังกฤษ: Mae Fah Luang – Chiang Rai International Airport) (IATA: CEI, ICAO: VTCT) (ไทยถิ่นเหนือ: ) ตั้งอยู่เลขที่ 404 หมู่ 10 บ้านปางลาว ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ห่างจากถนนพหลโยธิน (เชียงราย - แม่จัน) ทางทิศตะวันออกประมาณ 2.6 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองเชียงราย ประมาณ 8 กิโลเมตร โดยมีเส้นทางหลักคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1418 มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 3,042 ไร่ เป็นท่าอากาศยานที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ (International Airport)[1] และเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ 1 ใน 6 แห่ง ที่บริหารงานโดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
Remove ads

Remove ads
ข้อมูลทั่วไป
สรุป
มุมมอง
ท่าอากาศยานเชียงรายเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2535 สังกัดกรมการบินพาณิชย์ (บพ.) กระทรวงคมนาคม ใช้ชื่อว่า "สนามบินบ้านดู่"[2] ต่อมา บพ.ได้ถูกโอนมาขึ้นอยู่กับการบริหารของ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2541 และ "การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย” ได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ "บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)” เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2545 ถึงปัจจุบัน[3]
ต่อมา คณะกรรมการ ทอท. มีมติเห็นชอบให้เพิ่มชื่อท่าอากาศยานเชียงรายเป็น ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดีที่มีต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ตามที่ได้มีการร้องขอจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนในจังหวัดเชียงราย ดังนั้น ทอท. จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ชื่อดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา[4]
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เป็นสนามบินที่มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้ 3 ล้านคนต่อปี และสามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ เช่น Boeing 777, Boeing 787, Airbus A330 series, Airbus A340 series และอากาศยานขนาดใหญ่มาก เช่น Boeing 747 series ในอดีต บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เคยนำเครื่องบินขนาดใหญ่แบบ แอร์บัส เอ340 Airbus A340-642 และขนาดใหญ่มากแบบ Boeing 747 ทำการบินจาก ท่าอากาศยานดอนเมือง ไป-กลับ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย อีกด้วย
ปัจจุบันมีสายการบินให้บริการที่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย จำนวน 6 สายการบิน แบ่งเป็นเส้นทางภายในประเทศ 5 สายการบิน (สายการบิน การบินไทย, ไทยเวียดเจ็ทแอร์, ไทยไลออนแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, และสายการบินนกแอร์) และระหว่างประเทศ 1 สายการบิน ได้แก่แอร์เอเชีย
โดยตารางบินข้างต้นอาจเพิ่มหรือลดได้ตามตารางบินของสายการบินนั้น ทั้งนี้ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายมีศักยภาพพร้อมที่จะรองรับสายการบินระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการค้าและเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงราย
Remove ads
รายชื่อสายการบิน
สายการบินที่เคยให้บริการ
Remove ads
สถิติ
ข้อมูลจำเพาะของท่าอากาศยาน
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ตั้งอยู่ละติจูดที่ 19 องศา 57 ลิปดา 8 ฟิลิปดาเหนือ ลองติจูด 99 องศา 52 ลิปดา 59 ฟิลิปดาตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,279 ฟุต หรือ 390.23 เมตร
- เปิดบริการ 24 ชั่วโมง.
ทางวิ่งอากาศยาน (RUN WAY)
ทางวิ่งมีหนึ่งเส้นทาง เป็นแอสฟัลติกคอนกรีตในทิศทาง 03/21 ค่าความแข็งของพื้นผิวทางวิ่ง PCN 84/F/D/X/T มีความยาว 3,000 เมตร กว้าง 45 เมตร ไหล่ทางวิ่งข้างละ 7.5 เมตร และ STOP WAY ปลายทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ยาวด้านละ 60 เมตร[6] สามารถรองรับอากาศยาน CODE E (กางปีกตั้งแต่ 52 เมตร ไม่เกิน 65 เมตร ฐานล้อหลักกว้างตั้งแต่ 9 ถึง 14 เมตร) เช่น B-777, B-787 and A330
Remove ads
ทางขับ (TAXI WAY)
TAXIWAY มี 7 เส้นทาง คือ TAXI WAY A, B, C, D, E, F และ P โดย TAXI WAY P เป็นทางขับคู่ขนานไปกับ RUNWAY 21 ไปทางทิศเหนือ โดยอยู่ทางด้านขวาของ RUNWAY 21
Taxiway width, surface and strength
- Taxiway A: 27.5 M, Concrete surface, PCN 85/R/B/X/T
- Taxiway B: 30 M, Concrete surface, PCN 85/R/B/X/T
- Taxiway C: 35 M, Concrete surface, PCN 85/R/B/X/T
- Taxiway D: 23 M, Concrete surface, PCN 85/R/B/X/T
- Taxiway E: 23 M, Concrete and Asphalt surface, PCN 84/F/D/X/T
- Taxiway F: 23 M, Concrete and Asphalt surface, PCN 84/F/D/X/T
- Taxiway P: 23 M, Concrete surface, PCN 85/R/B/X/T
Remove ads
ลานจอดอากาศยาน
มีจำนวนเนื้อที่โดยประมาณ 45,330 ตารางเมตร ขนาด 120 x 337 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของทางวิ่ง ห่างจาก RUN WAY CENTER LINE 280 เมตรพื้นผิวเป็นคอนกรีต ค่าความแข็ง 73 R/D/X/T มีจำนวน หลุมจอดอากาศยาน จำนวน 7 หลุมจอด และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 12 หลุมจอด[7]
หลุมจอดอากาศยาน
จำนวน 7 หลุมจอด แบ่งเป็น[8]
- CONTACT GATE มีจำนวน 3 หลุมจอด สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่สุดถึง B-737, A-320
- REMOTE มีจำนวน 4 หลุมจอด สามารถรองรับอากาศยานขนาดใหญ่สุดถึง B-747
- ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 12 หลุมจอด
อาคารผู้โดยสาร
เป็นอาคารเดี่ยวคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น พื้นที่ขนาด 60 x 180 เมตร พื้นที่ใช้ประโยชน์ 22,960 ตารางเมตร ลักษณะอาคารเป็นแบบ Linear Terminal ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน (อดีตคือกรมการบินพานิชย์/กรมการบินพลเรือน) อาทิ สนามบินอุดรธานี อุบลราชธานี นครรศรีธรรมราช กระบี่ ขอนแก่น ฯลฯ ซึ่งคาดว่าจะใช้แบบการก่อสร้างอาคารใกล้เคียงกัน ตั้งแต่สมัยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมการบินพานิชย์ (บพ.) ลักษณะพิเศษของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย คือ ผู้โดยสารขาเข้าและผู้โดยสารขาออกจะต้องใช้พื้นที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารร่วมกัน (ขาเข้าเดินจากบนลงล่าง ขาออกเดินจากล่างขึ้นบน) ประกอบกับถูกออกแบบมาให้มีห้องรับรองพิเศษอยู่ตรงกึ่งกลางอาคาร (อาคารผู้โดยสารปัจจุบันมีอายุการใช้งาน 31 ปี) สามารถรองรับผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่งได้ถึง 1,250 คน โดยพื้นที่ใช้ประโยชน์ประกอบด้วย[9]
บริการที่จอดรถยนต์
- พื้นที่รองรับการจอดรถ 1,200 คัน
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
สรุป
มุมมอง
ในปัจจุบัน อาคารผู้โดยสารถูกออกแบบมาให้สามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุดคือ 3,000,000 คนต่อปี ซึ่งในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีปริมาณผู้โดยสารสูงสุดเกือบ 3,000,000 คนส่งผลทำให้เกิดความหนาแน่น แอดอัด คับคั่ง และความไม่สะดวกต่อการให้บริการผู้โดยสารและสายการบินที่เข้ามาใช้บริการ
ดังนั้น จึงได้มีการวางแผนพัฒนาขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายเพื่อให้สามารถรองรับต่อการให้บริการในอนาคตข้างหน้าที่คาดว่าจะสามารถรองรับ ผดส.ได้สูงสุด คือ 8 ล้านคนต่อปี ใน พ.ศ. 2578 โดยแบ่งการพัฒนาเป็น 3 ระยะ
แผนพัฒนาระยะที่หนึ่ง ปี พ.ศ. 2564-2568
- สร้างทางขับคู่ขนานทางทิศเหนือ*
- ปรับปรุง RESA**
- ก่อสร้างอาคารดับเพลิงกู้ภัยอากาศยาน
- ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ
- ก่อสร้างอาคาร VIP
- ก่อสร้างอาคารสำนักงาน (ย้ายสำนักงานออกนอกอาคารผู้โดยสาร เพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสาร)
*สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ผชร.) เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตหลายด้าน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายจึงมีโครงการก่อสร้างระบบทางขับขนานด้านทิศเหนือและปรับปรุงทางขับซ้ายหลุมจอด พร้อมทางขับเอและบี เริ่มก่อสร้าง 4 ต.ค. 64
ทชร.ได้ทำสัญญากับผู้รับเหมา เมื่อช่วงเดือน ก.พ. 64 ที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลาสัญญาก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 660 วัน (4 ต.ค. 64–26 ก.ค. 66) รายละเอียดโครงการประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นผิวทางวิ่งเดิม (Existing taxiways), เส้นนำจอด (Apron taxilane) และทางวิ่งคู่ขนาน (Parallel taxiway) พร้อมจุดเชื่อมต่อกับทางวิ่งหลัก โดยมีกรอบการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ระยะ (ในการก่อสร้างบางพิ้นที่อาจจะมีการปิดสนามบินช่วงเวลา 15.01–22.59 ของทุกวัน ทำให้ตารางบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
- ระยะที่ 1 (Phase 1, ช่วงเวลาก่อสร้าง 3 เดือนหลังจากเริ่มก่อสร้าง) ทำการปรับระดับพื้นผิวก่อสร้างและถอดถอนอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21) เช่น ไฟสัญญาณ PAPI (Precision Approach Path Indicator), ระบบ AWOS (Automated Weather Observing System)
- ระยะที่ 2 (Phase 2, ช่วงเวลาก่อสร้าง 12 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 1) ทำการก่อสร้างทางขับ (Taxiway) A, B, C, D, P และ G โดยที่ C คือทางขับออกด่วน (Rapid exit taxiway) และ P คือทางขับคู่ขนาน (Parallel taxiway), ระบบท่อระบายน้ำ, ระบบไฟสัญญาณ รวมถึงการถอดถอนและติดตั้งอุปกรณ์บางส่วนของทางวิ่งหมายเลข 21 (RWY 21)
- ระยะที่ 3 (Phase 3, ช่วงเวลาก่อสร้าง 7 เดือน หลังจากเสร็จระยะที่ 2) ทำการปรับปรุงและก่อสร้างเพิ่มเติมทางขับประชิด (Closer taxiway) E, F และ G รวมถึงทำการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ไฟสัญญาณ, PAPI และระบบท่อระบายน้ำ
** ช่วงปลายปี 2565 ทอท.ได้มีการอนุมัติเพิ่มเติมโครงการก่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ซึ่งเป็นหนึ่งในกายภาพของสนามบินที่มีวัตถุประสงค์ไว้เพื่อลดความเสี่ยง (Risk) ที่จะเกิดความเสียหาย (Severity) ของอากาศยานที่ลงถึงก่อนทางวิ่ง (Undershooting) หรือร่อนลงบนทางวิ่งแล้ววิ่ง ทะลุออกนอกทางวิ่งด้านหัว/ปลาย (Overrunning) ออกไป ซึ่งโครงการได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยระยะที่ 1 จะทำการก่อสร้างที่ปลาย Runway 21 ก่อน จากนั้นในระยะที่ 2 จะดำเนินการก่อสร้างที่ปลาย Runway 03 ถัดไป โดยจะทำการขยายระยะทางจากปลาย Runway แต่ละด้านออกไปด้านละ 240 เมตร ทั้งนี้แผนการดำเนินการดังกล่าวมีกำหนดแล้วเสร็จภายใน พ.ย. 66
แผนพัฒนาระยะที่สอง ปี พ.ศ. 2568-2571
- ทางขับขนานด้านทางทิศใต้
- เพิ่มลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้ และระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ
- สร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ
- ปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
- สร้างอาคารจอดรถยนต์
- สร้างอาคารศูนย์ซ่อมแซมอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น
- สร้างลานจอดอุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น Ground Support Equipment
แผนพัฒนาระยะที่สาม ปี พ.ศ. 2576-2578
- เพิ่มลานจอดอากาศยานด้านทิศใต้ และระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ
- ปรับปรุงและต่อเติมอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และต่างประเทศ (โครงการต่อเนื่อง)
- รองรับเที่ยวบินได้ 30 เที่ยวบิน/ชั่วโมง
- หลุมจอดอากาศยาน 13 หลุมจอด
- งานปรับปรุงอาคารจอดรถ
- งานปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค
ในขณะเดียวกันเมื่อช่วงปี 2563 ทอท. ได้อนุมัติสัญญาเช่าระยะยาวให้แก่บริษัท เชียงราย เอเวชั่น โฮลดิ้ง จำกัด (Chiang Rai Aviation Holding Co., Ltd. : CAH) เพื่อก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul : MRO) เครื่องบินลำตัวแคบ (Narrowbody) ประกอบด้วยอาคารซ่อมบำรุงอากาศยาน จำนวน 2 หลัง แต่ละหลังมี 4 หลุมจอด, ลานจอดอากาศยานภายนอก 7 หลุมจอด, อาคาร Workshop และอาคารสำนักงาน บนพื้นที่ 50 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ ทชร. ภายใต้กรอบการพัฒนาร่วมของ ทอท. โดยได้มีการเริ่มดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 65 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2568 (ณ วันที่ 5 ส.ค. 67 ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำ EIA คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างหลังเสร็จสิ้นกระบวนการ EIA)
Remove ads
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads