Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไอโฟน (อังกฤษ: iPhone) เป็นโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตและมัลติมีเดีย ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทแอปเปิล โดยการทำงานของไอโฟนสามารถใช้งานส่งอีเมล ใช้เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งเอสเอ็มเอส ท่องอินเทอร์เน็ตผ่านทางซอฟต์แวร์ซาฟารี ค้นหาแผนที่ ฟังเพลง และความสามารถอื่น โดยมีอุปกรณ์หลักประกอบด้วย Wi-Fi (802.11b/g) บลูทูธ 2.0 และกล้องถ่ายภาพ 2.0-megapixel ไอโฟนรุ่นแรกมีลักษณะ 2.5G quad band GSM และ EDGE และรุ่นที่สองใช้ UMTS และ HSDPA
ไอโฟน 16 โปร | |
ผู้พัฒนา | บริษัทแอปเปิล |
---|---|
ผู้ผลิต | ฟ็อกซ์คอนน์ |
วางขาย | 2.3 billion (ข้อมูลเมื่อ 1 มกราคม ค.ศ. 2567[update])[1] |
รุ่นที่เกี่ยวข้อง |
|
รูปแบบ | สมาร์ทโฟน |
ระบบปฏิบัติการ | ไอโอเอส |
หน่วยความจำ | 64, 128, 256, 512 GB or 1 TB[note 1] flash memory[2] (current models) |
ระบบเสียง |
|
เว็บไซต์ | apple |
แอปเปิลได้เปิดเผยไอโฟนรุ่นแรกโดย สตีฟ จอบส์ ในงานแม็คเวิลด์ วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2550 และวางจำหน่ายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ไอโฟนได้ชื่อว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมประจำปีจากนิตยสารไทม์ ประจำปี 2550[3] โดยมีรุ่นถัดมาคือ ไอโฟน 3G ไอโฟน 3GS ไอโฟน 4 ไอโฟน 4S ไอโฟน 5 ไอโฟน 5C ไอโฟน 5S ไอโฟน 6 ไอโฟน 6 พลัส ไอโฟน 6S ไอโฟน 6S พลัส และ ไอโฟน เอสอี ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 ที่กลับไปใช้ขนาดหน้าจอเดียวกับไอโฟน 5S เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งไม่ชอบขนาดหน้าจอของไอโฟน 6, 6S, 6 พลัสและ 6S พลัส ซึ่งมีขนาดใหญ่เกินไป โดยไอโฟน SE มีสเปคเครื่องที่ดีกว่า iPhone 5S เช่น ในเรื่องของความเร็ว ที่เร็วกว่าสองถึงสามเท่า รวมทั้งปรับส่วนต่าง ๆ ให้เกือบเทียบเท่าไอโฟน 6S ต่อมาได้พัฒนาไอโฟนรุ่นต่อไปคือไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัส ไอโฟน 8, ไอโฟน 8 พลัส, ไอโฟนสิบ (เท็น), ไอโฟนสิบเอส, ไอโฟนสิบเอสแม็กซ์, ไอโฟนสิบอาร์, ไอโฟน 11, ไอโฟน 11 โปร, ไอโฟน 11 โปร แม็กซ์, ไอโฟนเอสอี สอง, ไอโฟน 12, ไอโฟน 12 มินิ, ไอโฟน 12 โปร, ไอโฟน 12 โปรแม็กซ์, ไอโฟน 13, ไอโฟน 13 มินิ, ไอโฟน 13 โปร, ไอโฟน 13 โปรแม็กซ์ ,ไอโฟน 14, ไอโฟน 14 พลัส, ไอโฟน 14 โปร และ โอโฟน 14 โปรแม็กซ์ ไอโฟน 15 ,ไอโฟน 15 พลัส ,ไอโฟน 15 โปร และ ไอโฟน 15 โปรแม็กซ์ และไอโฟนรุ่นล่าสุดคือ ไอโฟน 16,ไอโฟน 16 พลัส,ไอโฟน 16 โปร และ ไอโฟน 16 โปรแม็กซ์[4]
การทำงานของโทรศัพท์ไอโฟนนี้จะแตกต่างจากโทรศัพท์มือถืออื่น โดยไอโฟนจะไม่มีปุ่มสำหรับกดหมายเลขโทรศัพท์ โดยการทำงานทั้งหมดจะทำงานผ่านหน้าจอโดยการสัมผัสมัลติทัชผ่านคำสั่งต่าง ๆ โดยมีระบบปฏิบัติการหลัก iOS และมีระบบเซ็นเซอร์ในการรับรู้สภาพของเครื่องเพื่อกำหนดการแสดงผลของจอภาพ เช่นหากวางเครื่องในแนวตั้งระบบก็จะปรับให้แสดงผลในแนวตั้ง หากวางในแนวนอนระบบก็จะแสดงผลในแนวนอน
ในส่วนของกล้อง นับว่ามีการให้ความสำคัญมาตลอดโดยมีการเพิ่มความละเอียดในการถ่ายภาพทุกครั้งที่ออกรุ่นใหม่ ทั้งยังมีลูกเล่นเพิ่มเติม เช่น การถ่ายภาพแบบพาโนรามา แบบ Slo-Mo แบบ Time-Lapse ซึ่งอาศัยการทำงานที่สอดคล้องกันของทั้ง Hardware และ Software ซึ่งในรุ่นล่าสุด ไอโฟนได้มีการเปิดตัว กล้อง Slofies ซึ่งสามารถถ่าย ภาพแบบช้า หรือ Slowmotion ได้ผ่านกล้องหน้า
ไอโฟนเริ่มมีวางจำหน่ายครั้งแรกเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2550 โดยร่วมมือกับเครือข่ายเอทีแอนด์ทีไวร์เลสส์ (ในขณะนั้นในชื่อ ซิงกิวลาร์ไวร์เลสส์) โดยก่อนวันจำหน่ายร้านแอปเปิลได้ปิดร้านในช่วง 14 นาฬิกาเพื่อเตรียมตัวขายไอโฟนในเวลา 18 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีผู้ใช้รอคิวเข้าซื้อเป็นจำนวนมาก[5] โดยทางแอปเปิลขายไอโฟนได้ 270,000 เครื่อง ในช่วง 30 ชั่วโมงแรกที่เปิดจำหน่าย[6] โดยในปัจจุบันไอโฟนรุ่นแรกมีวางจำหน่ายในหกประเทศได้แก่ ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย และสหรัฐอเมริกา
โดยในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ไอโฟนรุ่นใหม่ หรือที่รู้จักในชื่อ ไอโฟน 3G จะมีการวางจำหน่ายใน 22 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 6 ประเทศที่มีวางจำหน่ายแล้ว และหลังจากนั้นจะมีวางจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกใน 48 ประเทศทั่วโลก รวมเป็นทั้งหมด 70 ประเทศ โดยในอาเซียนจะมีประเทศสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ที่มีการจำหน่ายไอโฟนอย่างเป็นทางการ[7] โดยในสหรัฐอเมริกานั้น ผู้ซื้อไอโฟนรุ่นใหม่จำเป็นต้องจดสัญญากับเอทีแอนด์ทีเป็นระยะเวลาสองปี
ประเทศไทยเริ่มมีการวางจำหน่ายไอโฟน 3G ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2552 โดยทรูมูฟ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจำหน่ายเป็นรายแรกในประเทศไทย และมีงานเปิดตัวระหว่างวันที่ 16-18 มกราคม พ.ศ. 2552 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน[8] และดีแทคเป็นรายที่สองที่ได้สิทธิ์การจัดจำหน่าย โดยมีการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายเครื่องวันแรก เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ ลานพาร์ค พารากอน สยามพารากอน
ไทยได้วางจำหน่าย ไอโฟน SE ในเดือนพฤษภาคม 2559
และในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 0.00 น. ไอโฟน 4 ได้เปิดตัวในประเทศไทย โดยทรูมูฟ, ดีแทค และ AIS เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การจำหน่ายในประเทศไทย
และในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 8:00 น. ไอโฟน 15 และ 15 พลัส และ ไอโฟน 15 โปร และ 15 โปรแม็กซ์ วางจำหน่ายทรูมูฟกับดีแทคและเอไอเอส และวางจำหน่ายที่แอปเปิ้ลสโตร์ 2 สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ และ ไอคอนสยาม
อยู่ระหว่างกำลังแก้ไขจากตารางเก่า : ข้อมูลทั้งหมด มีแหล่งอ้างอิงจาก Appleและ กำลังอยู่ระหว่างการแก้ไข นับข้อมูลตั้งแต่เปิดตัว มิใช่ข้อมูลที่เปลี่ยนภายหลัง เช่น หน่วยความจำ
แม่แบบ:Imei cod
สถานะ | ชิพ | ขนาดหน้าจอ | การทนน้ำทนฝุ่น | ระบบความปลอดภัย | ชนิดของซิมการ์ด | หน่วยความจำ | กล้อง | ||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
iPhone | หยุดการพัฒนา | Samsung Arm 1176JZ | 3.5 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | มินิ-ซิม | 4GB 8GB 16GB | ไม่มี | |
iPhone 3G | หยุดการพัฒนา | Samsung Arm 11 Processor | 3.5 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | มินิ-ซิม | 8GB 16GB | 1 ตัว | |
iPhone 3GS | หยุดการพัฒนา | Samsung S5PC100 | 3.5 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | มินิ-ซิม | 8GB 16GB 32GB | 1 ตัว | |
iPhone 4 | หยุดการพัฒนา | A4 | 3.5 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | ไมโคร-ซิม | 8GB 16GB 32GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 4S | หยุดการพัฒนา | A5 | 3.5 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | ไมโคร-ซิม | 8GB 16GB 32GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 5 | หยุดการพัฒนา | A6 | 4.0 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | นาโน-ซิม | 16GB 32GB 64GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 5C | หยุดการพัฒนา | A6 | 4.0 นิ้ว | ไม่มี | รหัสผ่าน | นาโน-ซิม | 16GB 32GB 64GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 5S | หยุดการพัฒนา | A7 | 4.0 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่1 | นาโน-ซิม | 16GB 32GB 64GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 6 | หยุดการพัฒนา | A8 | 4.7 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่1 | นาโน-ซิม | 16GB 64GB 128GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 6Plus | หยุดการพัฒนา | A8 | 5.5 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่1 | นาโน-ซิม | 16GB 64GB 128GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 6S | หยุดการพัฒนา | A9 | 4.7 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 16GB 64GB 128GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 6S Plus | หยุดการพัฒนา | A9 | 5.5 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 16GB 64GB 128GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone SE | หยุดอัปเดต | A9 | 4.0 นิ้ว | ไม่มี | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 16GB 64GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 7 | หยุดอัปเดต | A10 Fusion | 4.7 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 32GB 128GB 256GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 7 Plus | หยุดอัปเดต | A10 Fusion | 5.5 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 32GB 128GB 256GB | 2 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 8 | หยุดอัปเดต | A11 Bionic | 4.7 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 32GB 64GB 128GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 8 Plus | หยุดอัปเดต | A11 Bionic | 5.5 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโน-ซิม | 32GB 64GB 128GB | 2 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone X | หยุดอัปเดต | A11 Bionic | 5.8 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | เฟซไอดี | นาโน-ซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone XR | ไม่มีขาย พัฒนา | A12 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP67
1เมตร 30นาที | เฟซไอดี | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 1 ตัว + True Depth | |
iPhone XS | ไม่มีขาย พัฒนา | A12 Bionic | 5.8 นิ้ว | IP68
2เมตร30นาที | เฟซไอดี | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone XS Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A12 Bionic | 6.5 นิ้ว | IP68
2เมตร30นาที | เฟซไอดี | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 11 | ไม่มีขายพัฒนา | A13 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68
2เมตร30นาที | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 11 Pro | ไม่มีขาย พัฒนา | A13 Bionic | 5.8 นิ้ว | IP68
4เมตร30นาที | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 256GB 512GB | 3 ตัว + True Depth | |
iPhone 11 Pro Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A13 Bionic | 6.5 นิ้ว | IP68
4เมตร30นาที | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 256GB 512GB | 3 ตัว + True Depth | |
iPhone SE 2 | ไม่มีขาย พัฒนา | A13 Bionic | 4.7 นิ้ว | IP67 | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 1 ตัว + กล้องหลัง | |
iPhone 12 Mini | ไม่มีขาย พัฒณา | A14 Bionic | 5.4 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 12 | ไม่มีขาย พัฒนา | A14 Bionic | 6.1นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 12 Pro | ไม่มีขาย พัฒนา | A14 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 12 Pro Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A14 Bionic | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone SE 3 | พัฒนา | A15 Bionic | 4.7 นิ้ว | IP67 | ทัชไอดี รุ่นที่2 | นาโนซิม / อีซิม | 64GB 128GB 256GB | 1 ตัว + True Depth | |
iPhone 13 mini | ไม่มีขาย พัฒนา | A15 Bionic | 5.4 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 13 | ไม่มีขาย พัฒนา | A15 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 13 Pro | ไม่มีขาย พัฒนา | A15 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 13 Pro Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A15 Bionic | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 14 | พัฒนา | A15 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 14 Plus | พัฒนา | A15 Bionic | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 14 Pro | ไม่มีขาย พัฒนา | A16 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 14 Pro Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A16 Bionic | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 15 | พัฒนา | A16 Bionic | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 15 Plus | พัฒนา | A16 Bionic | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | |
iPhone 15 Pro | ไม่มีขาย พัฒนา | A17 Pro | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 15 Pro Max | ไม่มีขาย พัฒนา | A17 Pro | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | |
iPhone 16 | พัฒนา | A18 | 6.1 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | Camera control |
iPhone 16 Plus | พัฒนา | A18 | 6.7 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB | 2 ตัว + True Depth | Camera control |
iPhone 16 Pro | พัฒนา | A18 Pro | 6.3 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | Camera control |
iPhone 16 Pro max | พัฒนา | A18 Pro | 6.9 นิ้ว | IP68 | เฟซไอดี ทุกมุม | นาโนซิม / อีซิม | 128GB 256GB 512GB 1TB | 3 ตัว + True Depth + LiDAR scanner | Camera control |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.