แบล็กพิงก์ (เกาหลี: 블랙핑크; อาร์อาร์: Beullaekpingkeu; อังกฤษ: Blackpink, มักเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดหรือ BLɅϽKPIИK) เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีใต้ ก่อตั้งโดยวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนสี่คนคือ จีซู, เจนนี, โรเซ และลิซ่า พวกเธอมีรูปแบบเกี่ยวกับแนวคิด "เกิร์ลครัช" ในเคป็อป ซึ่งพาสำรวจธีมความมั่นใจในตนเองและพลังของผู้หญิง อีกทั้งยังเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลต่อกระแสเกาหลีและสามารถดึงดูดฐานแฟนคลับทั่วโลกได้อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ยกให้พวกเธอเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก"
แบล็กพิงก์เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2016 พร้อมกับซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์วัน นำเสนอเพลงอย่าง "วิสเซิล" และ "บูมบายาห์" ที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้ และบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองส์ ตามลำดับ ต่อมาออกซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์ทู ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ติดชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100 วงเริ่มมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ หลังจากออกซิงเกิล "ตู-ดู ตู-ดู" (2018) ซึ่งเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลีที่ติดชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรและได้รับการรับรองในสหรัฐ มิวสิกวิดีโอนี้กลายเป็นวิดีโอแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่มียอดผู้ชมถึงหนึ่งและสองพันล้านครั้งบนยูทูบและยังคงเป็นวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดของศิลปินกลุ่มเกาหลีจนถึงปัจจุบัน มิวสิกวิดีโอเพลง "คิลดิสเลิฟ" (2019) และ "ฮาวยูไลก์แดต" (2020) เคยถูกบันทึกให้เป็นมิวสิกวิดีโอที่มียอดผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกและเพลงหลังถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ถึงห้ารายการ
แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ทำอันดับสูงสุดบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 โดยขึ้นสูงสุดอันดับที่ 13 ด้วยซิงเกิล "ไอศกรีม" (2020) และบนบิลบอร์ด 200 โดยขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งด้วยอัลบั้ม บอร์นพิงก์ (2022) โดยทั้ง ดิอัลบั้ม (2020) และ บอร์นพิงก์ ต่างก็ทำลายสถิติเป็นอัลบั้มของศิลปินหญิงที่ขายดีที่สุดตลอดกาลในเกาหลีใต้ โดยกลายเป็นอัลบั้มแรกที่ขายได้มากกว่าหนึ่งล้านและสองล้านชุด ตามลำดับ บอร์นพิงก์ เป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปที่สามารถขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 ได้นับตั้งแต่แดนิตีเคน ในปี 2008 และถูกบันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์สองรายการในฐานะอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนบิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร ซิงเกิลนำของอัลบั้ม "พิงก์เวนอม" (2022) เป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเกาหลีที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนเออาร์ไอเอซิงเกิลส์ชาร์ตของออสเตรเลีย และเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดโกลบอล 200
แบล็กพิงก์ทำลายสถิติมากมายตลอดอาชีพการงานของพวกเธอ บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ (2022–23) กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดของศิลปินกลุ่มหญิงและศิลปินเอเชีย และเป็นศิลปินเอเชียรายแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา พวกเธอยังเป็นศิลปินที่มียอดผู้ติดตามและยอดผู้ชมสูงสุดบนยูทูบ เช่นเดียวกับเกิร์ลกรุปที่มียอดผู้ติดตามและยอดสตรีมสูงสุดบนสปอติฟาย รางวัลที่แบล็กพิงก์ได้รับมีหลายรางวัล ซึ่งรวมถึงโกลเดนดิสก์อะวอดส์, มามาอะวอดส์, พีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ และเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ รางวัลหลังทำให้พวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกในศตวรรษที่ 21 ที่ชนะรางวัลศิลปินกลุ่มแห่งปี นอกเหนือจากงานเพลง พวกเธอยังได้ลงนามเพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอย่างหลากหลายและนำแฟชั่นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาพลักษณ์สาธารณะของวง สำหรับงานในฐานะผู้สนับสนุนการตระหนักรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้วงได้รับพระราชทานเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช (MBE) ในปี 2023 แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดอันดับผู้ทรงอิทธิพลเอเชียที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี ของฟอบส์ และได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์ รวมถึงถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลีของฟอร์บ และได้รับการยอมรับจากอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มุน แจ-อิน สำหรับการเผยแพร่วัฒนธรรมเคป็อปและเกาหลีไปทั่วโลก
ประวัติ
2010–2016: การรวมวงและกิจกรรมก่อนเปิดตัว
แบล็กพิงก์เริ่มก่อตัวในปี 2010 เมื่อวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์จัดให้มีการทดสอบความสามารถทั่วโลกสำหรับผู้สมัครที่ยังอยู่ในช่วงวัยก่อนวัยรุ่นหรือวัยรุ่นเพื่อที่จะสร้างเกิร์ลกรุปวงใหม่ หลังจากมีการเปิดตัวทูเอนีวัน ซึ่งเป็นวงหลักเพียงวงเดียวเมื่อปีที่แล้ว ตามที่สมาชิกวงระบุ การเข้าร่วมสังกัดในฐานะศิลปินฝึกหัดคล้ายกับการลงทะเบียนเรียนในสถาบันป็อปสตาร์แบบเต็มเวลา ซึ่งเจนนีได้อธิบายถึงประสบการณ์นี้ว่า "เข้มงวดยิ่งกว่าโรงเรียน" ส่วนโรเซก็เปรียบเทียบว่าเป็น ดิเอกซ์แฟกเตอร์ แบบมีหอพัก ในขณะเดียวกัน สมาชิกวงที่ละทิ้งชีวิตออกไปจากประเทศเกาหลีใต้ การฝึกฝนที่กวดขันควบคู่ไปกับความตื่นตระหนกทางวัฒนธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ยากเป็นพิเศษ[2] การเตรียมการสำหรับการเปิดตัวของแบล็กพิงก์เริ่มตั้งแต่ต้นปี 2011 เมื่อวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เปิดเผยในวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่าเกิร์ลกรุปวงใหม่ของพวกเขาจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2012 และมีสมาชิกอย่างน้อยเจ็ดคน[3] ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดข่าวคราวและข่าวลือมากมายที่แพร่สะพัดว่าการเปิดตัวของเกิร์ลกรุปวงใหม่นั้นถูกเลื่อนออกไป ถึงแม้จะไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการก็ตาม[4] จนในวันที่ 18 พฤษภาคม 2016 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ยืนยันว่าเกิร์ลกรุปจะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม โดยระบุว่าสมาชิกได้รับการคัดเลือกผ่านการแข่งขันอันดุเดือดมานานหลายปี[5] ทั้งนี้ ต้นสังกัดยังระบุในภายหลังว่าจัง ฮันนา และมุน ซูอา ผู้ซึ่งได้รับการแนะนำสู่สาธารณชนในฐานะสมาชิกที่อาจได้เปิดตัวเป็นเกิร์ลกรุปวงใหม่นั้น จะไม่ถูกรวมอยู่ในรายชื่อนี้[6][7]
เจนนี แร็ปเปอร์หลักและนักร้องนำของวง เป็นสมาชิกคนแรกที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2016[8][9] เธอเข้าร่วมวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในฐานะศิลปินฝึกหัดเมื่อปี 2010 โดยย้ายจากนิวซีแลนด์กลับมาอยู่เกาหลีใต้[10] เธอได้รับการแนะนำต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในภาพถ่ายชื่อ "Who's that girl?" บนเว็บไซต์ของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในวันที่ 10 เมษายน[11] เจนนีได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องในฐานะสมาชิกของเกิร์ลกรุปวงใหม่ผ่านการทำงานร่วมหลายครั้ง เธอได้แสดงมิวสิกวิดีโอเพลง "แดตเอกซ์เอกซ์" ของจี-ดรากอน จากอีพีของเขา วันออฟอะไคนด์ และเป็นนักร้องรับเชิญในเพลง "แบล็ก" (2013) จากอัลบั้มของเขา กูป์ เด'ทา และเพลง "สเปเชียล" (2013) จากอัลบั้ม เฟิสต์เลิฟ ของอีไฮ[12][13][14] ลิซ่า เป็นแร็ปเปอร์หลักและนักเต้นหลักของวง ได้รับการเปิดเผยเป็นสมาชิกคนที่สองเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2016[15][9] เธอเป็นคนเดียวในบรรดาผู้สมัคร 4,000 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เมื่อปี 2010 ในประเทศไทย อันเป็นประเทศบ้านเกิดของเธอ และกลายเป็นศิลปินฝึกหัดต่างชาติคนแรกของสังกัดในปี 2011[10][16] เธอได้รับการแนะนำเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2012 ในวิดีโอที่ชื่อ "Who's that girl???" ซึ่งโพสต์บนช่องยูทูบของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์[15][17] ทั้งนี้ ลิซ่ายังปรากฏอยู่ในมิวสิกวิดีโอเพลง "รินการีนกา" ของแทยังในปี 2013[18] รวมถึงเป็นโฆษกให้แบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีต โนนากอน ในปี 2015 และแบรนด์เครื่องสำอาง มูนช็อต ในปี 2016[19]
จีซู นักร้องนำของวง ได้รับการเปิดเผยเป็นสมาชิกคนที่สามเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2016[9] เธอเข้าร่วมวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ในฐานะศิลปินฝึกหัดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2011 และปรากฏอยู่ในโฆษณาและมิวสิกวิดีโอหลายครั้งในช่วงก่อนเปิดตัว ซึ่งรวมถึงมิวสิกวิดีโอเพลง "สปอยเลอร์ + แฮปเพนเอนดิง" (2014) ของอีพิกไฮ จากอัลบั้ม ชูบ็อกซ์ และ "แอมดิฟเฟอเรนต์" ของไฮซูฮย็อน ทั้งนี้ เธอยังปรากฏเป็นแขกรับเชิญในละครปี 2015 เรื่อง โปรดิวเซอร์หน้าใส หัวใจกุ๊กกิ๊ก ด้วย[20][21][16] โรเซ นักร้องนำและนักเต้นหลักของวง เป็นสมาชิกคนสุดท้ายที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2016[9] เธออยู่อันดับที่หนึ่งในบรรดาผู้สมัคร 700 คนจากการคัดเลือกของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เมื่อปี 2012 ในออสเตรเลีย หลังจากนั้นเธอก็เซ็นสัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดกับต้นสังกัดและย้ายไปอยู่โซลเพื่อเริ่มการฝึก[10] เธอเป็นนักร้องรับเชิญในแทร็ก "วิตเอาต์ยู" (2012) ของจี-ดรากอน จากอีพี วันออฟอะไคนด์ โดยได้รับเครดิตเป็น "เกิร์ลกรุปวงใหม่จากวายจี ?" จนกระทั่งเธอได้รับการแนะนำต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ[22]
ในวันที่ 29 มิถุนายน วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ยืนยันว่าเกิร์ลกรุปวงใหม่จะมีสมาชิกสี่คนแทนแผนเดิมที่กำหนดไว้เก้าคนและได้เปิดเผยชื่อวงอย่างเป็นทางการว่า แบล็กพิงก์[23] ตามที่ตัวแทนต้นสังกัดระบุ ชื่อของวงมีความหมายว่า "ความสวยไม่ใช่ทุกสิ่ง" และเป็นเครื่องหมายว่า "พวกเธอเป็นทีมที่ไม่ได้ห้อมล้อมแค่ความสวยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม"[24] ภายหลังจีซูยังเปิดเผยในงานแถลงข่าวว่าชื่ออื่น ๆ ของวงที่อยู่ระหว่างการพิจารณานั้น มีคำว่า พิงก์พังก์, เบบีมอนสเตอร์ และแมกนัม ด้วย[25] แบล็กพิงก์เผยแพร่วิดีโอซ้อมเต้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก[26] จนในวันที่ 29 กรกฎาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ยืนยันว่าแบล็กพิงก์จะเปิดตัวในวันที่ 8 สิงหาคม 2016[27]
2016–2017: การเปิดตัว ความนิยมที่เพิ่มขึ้น และความสำเร็จเชิงพาณิชย์
การประชาสัมพันธ์สำหรับการเปิดตัวของวงเริ่มขึ้นในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม 2016 ด้วยการเผยแพร่ภาพทีเซอร์ วิดีโอ และโฆษณา[28][29] นับเป็นเกิร์ลกรุปวงใหม่ในรอบเจ็ดปีภายใต้สังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์[30] แบล็กพิงก์ออกซิงเกิลอัลบั้มเปิดตัว สแควร์วัน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2016 ประกอบด้วยแทร็กชื่อ "บูมบายาห์" และ "วิสเซิล"[30] ทั้งสองเพลงติดอันดับที่หนึ่งและสองบนชาร์ตบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินที่บรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้เร็วที่สุดและเป็นศิลปินลำดับที่สามของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ที่สามารถครองสองอันดับแรกได้พร้อมกัน ถัดจากไซและบิกแบง[31] เมื่อ "วิสเซิล" ได้รับการเปิดตัวก็สามารถกวาดชาร์ตเพลงเกาหลีทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ต[32][33] การแสดงรายการเพลงครั้งแรกของแบล็กพิงก์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2016 ในรายการ อินกีกาโย ทางช่องเอสบีเอส[34] โดยวงชนะอันดับหนึ่งในรายการ อินกีกาโย หลังจากเปิดตัวได้ 14 วัน[35] พวกเธอสิ้นสุดการประชาสัมพันธ์ สแควร์วัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2016 ด้วยการชนะ อินกีกาโย อีกหนึ่งครั้ง[36]
แบล็กพิงออกซิงเกิลอัลบั้มที่สอง สแควร์ทู ประกอบด้วยแทร็กชื่อ "เพลย์อิงวิทไฟร์" และ "สเตย์" เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2016[37] วงเริ่มประชาสัมพันธ์ในรายการ อินกีกาโย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน และ เอ็ม เคาต์ดาวน์ ทางช่องเอ็มเน็ตเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน[38] "เพลย์อิงวิทไฟร์" กลายเป็นซิงเกิลที่สองของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ด เวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ และเป็นเพลงแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ติดชาร์ตบิลบอร์ด แคนาเดียนฮอต 100[39][40] ในเกาหลีใต้ "เพลย์อิงวิทไฟร์" ขึ้นสูงสุดที่อันดับสาม ขณะที่ "สเตย์" อยู่ในสิบอันดับแรก[41] ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของแบล็กพิงก์ในช่วงห้าเดือนแรก ทำให้พวกเธอได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่หลายรายการในงานประกาศผลรางวัลดนตรีเกาหลีที่สำคัญช่วงสิ้นปี ซึ่งรวมถึงเอเชียอาร์ติสต์อะวอดส์,[42] เมลอนมิวสิกอะวอดส์,[43] โกลเดนดิสก์อะวอดส์,[44] โซลมิวสิกอะวอดส์[45] และแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์[46] ทั้งนี้ บิลบอร์ด ยังตั้งชื่อให้พวกเธอเป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่มเคป็อปหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของปี 2016 ด้วย[47]
ในวันที่ 17 มกราคม 2017 แบล็กพิงก์เปิดเผยชื่อแฟนดอมว่า "บลิงก์" ซึ่งเป็นการรวมคำระหว่าง "แบล็ก" และ "พิงก์"[48] เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน วงออกซิงเกิลเดี่ยวแบบดิจิทัลครั้งแรกชื่อ "แอสอิฟอิตส์ยัวร์ลาสต์" ตามที่จีซูระบุ เพลงมีการเปลี่ยนแปลงทางเสียงเมื่อเทียบกับผลงานก่อนหน้า ซึ่งนำเสนอคอนเซปต์ "แบล็ก" และนับเป็นซิงเกิลแรกของพวกเธอกับคอนเซปต์ "พิงก์" ที่มีความสดใสขึ้น[49] เพลงขึ้นสูงสุดที่อันดับสามบนแกออนดิจิทัลชาร์ต และอันดับที่ 13 บนชาร์ตบับบลิงอันเดอร์ฮอต 100 ของ บิลบอร์ด กลายเป็นเพลงแรกของพวกเธอที่เข้าสู่ชาร์ตหลังได้[50][51] เพลงยังเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนชาร์ตเวิลด์ดิจิทัลซองเซลส์ของ บิลบอร์ด หลังจากออกจำหน่ายได้หนึ่งวัน ทำให้เป็นซิงเกิลอันดับหนึ่งเพลงที่สามของพวกเธอบนชาร์ตนี้[52] มิวสิกวิดีโอเพลง ภายหลังยังทำลายสถิติมิวสิกวิดีโอที่มียอดกดไลก์สูงสุดโดยเกิร์ลกรุปเกาหลีบนยูทูบ เช่นเดียวกับมิวสิกวิดีโอของศิลปินกลุ่มเคป็อปที่มียอดผู้ชมสูงสุดใน 24 ชั่วโมงแรกของการเปิดตัว[53][54]
ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2017 แบล็กพิงก์จัดการแสดงที่นิปปงบูโดกังในโตเกียว ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 14,000 คน และพยายามซื้อตั๋วเข้าชมมากถึง 200,000 คน[55][56] วงเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 ด้วยการออกเอกซ์เทนเดดเพลย์ภาษาญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียวกับตนเอง (EP) โดยเป็นการรวมซิงเกิลก่อนหน้าของวงในเวอร์ชันภาษาญีปุ่น อีพีดังกล่าวเปิดตัวและขึ้นอันดับสูงสุดบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินต่างชาติลำดับที่สามที่ติดอันดับสูงสุดบนชาร์ตด้วยการเปิดตัวครั้งแรก[57] ทั้งนี้ "แอสอิฟอิตส์ยัวร์ลาสต์" ยังถูกจัดให้อยู่ 25 อันดับเพลงประจำฤดูร้อนทั่วโลกปี 2017 ของยูทูบอีกด้วย[58]
2018–2019: ความก้าวหน้าระดับนานาชาติและทัวร์รอบโลกครั้งแรก
ในวันที่ 6 มกราคม 2018 แบล็กพิงก์เผยแพร่ตอนแรกในรายการเรียลลิตีโชว์ครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์เฮาส์ มีทั้งหมด 12 ตอน โดยออกอากาศตลอดปี 2018 รายการพาติดตามสมาชิกทั้งสี่คนที่ใช้เวลาพักร้อน 100 วัน ในขณะที่พวกเธอย้ายเข้าไปอยู่หอพักใหม่ ออกอากาศผ่านทางวีไลฟ์และช่องยูทูบอย่างเป็นทางการของวง[59] ต่อมาในวันที่ 28 มีนาคม แบล็กพิงก์ออกอีพีภาษาญี่ปุ่นเปิดตัวซ้ำภายใต้ชื่อ รี:แบล็กพิงก์ โดยเวอร์ชันดิจิทัลมีเพลงเดียวกับต้นฉบับก่อนหน้า ขณะที่เวอร์ชันกายภาพบรรจุเป็นดีวีดี ซึ่งประกอบด้วยมิวสิกวิดีโอทั้งหมดและเพลงภาษาเกาหลีอีกหกเพลง[60]
ในวันที่ 15 มิถุนายน 2018 วงออกอีพีภาษาเกาหลีชุดแรก สแควร์อัป[61] ในเกาหลีใต้ อีพีเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนแกออนอัลบั้มชาร์ตและได้รับการรับรองระดับทองคำขาวโดยสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี (KMCA) สำหรับยอดขาย 250,000 หน่วย[62] สแควร์อัป นำวงเข้าสู่ชาร์ต บิลบอร์ด 200 ครั้งแรก และเป็นอัลบั้มที่ติดอันดับสูงสุดบนชาร์ตโดยศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลี ซึ่งในขณะนั้นอัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 40[40] นอกจากนี้ อีพียังเปิดตัวที่อันดับสูงสุดบนชาร์ต บิลบอร์ด เวิลด์อัลบั้ม[63] และทำให้แบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินกลุ่มหญิงเกาหลีวงแรกที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ต บิลบอร์ด อีเมอร์จิงอาร์ติสต์ ด้วย[64][65] ซิงเกิลนำของอีพี "ตู-ดู ตู-ดู" ขึ้นสูงสุดที่อันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ต ขณะที่ "ฟอร์เอเวอร์ยัง" ขึ้นสูงสุดที่อันดับสอง[66] ทั้งสองเพลงต่างได้รับการรับรองระดับทองคำขาวโดย KMCA สำหรับเพลงที่มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2,500,000 ครั้ง และยอดสตรีม 100,000,000 สตรีมภายในประเทศ[67][68] ในสหรัฐ "ตู-ดู ตู-ดู" เปิดตัวที่อันดับ 55 บนบิลบอร์ดฮอต 100 กลายเป็นเพลงที่ติดชาร์ตสูงสุดโดยเกิร์ลกรุปเกาหลีในขณะนั้น แซงสถิติเพลง "โนบอดี" ของวันเดอร์เกิลส์ในปี 2009 และนับเป็นครั้งแรกที่เกิร์ลกรุปเกาหลีเข้าสู่ชาร์ตสตรีมมิงซองส์ของสหรัฐ โดยติดที่อันดับ 39[63] ทั้งนี้ เพลงยังได้รับการรับรองระดับทองคำโดยสมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (RIAA) ในเดือนสิงหาคม 2019 ทำให้แบล็กพิงก์กลายเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีวงแรกที่ได้รับการรับรองนี้ภายในประเทศ[69] ในสหราชอาณาจักร "ตู-ดู ตู-ดู" เปิดตัวที่อันดับ 78 บนชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร ทำให้แบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินกลุ่มหญิงวงแรกที่เข้าสู่ชาร์ตนี้[70] ส่วนยอดผู้ชมอย่างเป็นทางการบนยูทูบนั้น มิวสิกวิดีโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" มียอดรวม 36.2 ล้านครั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเผยแพร่ กลายเป็นวิดีโอออนไลน์ที่มีผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกโดยศิลปินเกาหลี และเป็นมิวสิกวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดตลอดกาลใน 24 ชั่วโมงแรกที่อันดับสองในขณะนั้น[71] รวมถึงกลายเป็นมิวสิกวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดโดยศิลปินเกาหลีใต้ในเดือนมกราคม 2019 และกลายเป็นมิวสิกวิดีโอแรกของศิลปินกลุ่มเคป็อปที่มีผู้ชมมากกว่าหนึ่งพันล้านครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2019 และสองพันล้านครั้งในเดือนมกราคม 2023[72] "ตู-ดู ตู-ดู" ได้ชื่อว่าเป็นเพลงแห่งปี โดยบริษัทวิจัยเกาหลีใต้ แกลอัปเกาหลี ซึ่งเป็นการสำรวจผ่านสาธารณชนประจำปี 2018[73]
แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ในญี่ปุ่นครั้งแรกที่สามารถขายบัตรหมดอย่าง แบล็กพิงก์อะรีนาทัวร์ 2018 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 25 กรกฎาคม ในโอซากะ เพื่อส่งเสริมอีพีภาษาญี่ปุ่นของพวกเธอ แรกเริ่มทัวร์ถูกกำหนดการแสดงไว้หกรอบทั่วโอซากะ ฟูกูโอกะ และชิบะ แต่ภายหลังได้เพิ่มรอบการแสดงในชิบะ เนื่องจากความต้องการที่ท่วมท้น[74] ต่อมามีการเพิ่มจุดเยือนสุดท้ายในวันที่ 24 ธันวาคม ที่เคียวเซระโดมโอซากะเพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับแฟนเพลงในการแสดงที่ขายบัตรหมดต่อหน้าฝูงชนนับห้าหมื่นคน[75] เมื่อวันที่ 12 กันยายน มีการประกาศว่าวงจะจัดคอนเสิร์ตในกรุงโซลเป็นครั้งแรกชื่อ แบล็กพิงก์ 2018 ทัวร์ [อินยัวร์แอเรีย] โซลเอ็กซ์บีซีการ์ด ที่สนามกีฬายิมนาสติกโอลิมปิก[76] คอนเสิร์ตดังกล่าวถือเป็นการแสดงแรกในอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ซึ่งเดินสายตลอดปี 2019 และต้นปี 2020 ในอเมริกาเหนือ ยุโรป โอเชียเนีย และเอเชีย เมื่อสิ้นสุดลง ทัวร์ดังกล่าวกลายเป็นทัวร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดโดยเกิร์ลกรุปเกาหลี[77]
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นักร้องชาวบริติช ดัว ลีปา ออกเพลง "คิสแอนด์เมกอัป" กับแบล็กพิงก์ เป็นแทร็กใหม่ฉบับจำหน่ายซ้ำจากอัลบั้มแรกของเธอในชื่อเดียวกับตนเอง[78] เพลงเปิดตัวที่อันดับ 93 บนบิลบอร์ดฮอต 100 ถือเป็นซิงเกิลที่สองของแบล็กพิงก์บนชาร์ตและทำให้พวกเธอเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีเพียงกลุ่มเดียวที่มีเพลงติดชาร์ตนี้มากกว่าหนึ่งเพลง[79] "คิสแอนด์เมกอัพ" ยังเป็นซิงเกิลแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรกบนชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร รวมถึงเป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีกลุ่มแรกและศิลปินเกาหลีลำดับที่สามจากทั้งหมดที่สามารถติดท็อป 40 ได้สำเร็จ[80] ในเดือนเดียวกันนั้น วงได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์สโคปเรเคิดส์ ซึ่งเป็นสังกัดในเครือยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป[81] ในเดือนพฤศจิกายน 2018 แบล็กพิงก์ประกาศวันเดินทางเพิ่มเติมในอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ ที่ครอบคลุมพื้นที่ในเอเชีย ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2019[82] เจนนีเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในเพลง "โซโล" ที่คอนเสิร์ตของแบล็กพิงก์ในกรุงโซลเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ก่อนปล่อยเพลงและมิวสิกวิดีโออย่างเป็นทางการในวันรุ่งขึ้น[83] สตูดิโออัลบั้มภาษาญี่ปุ่นชุดแรกของวงชื่อ แบล็กพิงก์อินยัวร์แอเรีย วางจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัลในวันที่ 23 พฤศจิกายน และแบบกายภาพในวันที่ 5 ธันวาคม[84] โดยเป็นการรวมเพลงฉบับภาษาญี่ปุ่นก่อนหน้าทั้งหมดของพวกเธอ อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับเก้าบนออริคอนอัลบัมชาร์ตและขายได้ประมาณ 13,000 ชุดในสัปดาห์แรก[85]
แบล็กพิงก์เปิดตัวในสหรัฐที่แกรมมีอาร์ติสต์โชว์เคสของยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุป ซึ่งเป็นงานเฉพาะผู้ได้รับบัตรเชิญเท่านั้นที่ ROW ในดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2019[86] ต่อมาวงได้ปรากฏอยู่ในรายการโทรทัศน์อเมริกันอีกหลายรายการ ซึ่งรวมถึง เดอะเลตโชว์วิธสตีเฟนกอลแบร์, กูดมอนิงอเมริกา และ สตราฮานแอนด์ซารา[87][88][89] ในเดือนมีนาคมนั้น พวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร บิลบอร์ด[90]
อีพีชุดที่สองของแบล็กพิงก์ชื่อ คิลดิสเลิฟ วางจำหน่ายวันที่ 5 เมษายน 2019 พร้อมกับซิงเกิลในชื่อเดียวกัน[91] อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับ 24 บน บิลบอร์ด 200 ขณะที่ซิงเกิลนำขึ้นอันดับที่ 41 บนชาร์ตฮอต100 กลายเป็นอันดับสูงสุดโดยศิลปินหญิงเกาหลีบนสองชาร์ตหลักของ บิลบอร์ด[92] "คิลดิสเลิฟ" ติดอันดับที่ 66 จาก 100 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 2019 ของนิตยสาร บิลบอร์ด[93] เพลง "ฟอร์เอเวอร์ยัง" เป็นบีไซต์จากอีพี สแควร์อัป (2018) มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 2.5 ล้านครั้งในเดือนธันวาคม 2019 กลายเป็นเพลงที่ห้าของวงและครั้งที่สองของพวกเธอที่ได้รับการรับรองระดับทองคำขาวจากสมาคมลิขสิทธิ์เพลงเกาหลี (KMCA) ถัดจากเพลง "ตู-ดู ตู-ดู"[94] แบล็กพิงก์ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา ในวันที่ 12 และ 19 เมษายน 2019[95] การแสดงของวงได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และแฟนเพลง แกบ กินสเบิร์ก จาก บิลบอร์ด เรียกการแสดงนี้ว่า "น่าตื่นเต้น" และ "ไม่มีทางลืม"[96][97]
ในวันที่ 16 ตุลาคม 2019 คิลดิสเลิฟ ฉบับภาษาญี่ปุ่นเผยแพร่สู่ตลาดญี่ปุ่น ขึ้นสูงสุดที่อันดับ 17 บนออริคอนอัลบัมชาร์ต[98] วงไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ รวมถึงปรากฏตัวในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง มิวสิกสเตชัน ทางช่องทีวีอาซาฮิ และ เลิฟมิวสิก ทางช่องฟูจิทีวี[99] นักอ่านนิตยสาร เปเปอร์ โหวตให้พวกเธอเป็น "เคป็อปที่ประทับใจแห่งปี 2019" ในรายชื่อประจำปีของเบรกเดอะอินเทอร์เน็ตอะวอดส์[100]
2020–2021: ดิอัลบั้ม และเดอะโชว์
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2020 มีการยืนยันว่าวงจะร่วมงานกับเลดีกากา จากสตูดิโออัลบั้มที่หกของเธอ โครมาติกา[101] เพลง "ซาวเออร์แคนดี" ออกมาเป็นซิงเกิลประชาสัมพันธ์ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2020[102] เปิดตัวที่อันดับ 33 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 กลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่อยู่ใน 40 อันดับแรก ยังเป็นอันดับสูงที่สุดของวงในขณะนั้น และเป็นอันดับสูงที่สุดของเกิร์ลกรุปเคป็อปด้วย[103] ในประเทศออสเตรเลีย เพลงเปิดตัวที่อันดับแปดกลายเป็นเพลงแรกของแบล็กพิงก์ที่ขึ้นสิบอันดับแรกได้ในประเทศ[104] และเป็นซิงเกิลแรกที่ติดท็อป 20 ในสหราชอาณาจักร โดยเปิดตัวที่อันดับที่ 17[105] ในวันที่ 18 พฤษภาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าวงจะปล่อยซิงเกิลก่อนวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ตามด้วยซิงเกิลเพิ่มเติมในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เพื่อประชาสัมพันธ์สตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรก[106][107] ต่อมาในวันที่ 2 มิถุนายน วายจียืนยันอย่างเป็นทางการว่าหลังออกสตูดิโออัลบั้ม โรเซ ลิซ่า และจีซู สมาชิกวงจะออกผลงานเดี่ยวตามมา โดยที่โรเซจะเป็นคนแรก[108] ขณะกำลังทำอัลบั้มชุดใหม่ วายจีได้เปิดตัวรายการเรียลลิตีโชว์ของแบล็กพิงก์ชื่อ 24/365 วิธแบล็กพิงก์ ในวันที่ 13 มิถุนายน ล่วงหน้าก่อนเปิดตัวบนยูทูบ เป็นรายการที่ติดตามการกลับมาของพวกเธอควบคู่ไปกับการแบ่งปันชีวิตประจำวันผ่านวิดีโอบล็อก[109]
ซิงเกิล "ฮาวยูไลก์แดต" ออกเป็นซิงเกิลแรกในวันที่ 26 มิถุนายน[110][111] เพลงขึ้นสูงสุดอันดับหนึ่งบนแกออนดิจิทัลชาร์ตเป็นเวลาสามสัปดาห์[112] "ฮาวยูไลก์แดต" กลายเป็นเพลงที่ห้าของแบล็กพิงก์ที่ติดชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 (ขึ้นสูงสุดอันดับ 33) มิวสิกวิดีโอในยูทูบทำลายบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 5 ห้วข้อ[113] ยังติดอันดับหนึ่งในรายชื่อ 10 เพลงยอดนิยมประจำฤดูร้อน 2020 ของยูทูบมิวสิก[114] และได้รางวัลเพลงแห่งฤดูร้อนที่งานประกาศรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2020 ทำให้แบล็กพิงก์เป็นศิลปินหญิงเกาหลีวงแรกที่ได้รับรางวัลนี้[115] ในวันที่ 23 กรกฎาคม วายจีประกาศว่าซิงเกิลที่สอง "ไอศกรีม" กับนักร้องชาวอเมริกัน เซลีนา โกเมซ จะวางจำหน่ายในวันที่ 28 สิงหาคม[116][117] เพลงเปิดตัวที่อันดับที่ 13 บน บิลบอร์ด ฮอต 100 ถือเป็นอันดับสูงที่สุดของวง และเป็นครั้งแรกที่สามารถติดท็อป 20 ได้[118] ในสหราชอาณาจักร ขึ้นสูงสุดอันดับที่ 39 กลายเป็นศิลปินเกาหลีที่มีเพลงฮิตใน 40 อันดับแรกมากที่สุดจำนวนห้าเพลงในขณะนั้น[119]
แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มเกาหลีชุดแรกในชื่อ ดิอัลบั้ม ในวันที่ 2 ตุลาคม 2020 "เลิฟซิกเกิลส์" ออกเป็นซิงเกิลหลักที่สาม[120] ดิอัลบั้ม ขึ้นถึงอันดับสองบน บิลบอร์ด 200 และชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร กลายเป็นอันดับสูงที่สุดของศิลปินหญิงเกาหลี[121][122] อัลบั้มทำลายสถิติยอดขายสัปดาห์แรกของเกิร์ลกรุปเกาหลี ด้วยยอดขาย 590,000 ชุด หลังออกจำหน่ายได้เพียงหนึ่งวัน[123] และทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ขายได้ถึงล้านชุด โดยขายได้ประมาณ 1.2 ล้านชุด ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน[124] เพื่อส่งเสริมเพลงในสหรัฐ แบล็กพิงก์แสดง "เลิฟซิกเกิลส์" บน กูดมอนิงอเมริกา และ จิมมีคิมเมลไลฟ์! ในวันที่ 21 ตุลาคม[125]
ภาพยนตร์สารคดีครั้งแรกของวง แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2020 ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาสี่ปีนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 สารคดีเรื่องดังกล่าวประกอบด้วยฟุตเทจจากการฝึกซ้อม กิจวัตรประจำวัน เบื้องหลังการถ่ายทำ และบทสัมภาษณ์ของสมาชิกแต่ละคน รวมถึงกระบวนการผลิต ดิอัลบั้ม[126] ความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ ดิอัลบั้ม ร่วมกับภาพยนตร์สารคดี ส่งให้แบล็กพิงก์ครองอันดับหนึ่งในฐานะดาราป็อปที่มีอิทธิพลที่สุดประจำเดือนตุลาคมของบลูมเบิร์ก[127][128] ในวันที่ 2 ธันวาคม แบล็กพิงก์ประกาศร่วมมือกับยูทูบมิวสิกสำหรับคอนเสิร์ตสตรีมสดครั้งแรกของพวกเธอในชื่อ เดอะโชว์ จัดขึ้นวันที่ 27 ธันวาคม 2020 แต่ถูกเลื่อนออกมาเป็นวันที่ 31 มกราคม 2021 เนื่องจากระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19 ในเกาหลีใต้[129] คอนเสิร์ตนี้เป็นการแสดงสดครั้งแรกของเพลงหลายเพลงจาก ดิอัลบั้ม เช่นเดียวกับเพลง "กอน" ของโรเซ จากอัลบัมเดี่ยวชุดแรกของเธอ อาร์[130] ผู้คนมากกว่า 280,000 คน ได้สมัครสมาชิกเพื่อเข้าชมการแสดง และคอนเสิร์ตมีการสตรีมสดกว่า 100 ประเทศ[131]
แบล็กพิงก์ออก ดิอัลบั้ม เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2021 โดยมีเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นถึงสี่จากทั้งหมดแปดแทร็ก ("ฮาวยูไลก์แดต", "พริตตีซาเวจ", "เลิฟซิกเกิลส์" และ "ยูเนเวอร์โนว์") ขึ้นถึงอันดับสามบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต เพื่อส่งเสริมอัลบั้ม พวกเธอได้ปรากฏบนรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง มิวสิกสเตชัน ทางช่องทีวีอาซาฮิ[132] ในวันที่ 4 สิงหาคม ภาพยนตร์สารคดีเรื่อง แบล็กพิงก์: เดอะมูวี ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก นำเสนอบทสัมภาษณ์พิเศษของวง ตลอดจนการแสดงสดจากเดอะโชว์และอินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์[133]
2022–ปัจจุบัน: บอร์นพิงก์ และทัวร์รอบโลกครั้งที่สอง
ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2022 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าแบล็กพิงก์อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการบันทึกเสียงสำหรับอัลบั้มใหม่ โดยเตรียมถ่ายทำมิวสิกวิดีโอในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมและออกเพลงใหม่ในเดือนสิงหาคม และยังยืนยันว่าวงจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองในช่วงปลายปี[134] ในวันที่ 12 กรกฎาคม วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เผยว่าแบล็กพิงก์จะจัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงชื่อ แบล็กพิงก์: เดอะเวอชวล ในเกม พับจีโมบายล์ ตั้งแต่วันที่ 22 ถึง 30 กรกฎาคม ประกอบด้วยการแสดงเพลงฮิตของวงพร้อมกับแทร็กพิเศษ "เรดีฟอร์เลิฟ" ซึ่งจะแสดงตัวอย่างภายในงานเป็นครั้งแรก[135][136] ก่อนปล่อยตัวเต็มเป็นมิวสิกวิดีโอแอนิเมชันในวันที่ 29 กรกฎาคม[137]
ในวันที่ 31 กรกฎาคม มีการประกาศว่าแบล็กพิงก์จะออกซิงเกิลก่อนวางจำหน่าย "พิงก์เวนอม" ในวันที่ 19 สิงหาคม ก่อนอัลบั้มชุดที่สองของพวกเธอในเดือนกันยายน ตามด้วยเวิลด์ทัวร์ ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ในโซล และคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2023[138][139] หลังจากการวางจำหน่าย เพลงดังกล่าวขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด โกลบอล 200 ถึงสองสัปดาห์ กลายเป็นเพลงแรกของศิลปินหญิงเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งและยังเป็นเพลงเกาหลีเพลงแรกที่อยู่ในชาร์ตได้นานหลายสัปดาห์[140][141] ขึ้นถึงอันดับสองบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ตของเกาหลีใต้[142] อันดับที่ 22 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[143] และเป็นเพลงแรกของศิลปินกลุ่มเคป็อปที่ขึ้นอันดับสูงสุดบนชาร์ตซิงเกิลแห่งออสเตรเลีย ด้วย[144] เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม แบล็กพิงก์แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" ที่งานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2022 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินหญิงเคป็อปกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แสดงในงานดังกล่าว และยังได้รับรางวัลการแสดงเมตาเวิร์สยอดเยี่ยม จาก เดอะเวอชวล ด้วย[145][146]
ในวันที่ 16 กันยายน 2022 แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สอง บอร์นพิงก์ ควบคู่ไปกับซิงเกิล "ชัตดาวน์" เพลงขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด โกลบอล 200[147] และขึ้นอันดับสามบนเซอร์เคิลดิจิทัลชาร์ต[148] รวมถึงอันดับที่ 24 บนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[149] บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนเซอร์เคิลอัลบั้มชาร์ตด้วยยอดขาย 2,141,281 ชุดในเวลาไม่ถึงสองวัน และเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขายได้มากกว่าสองล้านชุด[150] ในสหรัฐ บอร์นพิงก์ เปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนบิลบอร์ด 200 กลายเป็นอัลบั้มแรกของศิลปินหญิงเกาหลีที่ขึ้นอันดับสูงสุดและเป็นอัลบั้มของศิลปินกลุ่มหญิงที่ทำได้นับตั้งแต่ เวลคัมทูเดอะดอลเฮาส์ ของแดนิตีเคนในปี 2008[151] ในสหราชอาณาจักร บอร์นพิงก์ ยังเป็นอัลบั้มแรกของเกิร์ลกรุปเคป็อปที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตอัลบั้มแห่งสหราชอาณาจักร[152] ทำให้แบล็กพิงก์เป็นเกิร์ลกรุปที่มีอัลบั้มเปิดตัวบนชาร์ตในสหรัฐและสหราชอาณาจักรที่อันดับหนึ่งพร้อม ๆ กัน นับตั้งแต่ เซอร์ไวเวอร์ ของเดสทินีส์ไชลด์ในปี 2001[153] และเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับแปดของโลกในปี 2022 จากข้อมูลของสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ[154] ในเดือนธันวาคม 2022 วงได้ชื่อว่าผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี จากนิตยสาร ไทม์[155]
หลังจากออกอัลบั้ม แบล็กพิงก์เริ่มทัวร์ บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ ในโซลเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2022 ตามด้วยทัวร์อเมริกาเหนือและยุโรปตลอดเดือนธันวาคม[156] ในวันที่ 28 มกราคม 2023 วงได้แสดงเพลง "พิงก์เวนอม" และ "ชัตดาวน์" ร่วมกับนักดนตรีอย่างโกตีเย กาปูว์ซง และดอเนียล โลซาโควิช ในงานการกุศลเลอกาลาเดเปียสโฌน ซึ่งจัดโดยสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส บรีฌิต มาครง ในปารีส[157] การทัวร์ดำเนินต่อไปในปี 2023 โดยมีการแสดงในสนามกีฬาทั่วเอเชีย ตลอดจนคอนเสิร์ตอีกหลายแห่งในเม็กซิโกและออสเตรเลีย[158][159] ต่อมาแบล็กพิงก์กลายเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้ลงพาดหัวข่าวในเทศกาลโคเชลลา เมื่อวันที่ 15 และ 22 เมษายน[160] และบีเอสทีไฮด์พาร์ก ในลอนดอนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม[161] จากนั้นก็กลับมาทัวร์อองคอร์ในสนามกีฬา โดยเริ่มในเดือนกรกฎาคมในประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐ ซึ่งได้สร้างสถิติจำนวนมาก รวมถึงทำให้พวกเธอกลายเป็นศิลปินหญิงลำดับที่สามในประวัติศาสตร์ ต่อจากบียอนเซ่ และเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ขายบัตรหมดทั้งสองวันที่สนามกีฬาเมตไลฟ์[162]
ในวันที่ 18 พฤษภาคม วงประกาศออกซิงเกิลประชาสัมพันธ์ชื่อ "เดอะเกิลส์" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเพลงประกอบเกมมือถือของพวกเธอ แบล็กพิงก์: เดอะเกม ในวันที่ 25 สิงหาคม 2023[163][164] ที่งานเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2023 แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลออกแบบท่าเต้นยอดเยี่ยม สำหรับเพลง "พิงก์เวนอม" และศิลปินกลุ่มแห่งปี กลายเป็นเกิร์ลกรุปกลุ่มที่สองที่คว้ารางวัลนี้ได้นับตั้งแต่ทีแอลซีในปี 1999[165] บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ สิ้นสุดในวันที่ 17 กันยายน ด้วยคอนเสิร์ตสองรอบสุดท้ายในโซล[166] เมื่อสิ้นสุดลง ทัวร์ได้ทำลายสถิติ สไปซ์เวิลด์ – 2019 ทัวร์ ของสไปซ์เกิลส์ กลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของศิลปินกลุ่มหญิง[167] โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 1.8 ล้านคน ทำให้เป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดของเกิร์ลกรุปเกาหลีด้วย[168][169]
ความเป็นศิลปิน
แนวเพลงของแบล็กพิงก์เป็นแนวอีดีเอ็มและป็อปโดยพื้นฐาน ควบคู่กับองค์ประกอบของฮิปฮอปและแทร็ป[170][171] ขณะเดียวกันก็รวมแนวเพลงอื่น ๆ อย่างอาร์แอนด์บี, อาหรับ, บัลลาด, ดิสโก และร็อก[172][173][174][175] เพลงหลายเพลงของวงมักจะนำเสนอเสียงเบสดรอปอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนเข้าท่อนคอรัส ซึ่งนักวิจารณ์ดนตรีมองว่าเป็นเสียงที่มีลักษณะเฉพาะของวง[176] เนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เกี่ยวกับความเป็นอิสระ พลังของผู้หญิง การเลิกรา และความสัมพันธ์ที่เป็นพิษเช่นเดียวกับความรักในฤดูร้อน[177][178]
อิทธิพลของวง
แบล็กพิงก์ได้สร้างอิทธิพลต่อวงการเคป็อปไปทั่วโลกและได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "เกิร์ลกรุปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก"[179][180][181] "กลุ่มดนตรีหญิงเคป็อปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด"[182] และ "ราชินีเคป็อป"[183] ในเกาหลีใต้ นิตยสาร ฟอบส์ จัดอันดับให้แบล็กพิงก์เป็น "ผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี" อันดับหนึ่ง ประจำปี 2019 อันดับที่สามในปี 2020 และอันดับที่สองในปี 2021[184] สื่อต่างประเทศหลายแห่งอย่างเช่น ฟอบส์, บิลบอร์ด และ เดอะฮอลลีวูดรีพอตเตอร์ ต่างยอมรับถึงความนิยมของวงและผลงานของพวกเธอที่เผยแพร่กระแสเกาหลีไปทั่วโลก[183][185][186][187] เจฟฟ์ เบนจามิน จากนิตยสาร โรลลิงสโตน ได้กล่าวว่าแบล็กพิงก์คือข้อยกเว้นสำหรับแนวคิดที่ว่าศิลปินเคป็อปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐ คือ บอยแบนด์[188] วงยังได้รับเครดิตให้เป็นหนึ่งในสองศิลปินผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลี จากสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ (IFPI)[189] แบล็กพิงก์ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลหลายรายการและเป็นเกิร์ลกรุปวงแรกที่ติดโผ "ผู้ทรงอิทธิพลที่มีอายุไม่เกิน 30 ปีของฟอบส์"[185][190] พวกเธอยังเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลดาวรุ่งที่กำลังกำหนดอนาคตของโลกประจำปี 2019 ของนิตยสาร ไทม์ และได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ผู้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของศิลปินเกาหลีที่ก้าวข้ามอุปสรรคทางภาษาไปสู่การแสดงบนเวทีระดับโลก" เมื่อพวกเธอกลายเป็นเกิร์ลกรุปเคป็อปวงแรกที่ได้แสดงในเทศกาลโคเชลลา[191][192] เช่นเดียวกับ บลูมเบิร์ก จัดให้แบล็กพิงก์เป็น "ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก" ประจำเดือนตุลาคม 2020 ทำให้พวกเธอเป็นศิลปินเกาหลีวงแรกที่ทำได้[193] นิตยสาร พีเพิล จัดให้แบล็กพิงก์อยู่ในรายชื่อ "สตรีที่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมดนตรี"[194] และยังเป็นเกิร์ลกรุปวงที่สามในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร โรลลิงสโตน ถัดจากสไปซ์เกิลส์และเดสทินีส์ไชลด์[195]
แบล็กพิงก์มีผู้ติดตามจำนวนมากบนสื่อสังคมและแพลตฟอร์มสตรีมมิง พวกเธอกลายเป็นวงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกันยายน 2019[196] ศิลปินหญิงที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020[197] และกลายเป็นศิลปินที่มีผู้ติดตามมากที่สุดเมื่อเดือนกันยายน 2021 โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 73 ล้านคน ณ เดือนเมษายน 2022[198][199] สมาชิกของแบล็กพิงก์ยังเป็นบุคคลที่มียอดผู้ติดตามสูงที่สุดบนอินสตาแกรมในเกาหลีใต้ อันดับหนึ่ง สอง สาม และสี่ คือ ลิซ่า, เจนนี, จีซู และโรเซ ตามลำดับ[200][201][202] รวมถึงเกิร์ลกรุปที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในสปอติฟายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2019[203][204] ในเดือนกันยายน 2022 วงมีผู้ติดตามมากกว่า 31 ล้านคน[205]
กิจกรรมอื่น ๆ
โฆษณา
ภายในสามสัปดาห์แรกของการเปิดตัว แบล็กพิงก์เป็นรองเพียงวงเอ็กโซ ของศิลปินเคป็อปผู้ทรงอิทธิพลในเดือนสิงหาคม จากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี[206] จากการศึกษาอีกกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในหัวข้อ "เกิร์ลกรุปหญิงที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดประจำเดือนกันยายน" ในปี 2016 แบล็กพิงก์อยู่ในอันดับ 1 แซงวงไอโอไอและทไวซ์[207]
ในเกาหลีใต้ แบล็กพิงก์เป็นทูตตราสินค้าหรือโฆษกให้บริษัทชุดกีฬา อาดิดาส[208] โรงแรมและรีสอร์ท พาราไดซ์ซีตี[209] เลนส์สัมผัสยี่ห้อ โอเลนส์[210] และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมยี่ห้อ มีซ็องแซน[211] ในเดือนกรกฎาคม 2018 และเดือนสิงหาคม 2020 วงอยู่อันดับหนึ่งในรายชื่อศิลปินที่มีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดจากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยธุรกิจเกาหลี ทำให้พวกเธอเป็นกลุ่มศิลปินหญิงวงแรกที่ทำได้[212][213] ในเดือนพฤษภาคม 2017 แบล็กพิงก์เป็นทูตประชาสัมพันธ์ให้ด่านศุลกากรหลักอินช็อน โดยป้ายโฆษณาและวิดีโอที่มีภาพของพวกเธอจะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน[214] ในเดือนเมษายน 2018 แบล็กพิงก์โฆษณาให้น้ำอัดลม สไปรต์[215] ในเดือนมกราคม 2019 วงเป็นหน้าตาให้กับธนาคารอูรี[216] และยังได้ร่วมงานกับพูมาและรีบอค[217][218] ไปจนถึงหลุยส์ วิตตองและดียอร์[219][220] เครื่องสำอางมูนช็อต[221] กระเป๋าเซนต์สกอตต์ลอนดอน[222] และห้างสรรพสินค้า ชิบูยะ 109[223] แบล็กพิงก์ยังออกสินค้าร่วมกับโตเกียวเกิลส์คอลเลกชันและเซซิลแม็กบีในญี่ปุ่นอีกด้วย[224]
การกุศล
ในเดือนธันวาคม 2018 แบล็กพิงก์บริจาคเงินที่ได้จากแอลสไตล์อะวอดส์ 2018 จำนวน 20 ล้านวอนให้กับผู้มีรายได้น้อยและครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวในเกาหลีใต้[225] ในเดือนเมษายน 2019 แบล็กพิงก์บริจาคเงิน 40 ล้านวอนให้แก่สมาคมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแห่งเกาหลีใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ซกโช[226]
รางวัลและความสำเร็จ
แบล็กพิงก์ได้รับรางวัลพีเพิลส์ชอยซ์อะวอดส์ 3 รางวัล[227] รางวัลทีนชอยซ์อะวอดส์ 1 รางวัล[228] รางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 1 รางวัล[229] รางวัลแกออนชาร์ตมิวสิกอะวอดส์ 9 รางวัล[230] รางวัลโกลเดนดิสก์อะวอดส์ 6 รางวัล[231] รางวัลเมลอนมิวสิกอะวอดส์ 5 รางวัล[232] รางวัลเอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ 8 รางวัล[233] รางวัลโซลมิวสิกอะวอดส์ 2 รางวัล[234][235] และบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 6 หัวข้อ[236]
ในเดือนมกราคม 2019 มิวสิกวิดิโอเพลง "ตู-ดู ตู-ดู" กลายเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีสัญชาติเกาหลีใต้ที่มียอดผู้ชมสูงสุดในยูทูบ[237] และเป็นมิวสิกวิดีโอของกลุ่มดนตรีเคป็อปตัวแรกที่มียอดผู้ชมถึง 1 พันล้านครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2019[238] "ฮาวยูไลก์แดต" ทำลายสถิติของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์มากมาย รวมถึงวิดีโอที่มีการรับชมบนยูทูบมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง (ด้วยยอดวิว 86.3 ล้านครั้ง)[239] และวิดีโอที่มีผู้ชมมากสุดในรอบปฐมทัศน์ (มียอดผู้ชมอยู่ที่ 1.66 ล้านคน)[240] ในปี 2021 แบล็กพิงก์ทำสถิติในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เป็นครั้งที่หก ในหัวข้อ "วงดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบนยูทูบ" โดยมีผู้ติดตามถึง 70 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน[241]
ในปี 2020 ซีเจ อีแอนด์เอ็มยกให้แบล็กพิงก์เป็นหนึ่งใน "2020 Visionary" เนื่องจากเป็นแรงบันดาลใจให้กับสาธารณชนทั่วโลกด้วยการบุกเบิกวัฒนธรรมสมัยนิยมของเกาหลี[242]
สมาชิก
ผลงานเพลง
สตูดิโออัลบั้ม
- ดิอัลบั้ม (2020)
- บอร์นพิงก์ (2022)
ผลงานการแสดง
- แบล็กพิงก์เฮาส์ (2018, วีไลฟ์ / ยูทูบ / เจทีบีซี 2)[244]
- เฟ้นหาดาววายจี (2018, เน็ตฟลิกซ์)[245][a]
- แบล็กพิงก์เอ็กซ์สตาร์โรด (2018, วีไลฟ์)
- แบล็กพิงก์ไดอารี (2019, วีไลฟ์ / ยูทูบ)
- 24/365 วิธแบล็กพิงก์ (2020, ยูทูบ)[109]
- แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย (2020, เน็ตฟลิกซ์)[126]
- แบล็กพิงก์: เดอะมูวี (2021)[246]
- บอร์นพิงก์เมมโมรีส์ (2022, ยูทูบ)[247]
ทัวร์คอนเสิร์ต
- แบล็กพิงก์เจแปนพรีเมียมเดบิวต์โชว์เคส (2017)
- แบล็กพิงก์อะรีนาทัวร์ (2018)
- อินยัวร์แอเรียเวิลด์ทัวร์ (2018–2020)
- ไลฟ์สตรีมคอนเสิร์ต: เดอะโชว์ (2021)
- บอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ (2022–2023)
เชิงอรรถ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.