คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ลิซ่า (แร็ปเปอร์)

แร็ปเปอร์หญิงชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลิซ่า (แร็ปเปอร์)
Remove ads

ลลิษา มโนบาล[1][2] (ชื่อเกิด: ปราณปรียา มโนบาล;[3] เกิด 27 มีนาคม พ.ศ. 2540) เป็นที่รู้จักในชื่อ ลิซ่า (เกาหลี: 리사, อังกฤษ: Lisa) เป็นแร็ปเปอร์ นักร้อง นักเต้น และนักแสดงชาวไทย เธอเป็นสมาชิกของแบล็กพิงก์ เกิร์ลกรุปเกาหลีใต้ สังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์[4] ลิซ่าเริ่มต้นอาชีพนักแสดงในซีรีส์ทางโทรทัศน์ของเอชบีโอเรื่อง เดอะไวต์โลตัส (2568)

ข้อมูลเบื้องต้น ลิซ่า, เกิด ...
Remove ads

ในเดือนกันยายน 2564 ลิซ่าเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวกับซิงเกิลอัลบั้มชื่อ ลลิษา อัลบั้มเปิดตัวที่อันดับหนึ่งบนแกออนอัลบั้มชาร์ต และขายได้มากกว่า 7 แสนชุดในสัปดาห์แรก ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่ทำได้[5] มิวสิกวิดีโอเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม มีผู้ชมรวม 73.6 ล้านครั้งในวันแรกบนยูทูบ กลายเป็นมิวสิกวิดีโอที่มีผู้ชมมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงแรกบนยูทูบโดยศิลปินเดี่ยว[6] ซิงเกิลแรกและซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม "ลลิษา" และ "มันนี" ขึ้นถึงสิบอันดับแรกบน บิลบอร์ด โกลบอล 200 โดยเพลงหลังกลายเป็นเพลงแรกของศิลปินเดี่ยวหญิงเคป็อปที่อยู่บนชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 และชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร ได้นานหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ ลลิษา และ "มันนี" ยังกลายเป็นอัลบั้มและเพลงแรกของศิลปินเดี่ยวเคป็อปที่มียอดสตรีมถึง 1 พันล้านครั้งบนสปอติฟาย ในปี 2567 ลิซ่าได้ก่อตั้งค่ายเพลงเป็นของตนเองในชื่อ แอลลาวด์ (Lloud) โดยเซ็นสัญญากับอาร์ซีเอเรเคิดส์ เธอออกซิงเกิล "ร็อกสตาร์" อันกลายเป็นซิงเกิลแรกของเธอที่เปิดตัวอันดับหนึ่งบน บิลบอร์ด โกลบอลคลูชันยูเอส

ลิซ่าได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลมามาอะวอดส์, เซอร์เคิลชาร์ตมิวสิกอะวอดส์, เอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ 3 รางวัล และเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์ 2 รางวัล สองรางวัลหลังเธอเป็นศิลปินเดี่ยวเคป็อปคนแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว เธอได้บันทึกในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ 9 หัวข้อ มากกว่าศิลปินเดี่ยวเคป็อปคนใด ๆ ทั้งนี้ เธอยังเป็นศิลปินเคป็อปที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดบนอินสตาแกรม และศิลปินเดี่ยวหญิงเคป็อปที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในสปอติฟาย ทั้งนี้ ลิซ่าได้รับเกียรติเป็นผู้นำทูตวัฒนธรรมจากกระทรวงวัฒนธรรมไทย และยังได้รับการยกย่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีไทย ประยุทธ์ จันทร์โอชา สำหรับผลงานของเธอที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปทั่วโลก

Remove ads

ชีวิตช่วงแรก

สรุป
มุมมอง

ลิซ่าเกิดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2540[7] ที่อำเภอสตึก[8] จังหวัดบุรีรัมย์[9] มีชื่อเกิดว่า "ปราณปรียา" แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น "ลลิษา"[10] จากการทายทักของหมอดู มีความหมายว่า "ผู้ที่ได้รับการยกย่อง"[11] และมีชื่อเล่นในวัยเด็กว่า "ป๊อกแป๊ก", "ลลิส" และ "ลิส" ตามลำดับ[12] ลิซ่าอาศัยอยู่กับมารดาชื่อ จิตทิพย์ เป็นชาวจังหวัดบุรีรัมย์[13] และพ่อเลี้ยงชื่อ มาร์โค บรุช์ไวเลอร์ (Marco Brüschweiler) ชาวสวิส เป็นที่ปรึกษาการประกอบธุรกิจร้านอาหารและผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารไทย[14][15] ลิซ่าสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนประภามนตรี 1 และ 2[16]

เมื่ออายุสี่ขวบ ลิซ่าเริ่มหัดเต้นและลงแข่งขันในเวทีต่าง ๆ รวมถึงโครงการทูบีนัมเบอร์วัน[12] และได้เข้าร่วมทีมนักเต้น วีซาคูล (We Zaa Cool) ซึ่งต่อมาในเดือนกันยายน 2552 ทีมได้เข้าแข่งขันในรายการ แอลจีเอนเตอร์เทนเนอร์ ล้านฝันสนั่นโลก ทางช่อง 9 และได้รางวัลพิเศษประเภททีม[17] นอกจากนี้ ลิซ่ายังเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปประกวดร้องเพลงในโครงการ 3 คุณธรรมนำไทย ซึ่งจัดโดยศูนย์คุณธรรม และได้รับรางวัลรองชนะเลิศ[16]

ครั้นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ลิซ่าเริ่มสนใจอุตสาหกรรมเคป็อปและอยากเป็นศิลปินเกาหลี[18] เธอยังแสดงความชื่นชมต่อบิกแบงและทูเอนีวัน และปรารถนาว่าตนอยากประสบความสำเร็จเหมือนกับวงดังกล่าว[19] ในปี 2553 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์มาเปิดออดิชันในประเทศไทยเป็นครั้งแรก จากผู้สมัครราวสี่พันคน ลิซ่าเป็นคนเดียวที่ผ่านการคัดเลือกและได้เข้ามาเป็นศิลปินฝึกหัดของวายจีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2554[20] ขณะออดิชัน เธอยังสร้างความประทับใจให้กับกรรมการชื่อ แดนนี อิม แห่งวงวันไทม์ ซึ่งภายหลังเขาออกมาชื่นชมถึงความมั่นใจบนเวทีและทัศนคติหลังเวทีของเธอ[21]

Remove ads

อาชีพ

สรุป
มุมมอง

ก่อนเปิดตัวและแบล็กพิงก์

Thumb
ลิซ่าขณะแสดงในเดือนพฤษภาคม 2560

ลิซ่าเริ่มเป็นที่สนใจในปี 2555 หลังจากวายจีอัปโหลดวิดีโอการเต้นของเธอลงบนยูทูบในคลิปชื่อ "WHO'S THAT GIRL???"[22][23] ในเดือนพฤศจิกายน 2556 เธอปรากฏอยู่ในมิวสิกวิดีโอของแทยัง สำหรับเพลง "รินการีนกา" (Ringa Linga) ในฐานะนักเต้นประกอบ ร่วมกับสมาชิกของไอคอนและวินเนอร์[24] ในเดือนมีนาคม 2557 ลิซ่าเป็นนางแบบให้กับเสื้อผ้าแนวสตรีตของโนนากอน (Nonagon) ร่วมกับบีไอและบ็อบบี[25]

หลังจากการฝึกหัดนานกว่า 5 ปี ลิซ่าได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวงแบล็กพิงก์และยังเป็นศิลปินต่างชาติคนแรกในค่ายวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์[26][11] แบล็กพิงก์เปิดตัวครั้งแรกด้วยซิงเกิลอัลบั้ม สแควร์วัน วางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2559[27][28] ซิงเกิลนำ "วิสเซิล" ประสบความสำเร็จด้วยการออลคิล (All Kill) บนชาร์ตของเกาหลีใต้[29] ทำให้แบล็กพิงก์ได้เข้าชิงรางวัลโกลเดนดิสก์อะวอดส์สาขาเพลงดิจิทัลยอดเยี่ยม (พนซัง)[30] ในปีต่อมา พวกเธอกวาดสามรางวัลจากแกออนชาร์ตเคป็อปอะวอดส์สาขาศิลปินหน้าใหม่แห่งปี, เพลงแห่งปี ประจำเดือนสิงหาคม จากเพลง "วิสเซิล"[31] และเพลงแห่งปี ประจำเดือนพฤศจิกายน จากเพลง "เพลย์อิงวิทไฟร์"[32]

ในเดือนตุลาคม 2563 แบล็กพิงก์ออกสตูดิโออัลบั้มชุดแรก ดิอัลบั้ม[33] อัลบั้มประสบความสำเร็จทั่วโลก และกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดอันดับที่ห้าในปี 2563 ด้วยยอดขาย 1.5 ล้านชุด[34] และเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดตลอดกาลของศิลปินหญิงชาวเกาหลีใต้[35] ในปีเดียวกันนั้น วงออกภาพยนตร์สารคดีชื่อ แบล็กพิงก์: ไลต์อัพเดอะสกาย ออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์[36]

ผลงานเดี่ยว

ในวันที่ 19 เมษายน 2564 วายจีเอนเตอร์เทนเมนต์เปิดเผยกับ เดอะโคเรียเฮรัลด์ ว่าลิซ่าจะเปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวคนที่สามของแบล็กพิงก์ โดยกำหนดการจะประกาศให้ทราบภายหลัง[37] วันที่ 12 กรกฎาคม วายจีกล่าวว่ากำลังถ่ายทำมิวสิกวิดีโอของเธอ[38] ซิงเกิลอัลบั้มเปิดตัวของลิซ่าชื่อ ลลิษา และซิงเกิลนำในชื่อเดียวกัน วางจำหน่ายวันที่ 10 กันยายน 2564[39][40] มิวสิกวิดีโอเพลง "ลลิษา" กลายเป็นวิดีโอของศิลปินเดี่ยวที่มีผู้ชมมากที่สุดภายใน 24 ชั่วโมง ทำลายสถิติมิวสิกวิดีโอเพลง "มี" ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่ร้องรับเชิญโดยเบรนดอน ยูรี[41] เพลงยังเปิดตัวที่อันดับ 84 บนชาร์ต บิลบอร์ด ฮอต 100 และอันดับสองบนชาร์ต บิลบอร์ด โกลบอล 200[42] อัลบั้มขายได้ถึง 736,221 ชุดในสัปดาห์แรก กลายเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสัปดาห์แรกสูงที่สุดของศิลปินหญิงเกาหลี และทำให้ลิซ่าเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่มียอดขายมากกว่า 5 แสนชุดในหนึ่งสัปดาห์[43]

ลิซ่าร้องรับเชิญให้ดีเจสเนก ในเพลง "เอสจี" ร่วมกับโอซูนา และเมแกนเดอะสตัลเลียน ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564[44] มิวสิกวิดีโอถ่ายทำในไมแอมีและกำกับโดยคอลิน ทิลลีย์[45] เพลงขึ้นอันดับที่ 19 บน บิลบอร์ด โกลบอล 200[46] ในสหรัฐ เพลงเปิดตัวที่อันดับสองบนชาร์ตบับบลิงอันเดอร์ฮอต 100 และกลายเป็นเพลงแรกของลิซ่าที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตละตินแอร์เพลย์[47]

ลิซ่าได้รับรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอดส์และเอ็มทีวียุโรปมิวสิกอะวอดส์ สาขาเคป็อปยอดเยี่ยม สำหรับเพลง "ลลิษา" ทำให้ลิซ่ากลายเป็นศิลปินเดี่ยวเคป็อปคนแรกที่ได้รับสองรางวัลนี้[48] ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ลิซ่าได้ก่อตั้งค่ายเพลงเป็นของตนเองในชื่อ แอลลาวด์ (Lloud)[49] ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน มีการประกาศว่าแอลลาวด์ได้ร่วมมือกับอาร์ซีเอเรเคิดส์ สำหรับการเผยแพร่ผลงานเดี่ยว โดยสัญญาของเธอจะรวมการเป็นเจ้าของต้นฉบับเสียงทั้งหมดด้วย[50] ซิงเกิลเดี่ยว "ร็อกสตาร์" ซึ่งเป็นผลงานแรกภายใต้สังกัดแอลลาวด์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน[51]

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ลิซ่าได้แสดงที่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 ทำให้เธอเป็นนักร้องเคป็อปคนแรกที่ได้แสดงในงานประกาศรางวัลนี้ [52] เดือนต่อมาเธอได้แสดงเพลงจากอัลบั้ม ออลเทอร์อีโก ในเทศกาลโคเชลลา[53]

Remove ads

กิจกรรมอื่น ๆ

สรุป
มุมมอง

การสนับสนุนผลิตภัณฑ์

หลังจากเป็นนางแบบให้กับแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีใต้ มูนช็อต ในปี 2559 ลิซ่ากลายเป็นทูตตราสินค้าของประเทศจีนเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561[54] รวมถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์เฉพาะให้กับคอลเลกชันใหม่หกชิ้นที่มีลายเซ็นของเธอเป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์[55] ในเดือนมีนาคม 2562 ลิซ่าเซ็นสัญญากับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS)[56] และเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับซัมซุง กาแลคซีเอส 10 ในประเทศไทย[57] เกมสำหรับโทรศัพท์มือถือ แร็กนาร็อกเอ็ม: อีเทอร์นอลเลิฟ ได้เลือกลิซ่าเป็นแบบให้กับตัวละครที่จะปรากฏอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ "มิดไนต์ปาร์ตี" ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป[58]

ในเดือนมกราคม 2563 ลิซ่าเป็นแบบให้กับบริษัทชุดกีฬา อาดิดาส SS20 ซีซัน ประเภทเสื้อผ้ามายเชลเตอร์ ร่วมกับมีโน แห่งวงวินเนอร์[59] ความนิยมครั้งใหม่ของลิซ่าในประเทศจีน หลังจากปรากฏอยู่ในรายการ วัยรุ่นวัยฝัน ซีซัน 2 ทางช่องอ้ายฉีอี้ ในฐานะที่ปรึกษาการเต้น เธอได้รับเลือกให้เป็นโฆษกน้ำยาปรับผ้านุ่ม ดีแอนด์จีดาวน์นี[60] และนมโยเกิร์ต เจิ้งกว๋อลี่ ของเมิ่งหนิวแดรี[60] เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน เทนเซ็นต์เกมส์ได้ประกาศให้ลิซ่าเป็นโฆษกเกมมือถือ บรอวล์สตาส์ ของซูเปอร์เซลล์[61] ในเดือนตุลาคม แม็กคอสเมติกส์ ซึ่งมีลอว์เดอร์เป็นเจ้าของได้แต่งตั้งให้ลิซ่าเป็นทูตระดับนานาชาติคนใหม่ด้วย[62]

ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ลิซ่าเซ็นสัญญากับวีโว เพื่อส่งเสริมสมาร์ตโฟน วีโวเอส 9 และ วีโวเอส 7[63][64] ในเดือนมีนาคม 2565 เธอเป็นทูตตราสินค้าให้กับชีวาสรีกัลและได้แสดงแคมเปญที่ชื่อ "ไอไรส์, วีไรส์"[65] ในเดือนมกราคม 2566 เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทรูไอดี ซึ่งเป็นบริการในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น[66] รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนบอร์นพิงก์เวิลด์ทัวร์ที่จัดขึ้นในประเทศไทย[67] ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน เธอโฆษณาให้ทรูมันนี่[68]

แฟชั่นและการถ่ายภาพ

ในเดือนมกราคม 2562 ลิซ่าเป็นแบบให้กับเอดี สลีมาน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ศิลปะ และภาพของบริษัทสินค้าแฟชั่นหรูหราสัญชาติฝรั่งเศส เซลีน[69] จากนั้นในเดือนกันยายน 2563 เธอได้รับการประกาศให้เป็นทูตระดับนานาชาติ หลังจากถูกนำเสนอในแคมเปญเอสเซนเชียล (Essentials) ซึ่งถ่ายโดยสลีมาน เมื่อเดือนมิถุนายน 2563[70]

ลิซ่าได้รับเลือกให้เป็นทูตตราสินค้าของบุลการี ซึ่งเป็นบริษัทตราสินค้าแฟชั่นหรูหราสัญชาติอิตาลี ในเดือนกรกฎาคม 2563 เธอยังเข้าร่วมแคมเปญดิจิทัลของบริษัท สำหรับคอลเลกชันเซอร์เพนตี (Serpenti) และบีซีโรวัน (Bzero One)[71] ในเดือนพฤศจิกายน ตราสินค้าเสื้อผ้าเพ็นช็อปได้เปิดตัวลิซ่าเป็นทูตคนใหม่ด้วย[72]

ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ลิซ่าเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการรับเชิญสำหรับรางวัลแฟชั่นฝรั่งเศส อันดัม[73] ต่อมาในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ลิซ่าออกคอลเลกชันร่วมกับบริษัทตราสินค้าความงามสัญชาติอเมริกัน แม็กคอสเมติกส์ ในชื่อ แม็กเอกซ์แอล (MAC X L) โดยคอลเลกชันประกอบด้วยบลัชออนแบบแป้ง อายไลเนอร์ พาเลตอายแชโดว์ และแป้งฝุ่น[74]

ลิซ่าออกหนังสือรูปแบบจำกัดชื่อ 0327 ผ่านสังกัดวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งประกอบด้วยภาพที่ถ่ายเองทั้งหมดด้วยกล้องฟิล์ม เล่มแรกวางจำหน่ายในวันเกิดของเธอในปี 2563[75] ตามด้วยเล่มที่สองในวันเกิดของเธอในปีถัดมา[76] เล่มที่สามและสี่วางจำหน่ายในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ[77][78]

ในเดือนกรกฎาคม 2567 ลิซ่าเป็นเฮาส์แอมบาสเซเดอร์ (House Ambassador) ให้แก่หลุยส์ วิตตอง[79] ในเดือนพฤศจิกายน เธอขึ้นปกนิตยสาร วานิตีแฟร์ ร่วมกับนักแสดงอย่างเซ็นเดยา, นิโคล คิดแมน และโซเอ ซัลดัญญา เป็นต้น[80] หลังจากนั้นไม่กี่วัน เธอได้ขึ้นปกนิตยสาร บิลบอร์ด ในสิบภูมิภาคได้แก่ สหรัฐ, ตะวันออกกลาง, อาร์เจนตินา, บราซิล, แคนาดา, สเปนกับลาตินอเมริกา, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี และฟิลิปปินส์[81] นับเป็นศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นปกนิตยสารดังกล่าวพร้อมกันในหลายเวอร์ชัน[82]

การกุศล

ในวันที่ 17 กันยายน 2562 หลังจากเกิดฝนตกหนักในฤดูมรสุม ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมใน 32 จังหวัดของประเทศไทย ก้อย อรอุษา บล็อกเกอร์ความงามชาวไทย ซึ่งเป็นญาติของลิซ่าได้เปิดเผยว่า ลิซ่าบริจาคเงิน 100,000 บาทให้แก่กองทุนของบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงชาวไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม[83][16]

ในเดือนกันยายน 2564 ลิซ่ามีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการสังคมสงเคราะห์ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งนำโดยมูลนิธิเกาหลีเพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ ร่วมกับวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยกำลังเปิดบัญชีออนไลน์เพื่อรวบรวมเงินบริจาค ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิกับวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างพื้นที่ผสมผสานวัฒนธรรมขนาด 160 ตารางเมตรที่โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม พร้อมจัดหาคอมพิวเตอร์ โปรเจกต์เตอร์ และอุปกรณ์มัลติมีเดียอื่น ๆ ให้แก่โรงเรียน รวมถึงก่อตั้งสถาบันสอนเต้นเคป็อปที่มีผู้สอนเป็นคนในพื้นที่ด้วย[84]

ในเดือนกรกฎาคม 2567 เธอได้รับการประกาศให้เป็นศิลปินหลักในเทศกาลโกลบอลซิติเซนที่จัดขึ้นในวันที่ 28 กันยายน ซึ่งเทศกาลดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเพื่อยุติความยากจนขั้นรุนแรง[85]

โทรทัศน์

ลิซ่าได้รับคัดเลือกแสดงในรายการเรียลลิตีชื่อ เรียลแมน 300 ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 21 กันยายน 2561 ทางช่องเอ็มบีซี[86] รายการเกี่ยวกับชีวิตการเป็นทหารของเหล่าคนดังที่สถาบันกองทัพเกาหลีในย็องช็อน[87] การแสดงของลิซ่าครั้งนี้ทำให้เธอได้รับเลือกเป็นตัวละครแห่งปีจากเอ็มบีซีเอนเตอร์เทนเมนต์อะวอดส์[88] ในเดือนพฤศจิกายน เธอเปิดช่องยูทูบเป็นของตนเอง ภายใต้บัญชีชื่อ ลิลิฟิล์มออฟฟิเชียล (Lilifilm Official) โดยที่วิดีโอจะเน้นไปที่การเต้นหรือวล็อกเป็นหลัก[89] ในเดือนมีนาคม 2564 ช่องยูทูบของเธอมีผู้ติดตามมากกว่า 6 ล้านคน[90]

ในเดือนมีนาคม 2563 ลิซ่ารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาการเต้นในรายการเซอร์ไววัลเพื่อค้นหาศิลปินกลุ่มหญิง วัยรุ่นวัยฝัน ซีซัน 2 ทางช่องอ้ายฉีอี้[91] และ วัยรุ่นวัยฝัน ซีซัน 3 เพื่อค้นหาศิลปินกลุ่มชายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564[92] นิตยสาร วาไรตี เปิดเผยว่าลิซ่าจะเริ่มต้นอาชีพนักแสดงในซีรีส์ทางช่องเอชบีโอเรื่อง เดอะไวต์โลตัส สำหรับฤดูกาลที่ 3 โดยใช้ชื่อ ลลิษา มโนบาล เป็นเครดิต[93]

Remove ads

ความนิยม

ในเดือนเมษายน 2562 ลิซ่ากลายเป็นศิลปินเคป็อปที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในอินสตาแกรม โดยมีผู้ติดตามกว่า 17.4 ล้านคนในขณะนั้น[94] เธอยังเป็นผู้มีชื่อเสียงจากประเทศไทยและประเทศเกาหลีใต้ที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุดในอินสตาแกรม[95] และกลายเป็นศิลปินเคป็อปคนแรกที่มีผู้ติดตามถึง 50 ล้านคนในเดือนเมษายน 2564 และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง[96]

ในปี 2564 ยูโกฟ ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศของอังกฤษ จัดอันดับลิซ่าอยู่ที่ 17 จาก 20 ในรายชื่อ "ผู้หญิงที่น่ายกย่องมากที่สุดในโลก" อยู่เคียงข้างกับมิเชลล์ โอบามา, แอนเจลีนา โจลี, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และอีกมากมาย[97]

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 นักวิจัยภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งชื่อพืชดอกวงศ์กระดังงาชนิดใหม่ว่า บุหงาลลิษา เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ[98][99] ในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน ลิซ่าได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าสู่หอเกียรติยศแห่งเอเชีย ประจำปี 2566 อยู่เคียงข้างเฟรดดี เมอร์คูรี และรีวอิจิ ซากาโมโตะ[100]

Remove ads

ผลงานเพลง

ผลงานการแสดง

โทรทัศน์

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, ชื่อ ...
Remove ads

รางวัลและการเสนอชื่อ

ข้อมูลเพิ่มเติม รางวัล, ปี ...

เกียรติประวัติ

ข้อมูลเพิ่มเติม หน่วยงาน, ปี ...

รายชื่อ

ข้อมูลเพิ่มเติม สื่อ, ปี ...

การบันทึก

ข้อมูลเพิ่มเติม สิ่งพิมพ์, ปี ...

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

Remove ads

เชิงอรรถ

  1. จัดโดยฮ่องกงเอเชียแปซิฟิกอินเตอร์เนชันแนลกรุปและซันเวย์เรเคิดส์ เอเชียป็อปมิวสิกอะวอดส์พิจารณาผู้ได้รับรางวัลจาก "เอเชียป็อปมิวสิกชาร์ต" ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2562[106]
  2. จัดโดยคณะกรรมการตราสินค้าผู้บริโภคเกาหลีและโคเรียคอนซูเมอร์ฟอรัม โคเรียเฟิสต์แบรนด์อะวอดส์พิจารณาผู้ได้รับรางวัลจากการสำรวจทั่วประเทศเกาหลีใต้[117]
  3. รายชื่อ A100 เป็นการยกย่องชาวเอเชียและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย & หมู่เกาะแปซิฟิก (AAPIs) ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในวัฒนธรรม ทุก ๆ เดือนพฤษภาคมอันเป็นเดือนแห่งมรดกของ AAPI[144] โกลด์เฮาส์ "จัดเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้บุกเบิกชุมชน AAPI และการมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาทั้งด้านความบันเทิง แฟชั่น วิถีชีวิต เทคโนโลยี ธุรกิจ กิจกรรมทางสังคม และการเมือง จากปีที่ผ่านมา"[145]
Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading content...
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads