ภคัต สิงห์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ภคัต สิงห์ (อักษรโรมัน: Bhagat Singh, 27 กันยายน 1907[lower-alpha 1] – 23 มีนาคม 1931) เป็นนักปฏิวัติชาวอินเดีย[6] ผู้มีส่วนร่วมในการฆาตกรรมตำรวจชาวอังกฤษชั้นผู้น้อยซึ่งผิดจากเป้าหมายจริง[7] ซึ่งตั้งใจจะเป็นการแก้แค้นการเสียชีวิตของนักชาตินิยมอินเดียคนหนึ่ง[8] เขามีส่วนร่วมในการวางระเบิดสภานิติบัญญัติกลางในเดลีที่เป็นการทำไปในเชิงสัญลักษณ์ และทำการอดอาหารประท้วงในเรือนจำ เรื่องราวการอดอาหารประท้วงในเรือนจำของเขาแพร่หลายผ่านหนังสือพิมพ์ทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงโดยเฉพาะในภูมิภาคปัญจาบ เขาถูกประหารชีวิตเมื่อวัย 23 และนับจากนั้นกลายมาเป็นผู้พลีชีพเพื่อชาติและวีรบุรุษท้องถิ่นของอินเดียเหนือ[9] เขาได้รับอิทธิพลทางการเมืองหลัก ๆ จากลัทธิบอลเชวิก และ ลัทธิอนาธิปไตย[10][11][12][13][14] เขามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกองทัพในอินเดียในทศวรรษ 1930 และกระตุ้นให้ทั้งภายในพรรคคองเกรสแห่งชาติและกลุ่มเคลื่ออนไหวเรียกร้องเอกราชอินเดียได้ใคร่ครวญตัวเองใหม่ในแนวทางอหิงสาของตน[15]
ภคัต สิงห์ | |
---|---|
สิงห์เมื่อปี 1929 | |
เกิด | 27 กันยายน ค.ศ. 1907(1907-09-27)[lower-alpha 1] บังกา บริติชอินเดีย (ปัจจุบันอยู่ในประเทศปากีสถาน) |
เสียชีวิต | 23 มีนาคม ค.ศ. 1931(1931-03-23) (23 ปี) เรือนจำกลางลาฮอร์ ลาฮอร์ บริติชอินเดีย (ปัจจุบันอยู่ในประเทศปากีสถาน) |
สาเหตุเสียชีวิต | ประการชีวิตด้วยการแขวนคอ |
อนุสรณ์สถาน | อนุสรณ์ผู้พลีตนเพื่อชาติฮุสเซนีวาลา |
ชื่ออื่น | ชาฮีเดอาซาม (Shaheed-e-Azam) |
องค์การ | เนาชวันภารตสภา สมาคมสาธารณรัฐสังคมนิยมฮินดูสถาน |
ผลงานเด่น | Why I Am an Atheist |
ขบวนการ | เอกราชอินเดีย |
ถูกกล่าวหา | ฆาตกรรมจอห์น พี. ซอนเดอส์ (John P. Saunders) และจันนัน สิงห์ (Channan Singh)[5] |
รับโทษ | ประหารชีวิต |
สถานะทางคดี | ประหารชีวิต |
ในเดือนธันวาคม 1928 ภคัต สิงห์ และมิตรสหาย ศิวราม ราชคุรุ ซึ่งล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมสาธารณรัฐสังคมนิยมฮินดูสถาน (หรือ HSRA) ก่อการฆาตกรรมจอห์น ซอนเดอส์ (John Saunders) เจ้าหน้าที่ตำรวจชาวอังกฤษวัย 21 ปีในลาฮอร์ จังหวัดปัญจาบ ทั้งคู่ฆาตกรรมผิดคน เป้าหมายจริงของทั้งคู่คือผู้บัญชาการตำรวจอาวุโส เจมส์ สก็อต (James Scott)[16] ซึ่งทั้งคู่เชื่อว่าเป็นผู้รับผิดชอบการเสียชีวิตของลาลา ลาชปาต ราย ผู้นำชาตินิยมอินเดียที่เป็นที่ได้รับความนิยม หลังสก็อตสั่งให้รายถูกทุบตีด้วยตะบองลาตี รายเสียชีวิตในสองสัปดาห์ต่อมาด้วยหัวใจวาย ซอนเดอส์ถูกยิงขณะขี่จักรยานยนต์ออกจากสถานีตำรวจ เขาถูกยิงล้มลงด้วยกระสุนนัดเดียวจากราชคุรุซึ่งเป็นนักแม่นปืน ยิงจากฝั่งตรงข้ามถนน[17][18] ขณะที่ล้มลงบาดเจ็บนั้น สิงห์ยิงเข้าที่ซอนเดอส์ในระยะใกล้หลายครั้งจนเสียชีวิต รายงานนิติเวชระบุว่าซอนเดอส์ถูกกระสุนรวมแปดนัด[19] มิตรสหายอีกคนของสิงห์ จันทระ ศิขร อาฌาด ใช้ปืนยิงสังหารหัวหน้าตำรวจชาวอินเดีย จันนัน สิงห์ (Channan Singh) ซึ่งพยายามไล่จับสิงห์และราชคุรุขณะหลบหนี[17][18]
หลังหลบหนีสำเร็จ ภคัต สิงห์ และมิตรสหายใช้ชื่อปลอมเพื่อประกาศตัวล้างแค้นการเสียชีวิตของลาชปาต ราย ติดป้ายประกาศที่แก้ไขให้ระบุว่าจอห์น ซอนเดอส์ เป็นเป้าหมายการสังหารแทนที่เจมส์ สก็อต[17] สิงห์หลบหนีเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในเดือนเมษายน 1929 เขาและมิตรสหาย บาตูเกศวร ทัตต์ วางระเบิดทำมือความรุนแรงต่ำสองชิ้นบนม้านั่งว่างในสภานิติบัญญัติกลางในย่านเมืองเก่าเดลี ทั้งคู่โปรยใบปลิวลงจากแกลเลอรีลงบนสมาชิกสภานิติบัญญัติซึ่งนั่งอยู่ด้านล่าง ตะโกนคำขวัญ และยินยอมให้ถูกเข้าหน้าที่จับกุม[20] หลังถูกจับกุมและด้วยผลจากเหตุการณ์ในสภานิติบัญญัตินี้ทำให้ทราบว่าสิงห์เป็นผู้ก่อเหตุสังหารซอนเดอส์ ขณะรอศาลตัดสิน สิงห์ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากสาธารณะหลังเขากระทำการอดอาหารประท้วงตามชติน ทาสในเรือนจำเพื่อเรียกร้ งสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับนักโทษชาวอินเดีย ทาสเสียชีวิตจากการขาดอาหารในเดือนกันยายน 1929
ภคัต สิงห์ ถูกตัดสินมีความผิดฐานฆาตกรรมจอห์น ซอนเดอส์ และจันนัน สิงห๋ เขาถูกประหารชีวิตในเดือนมีนาคม 1931 อายุได้ 23 ปี เขากลายมาเป็นวีรบุรุษท้องถิ่นหลังเสียชีวิต ชวาหรลาล เนหรู เคยเขียนเกี่ยวกับเขาว่า: "ภคัต สิงห์ ไม่ได้กบายมาเป็นที่นิยมเพราะการก่อการร้ายของเขา แต่เป็นเพราะเขาดูเหมือนจะได้แก้แค้นให้กับเกียรติยศของลาลา ลาชปาต ราย ในขั่วขณะ และเป็นการแก้แค้นให้กับชาติ ผ่านทางเขา [ราย] สิงห์กลายมาเป็นสัญลักษณ์; การลงมือของเขาถูกลืม [แต่]ลักษลักษณ์นี้จะดำรงอยู่ และภายในไม่กี่เดือน เมืองแต่ละเมือง หมู่บ้านแต่บะแห่งในปัญจาบ และในอินเดียเหนือส่วนอื่น ๆ จะก้องกังวาลไปด้วยชื่อของเขา"[21] สิงห์ในฐานะเอธิสต์และนักสังคมนิยม ได้รับการเชิดชูในอินเดียจากกลุ่มต่าง ๆ ทางการเมือง ตั้งแต่คอมมิวนิสต์ซ้ายจัด ไปจนถึงชาตินิยมฮินดูขวาจัด บางครั้งสิงห์ได้รับการเรียกขานเป็น ชาฮีเด-อาฌาม (Shaheed-e-Azam; "ผู้พลีชีพผู้ยิ่งใหญ่") ในภาษาอูรดูและภาษาปัญจาบ[22]