กรมทหารพรานที่ 43

กรมทหารพรานที่ 43 (อักษรย่อ: กรม ทพ. 43; อังกฤษ: 43rd Ranger Forces Regiment) เป็นหนึ่งในกองกำลังเฉพาะกิจของกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ รับผิดชอบพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดปัตตานี^[10] ดูแลอำเภอโคกโพธิ์^[18] ซึ่งมีกองบัญชาการอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี^[19] และมี ​พันเอก ปรเมธ ศานุพงศ์ เป็น ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43

กรมทหารพรานที่ 43
กรมทหารพรานที่ 43
ประเทศ	ไทย
รูปแบบ	กำลังกึ่งทหาร
บทบาท	การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ[1] การสงครามแม่น้ำ[2][3] รักษาความปลอดภัย[4] การลาดตระเวน[5] ปิดล้อมตรวจค้น[6][7] ยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุน[7][8] จัดตั้งหน่วยอาร์มันโด[9]
กำลังรบ	1,489 นาย (พ.ศ. 2554)[10]
กองบัญชาการ	ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี
สมญา	เสือดำ
สีหน่วย	เขียวอ่อน
วันสถาปนา	19 มกราคม พ.ศ. 2527
ปฏิบัติการสำคัญ	ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย[11][12]  • เหตุระเบิดที่จังหวัดปัตตานี พ.ศ. 2560[13][14][15]
ผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับการปัจจุบัน	พันเอก ปรเมธ ศานุพงศ์​
ผบ. สำคัญ	พันเอก ศานติ ศกุนตนาค[16][17]

นอกจากนี้ กรมทหารพรานที่ 43 ยังมีหน่วยจักรยานยนต์วิบากเคลื่อนที่เร็ว ภายใต้ชื่อ "อาร์มันโด" (Armando) เพื่อเข้าถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว^[9][13]

เหตุการณ์สำคัญ

เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 องค์การเภสัชกรรมได้ทำการมอบชุดยาสามัญประจำบ้าน พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค แก่กรมทหารพรานที่ 43^[20][21]

จากความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้มีส่วนช่วยในการปิดคดีสำคัญ เช่น เหตุระเบิดบิ๊กซี พ.ศ. 2560^[22][23]

วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 ได้เกิดเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ขณะลาดตระเวนเส้นทางโดยรถยนต์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่มหารพรานได้รับบาดเจ็บ 9 นาย ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 ราย^[7] ในภายหลัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบแก่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ^[24]

ส่วนวันที่ 11 กันยายน ของปีเดียวกัน ได้เกิดเหตุซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 4303 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จากเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยกำลังร่วมทหาร, ตำรวจ และฝ่ายปกครองพร้อมอาวุธ รวมถึงชุดปฏิบัติการทางน้ำ รวมกว่า 1,000 นาย ได้กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุได้ 8 คน^[25][26][27] และในเดือนพฤศจิกายน จากการซักถาม 1 ในผู้ต้องสงสัย ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถยึดกระสุนปืนอาก้าที่ซุกซ่อนไว้ในป่าได้เป็นจำนวนมาก^[8]

ปฏิบัติการสำคัญ

ในปี พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่กรมทหารพรานที่ 43 และทหารนาวิกโยธิน ซึ่งนำโดยนาวาเอก สมเกียรติ ผลประยูร ได้ทำการปิดล้อมเทือกเขาบูโดที่เป็นแหล่งฝึกอาวุธของกองกำลังอาร์เคเค และสามารถตรวจยึดค่ายพักรวม 11 แห่ง พร้อมของกลางจำนวนมาก^[28]

ส่วนวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562 ได้เกิดเหตุยิงปะทะระหว่างทหารพรานกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งมีเด็กหญิงถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ พันเอก หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43 จึงเป็นคนอุ้มออกมา และรีบพาส่งโรงพยาบาล^[13]

วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2562 พันตำรวจตรี สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพันเอก หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืน ณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยสามารถยึดอาวุธอาก้า, เอ็ม 16 และเครื่องกระสุนเป็นจำนวนมาก^[29][30][31]

กิจกรรมเพื่อสังคม

เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ทหารพรานหญิง จากกรมทหารพรานที่ 43 ได้ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน โดยแต่งกายด้วยชุดกี่เพ้า พร้อมมอบการ์ดอวยพร และอั่งเปา ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงได้รับการต้อนรับจากประชาชนผู้สูงอายุเชื้อสายจีน^[32]

โครงสร้าง

• กองร้อยทหารพรานที่ 4301^[33]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4302^[34]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4303 – มีพลยิงเครื่องยิงจรวด^[24]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4304^[35][36]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4305^[37]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4306^[38]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4307^[34]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4308 – มีทหารพรานประจำศูนย์วิทยุสื่อสาร^[11]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4309 – จับกุมแนวร่วมอาร์เคเคเมื่อปี พ.ศ. 2558^[39]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4310^[40]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4311^[41]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4312^[42][43][44]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4313^[45][46]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4314^[47]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4315^[48][49]
• กองร้อยทหารพรานที่ 4316^[50]
• หมวดทหารพรานหญิง กรมทหารพรานที่ 43

สิ่งสืบทอด

พันเอก หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ได้จัดตั้งหน่วยจักรยานยนต์วิบากเคลื่อนที่เร็ว ภายใต้ชื่อ "อาร์มันโด" (Armando แปลว่า นักรบ) เพื่อสนับสนุนหน่วยการรบในการลาดตระเวน และยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อการร้าย^[9]

รางวัลที่ได้รับ

• พ.ศ. 2558 : อส.ทพ.หญิง ฟาเดีย ดอมะ ได้รับรางวัลสตรีดีเด่น ด้านการส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ ประเภทอาสาสมัคร เนื่องในวันวันสตรีสากล^[51]
• พ.ศ. 2561 : ชุดคุ้มครองตำบลบางโกระ ได้รับรางวัลจากพลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4^[52]

บุคคลที่มีชื่อเสียง

• พันเอก หาญพล เพชรม่วง – ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43^[13][53][54]

ยุทโธปกรณ์

ยานพาหนะภาคพื้นดิน

รุ่น	ภาพ	ประเภท	ที่มา	หมายเหตุ
เฟิร์สวิน		รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ	ไทย
รีวา เอพีซี		รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ	แอฟริกาใต้
ฮัมวี		รถเกราะขนาดเล็ก/รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก	สหรัฐ
นิสสัน นาวารา (หุ้มเกราะ)	–	รถเกราะ	ญี่ปุ่น	รถกระบะดัดแปลง
ฮอนด้า ซีอาร์เอฟ 250 แอล		จักรยานยนต์วิบาก	ญี่ปุ่น	สำหรับหน่วยอาร์มันโด[9]

อากาศยาน

รุ่น	ภาพ	ประเภท	ที่มา	หมายเหตุ
เบลล์ 212		เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์	สหรัฐ	อนุมัติการใช้โดยกองทัพบกไทย

อาวุธเล็ก

ชื่อ	ภาพ	ประเภท	ขนาดลำกล้อง	ที่มา	หมายเหตุ
ไทป์ 86		ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ	.45 เอซีพี	สหรัฐ  ไทย	ปืนพกเอ็ม 1911 เอ 1 ที่ผลิตภายใต้ใบอนุญาต
กล็อก 19 เจน 4[55][56]		ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ	9×19 มม. พาราเบลลัม	ออสเตรีย
เอ็ม 4 เอ 1 คาร์ไบน์		ปืนเล็กยาวจู่โจม	5.56×45 มม. นาโต	สหรัฐ	ใช้ในหน่วยรบพิเศษ บางกระบอกมีชุดอุปกรณ์โซปมอดติดตั้ง
เอชเค 33		ปืนเล็กยาวจู่โจม	5.56×45 มม. นาโต	เยอรมนี  ไทย
อาก้า[57]		ปืนเล็กยาวจู่โจม	7.62×39 มม. เอ็ม 43	สหภาพโซเวียต	ได้มาจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.)
ปืนเล็กยาวจู่โจมไทป์ 56	–	ปืนเล็กยาวจู่โจม	7.62×39 มม.	จีน	เป็นกรมที่มีปืนเล็กยาวจู่โจมไทป์ 56 มากที่สุดในกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่ทราบ	–	เครื่องยิงจรวด[24]