สงครามคองโกครั้งที่หนึ่ง
From Wikipedia, the free encyclopedia
สงครามคองโกครั้งที่หนึ่ง หรือ สงครามโลกครั้งที่หนึ่งของแอฟริกา[28] เป็นสงครามกลางเมืองและความขัดแย้งนานาชาติที่เกิดขึ้นในประเทศซาอีร์ (สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกปัจจุบัน) ระหว่างค.ศ. 1996–1997 และยังลุกลามในประเทศซูดานและยูกันดา สงครามถึงจุดสูงสุดเมื่อกองกำลังต่างชาติบุกครองซาอีร์และแทนที่ประธานาธิบดีโมบูตู เซเซ เซโกด้วยโลร็อง-เดซีเร กาบีลา ผู้นำพันธมิตรกองทัพประชาธิปไตยเพื่อปลดปล่อยคองโก (AFDL) ต่อมาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกาบีลากับพันธมิตรนำไปสู่สงครามคองโกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1998–2003)
สงครามคองโกครั้งที่หนึ่ง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ หลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดา ผลกระทบจากสงครามกลางเมืองบุรุนดีและสงครามกลางเมืองซูดานครั้งที่สอง | |||||||
แผนที่แสดงการรุก AFDL | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ซูดาน[2] มาอี-มาอี[lower-alpha 1] |
AFDL มาอี-มาอี[lower-alpha 1] | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
โมบูตู เซเซ เซโก ดอนาเซียง มาเฮเล ลีเอโก โบคุนกู คริสตีย็อง ตาแวร์นีเย อุมัร อัลบะชีร โฌนัส ซาวิมบี พอล รวาราคาบีเย รอแบร์ คาจูกา ทาซีส เรนซาโฮ |
โลร็อง-เดซีเร กาบีลา อ็องเดร คิซาเซ อึงกันดู † พอล คากาเม เจมส์ คาบาเรเบ โยเวรี มูเซเวนี ปีแยร์ บูโยยา ฌูแซ เอดัวร์ดู ดุช ซังตุช | ||||||
กำลัง | |||||||
ซาอีร์: ป. 50,000[lower-alpha 2] อินเตราฮัมเว: 40,000 – 100,000 รวมทั้งหมด[22] UNITA: ป.1,000[22] – 2,000[6] |
AFDL: 57,000[23] รวันดา: 3,500–4,000[23][24] แองโกลา: 3,000+[24] เอริเทรีย: 1 กองพัน[25] | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
10,000–15,000 ถูกฆ่า 10,000 แปรพักตร์[24] ยอมจำนนหลายพันคน | 3,000–5,000 ถูกฆ่า | ||||||
250,000[26]–800,000 เสียชีวิต 222,000 ผู้ลี้ภัยสูญหาย[27] |
คริสต์ทศวรรษ 1990 ซาอีร์ที่ประสบความขัดแย้งภายใน ระบอบเผด็จการและเศรษฐกิจเสื่อมถอยยาวนานกำลังจะล่มสลาย ภาคตะวันออกของประเทศสั่นคลอนเนื่องจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดารุกล้ำชายแดน รวมถึงความขัดแย้งระดับภูมิภาคที่ไม่ได้รับการแก้ไขมาตั้งแต่วิกฤตการณ์คองโก หน่วยงานรัฐหลายพื้นที่ไร้ประสิทธิภาพ เกิดการต่อสู้ในหมู่กองกำลังอาสาสมัคร ขุนศึกและกลุ่มกบฏ ประชาชนซาอีร์กระสับกระส่ายและคับแค้นใจการปกครองที่ฉ้อฉล ในขณะที่กองทัพอยู่ในสภาพย่ำแย่[29][21] ด้านประธานาธิบดีโมบูตูซึ่งป่วยระยะสุดท้ายไม่สามารถรักษากลุ่มแยกต่าง ๆ ในรัฐบาลไว้ได้อีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นสงครามเย็นที่สิ้นสุดยังทำให้จุดยืนในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ของโมบูตูซึ่งเคยทำให้เขาได้รับความช่วยเหลือจากต่างชาติหมดความหมาย[30][20]
สถานการณ์ย่ำแย่ลงเมื่อรวันดารุกรานซาอีร์ในค.ศ. 1996 เพื่อปราบกลุ่มกบฏที่ลี้ภัยเข้ามา การบุกครองถูกยกระดับเมื่อยูกันดา บุรุนดี แองโกลาและเอริเทรียเข้าร่วมด้วย รวมถึงมีการรวมกลุ่มกบฏต่อต้านโมบูตู[31] ซาอีร์พยายามตอบโต้โดยได้รับการสนับสนุนจากซูดาน แต่รัฐบาลโมบูตูกลับล่มสลายภายในเวลาไม่กี่เดือน[32] แม้สงครามคองโกครั้งที่หนึ่งจะสู้รบไม่นาน แต่สร้างความเสียหายในวงกว้าง มีผู้เสียชีวิตในสงครามนี้หลายแสนคน[33]
หลังโมบูตูถูกโค่นอำนาจในค.ศ. 1997 มีการตั้งรัฐบาลใหม่และซาอีร์ถูกเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็น "สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก" อย่างไรก็ตามเกิดความตึงเครียดระหว่างกาบีลากับชาติที่เคยช่วยทำสงคราม เขาสั่งขับไล่ทหารรวันดา ยูกันดาและบุรุนดีออกจากคองโก[34] ก่อนจะหันไปผูกมิตรกับแองโกลา นามิเบีย ซิมบับเวและแซมเบีย พันธมิตรสามฝ่ายร่วมกับการบุกครองภาคตะวันออกของคองโกครั้งที่สองของรวันดาเปิดฉากสงครามคองโกครั้งที่สองในปีต่อมา[35]