Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สงครามคองโกครั้งที่สอง หรือบางครั้งรู้จักในชื่อ มหาสงครามแห่งแอฟริกา หรือ สงครามโลกของแอฟริกา เป็นความขัดแย้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1998 ไม่นานหลังสงครามคองโกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุด และยุติในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2003 เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกปกครองประเทศ สงครามคองโกครั้งที่สองเป็นสงครามที่มีชาติแอฟริกา 9 ชาติและกลุ่มติดอาวุธกว่า 25 กลุ่มเข้าร่วม[7] นับถึงค.ศ. 2008 มีผู้เสียชีวิต 5.4 ล้านคนจากสงครามโดยสาเหตุหลักมาจากโรคภัยและความอดอยาก[8] ทำให้สงครามคองโกครั้งที่สองเป็นหนึ่งในสงครามที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง[9] นอกจากนี้ประชาชนอีก 2 ล้านคนต้องลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน[10][11]
สงครามคองโกครั้งที่สอง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามกลางเมืองคองโกและหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดา | |||||||
เหยื่อสงครามที่ถูกข่มขืนที่กลับคืนสู่ชุมชนได้สำเร็จรวมตัวกัน (ซ้ายบน) ทหารกบฏคองโกในปี 2001 (บนขวา) ทหารกบฏคองโกในเมืองทางตอนเหนือของ กาบาโดลีเต ในปี 2000 (ล่าง) | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
หมายเหตุ: รวันดารบกับยูกันดาในสงครามสั้นเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2000 ในเมืองคีแซงกานีของคองโก | |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
|
| ||||||
กำลัง | |||||||
มาอี-มาอี: 20–30,000 กองกำลังอาสาสมัคร อินเตราฮัมเว: 20,000+ |
RCD: 45,000 รวันดา: 8,000+[1] | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
ชาวยูกันดา 2,000 คน (เฉพาะที่คีแซงกานี)[2] | |||||||
สงครามคองโกครั้งที่หนึ่งเป็นสงครามกลางเมืองเพื่อล้มล้างโมบูตู เซเซ เซโก ประธานาธิบดีประเทศซาอีร์ สงครามเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1996 เมื่อรวันดารุกรานซาอีร์เพื่อปราบกลุ่มผู้ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดาที่ลี้ภัย การรุกรานของรวันดาได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่ายรวมถึงกบฏต่อต้านโมบูตูนาม พันธมิตรกองทัพประชาธิปไตยเพื่อปลดปล่อยคองโก (AFDL) นำโดยโลร็อง-เดซีเร กาบีลา พันธมิตรรวันดา–AFDL สามารถขับไล่รัฐบาลโมบูตูภายในเวลา 6 เดือน และจัดตั้งรัฐบาลใหม่พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อประเทศกลับมาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยมีกาบีลาเป็นประธานาธิบดี อย่างไรก็ตามเกิดความตึงเครียดจนกาบีลาตัดสัมพันธ์กับรวันดาและหันไปผูกมิตรกับประเทศแองโกลาและซิมบับเว
เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1998 เกิดกบฏบันยามูเลนกีและกลุ่มการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยของคองโก (RCD) ที่สนับสนุนโดยรวันดาทางภาคตะวันออกของคองโก ในช่วงไล่เลี่ยกันรวันดาดำเนินปฏิบัติการคีโตนาเพื่อยึดภาคตะวันตกที่สำคัญของคองโก ด้านกาบีลาได้รับความช่วยเหลือจากซิมบับเวเป็นชาติแรก ตามด้วยแองโกลาและนามิเบีย[12] รวมถึงชาด ซูดานและลิเบีย เดือนกันยายน ทัพพันธมิตรของกาบีลาสามารถผลักดันฝ่ายกบฏออกจากเมืองหลวงกินชาซาแต่ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด เดือนมกราคม ค.ศ. 1999 มีความพยายามในการเจรจาหยุดยิงที่เมืองวินด์ฮุก ประเทศนามิเบียแต่ล้มเหลว หลังจากนั้นสงครามคองโกครั้งที่สองกลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่มีหลายฝ่ายเข้าร่วม
ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1999 สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แองโกลา นามิเบีย ซิมบับเว รวันดาและยูกันดา รวมถึงกลุ่ม RCD และขบวนการเพื่อการปลดปล่อยคองโก (MLC) ร่วมลงนามในความตกลงหยุดยิงลูซากา[13][14] แต่ยังมีการสู้รบประปราย เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 สหประชาชาติส่งเจ้าหน้าที่ 5,537 นายมาที่คองโกเพื่อสังเกตการณ์ในภารกิจ MONUSCO[15] อย่างไรก็ตามยังมีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง เดือนมกราคม ค.ศ. 2001 กาบีลาถูกลอบสังหารที่ทำเนียบประธานาธิบดีในเมืองกินชาซา[16] เขาถูกส่งไปรักษาที่ซิมบับเวและเสียชีวิตในอีกสองวันต่อมา[17] โฌแซ็ฟ กาบีลา บุตรชายของเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อมา โฌแซ็ฟหารือกับพอล คากาเม ประธานาธิบดีรวันดาที่ประเทศสหรัฐ[18] ก่อนที่รวันดาและยูกันดาจะตอบรับแผนการถอนกำลัง[19]
ในค.ศ. 2002 สถานการณ์ของรวันดาในสงครามย่ำแย่ลง เมื่อสมาชิก RCD จำนวนมากเริ่มวางอาวุธและเปลี่ยนฝ่าย ยิ่งไปกว่านั้นกบฏบันยามูเลนกีทางตะวันออกของคองโกที่ถือเป็นกำลังหลักของรวันดาอ่อนล้ากับสงครามที่ยืดเยื้อ บางส่วนก่อการกำเริบจนนำไปสู่การปะทะกับกองทัพรวันดาเอง[20] ในช่วงเวลาเดียวกัน รัฐบาลโฌแซ็ฟควบคุมภาคตะวันตกของคองโกได้มากขึ้น เดือนเมษายน ค.ศ. 2002 การเจรจาสันติภาพนำโดยแอฟริกาใต้นำไปสู่ความตกลงซันซิตี[21] ซึ่งเสนอให้คองโกมีรัฐบาลผสมและกำหนดการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย เดือนกรกฎาคม รวันดากับสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกร่วมลงนามในข้อตกลงพริทอเรีย ซึ่งข้อตกลงนี้มุ่งเน้นปัญหาสองข้อ หนึ่งคือการถอนทหารรวันดาประมาณ 20,000 นายออกจากคองโก สองคือการรวบรวมอดีตทหารรวันดาและการปลดอาวุธอินเตราฮัมเว กำลังกึ่งทหารชาวฮูตูที่ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุรวันดาในค.ศ. 1994 และยังคงปฏิบัติการอยู่ในภาคตะวันออกของคองโก[22] ต่อมาในเดือนกันยายน คองโกกับยูกันดาลงนามในความตกลงลูอันดาเพื่อยุติการสู้รบและปรับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้เป็นปกติ[23] ด้านรวันดาถอนกำลังเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม[24]
เดือนธันวาคม ค.ศ. 2002 รัฐบาลโฌแซ็ฟ กลุ่ม RCD MLC และอื่น ๆ ร่วมลงนามในความตกลงครอบคลุมและเบ็ดเสร็จ (Global and All-Inclusive Agreement) ที่เสนอแผนการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งภายในสองปี ความตกลงนี้ยุติสงครามคองโกครั้งที่สอง รัฐบาลเปลี่ยนผ่านถูกจัดตั้งในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2003 โดยมีโฌแซ็ฟเป็นประธานาธิบดี[25] แม้จะมีการลงนามสันติภาพอย่างเป็นทางการ แต่คองโกยังคงประสบความขัดแย้งในหลายพื้นที่ ทั้งความขัดแย้งอีตูรีและความขัดแย้งคีวูทางตะวันออก[26][27] การก่อการกำเริบกาต็องกาทางตอนใต้[28] และการก่อการกำเริบกองทัพต่อต้านของพระเจ้าซึ่งแพร่มาจากยูกันดา[29]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.