Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย พ.ศ. 2561–2562 เป็นฤดูกาลในอดีตที่เคยมีการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนในอัตราใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย ภายในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ระหว่าง 90°ตะวันออก ถึง 160°ตะวันออก โดยฤดูกาลนี้ได้เริ่มนับอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 และไปสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2562 อย่างไรก็ตาม พายุหมุนเขตร้อนสามารถก่อตัวได้ตลอดเวลาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562 และจะถูกนับรวมในฤดูกาลนี้ด้วย ซึ่งในฤดูกาลนี้มีกรณีของกิจกรรมพายุหมุนเขตร้อนก่อนวันเริ่มฤดูกาลอย่างเป็นทางการ คือ ความกดอากาศต่ำเขตร้อนลีอูอา ในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 และพายุไซโคลนแอนน์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 ในระหว่างฤดูกาล พายุหมุนเขตร้อนจะถูกติดตามอย่างเป็นทางการโดยสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BOM), สำนักอุตุนิยมวิทยา สภาพภูมิอากาศ และธรณีฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย (BMKG) ในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และศูนย์บริการสภาพอากาศแห่งชาติปาปัวนิวกินี ในพอร์ตมอร์สบี ส่วนศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมของกองทัพเรือสหรัฐ (JTWC) ในรัฐฮาวาย สหรัฐ และศูนย์บริการทางอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติอื่น ๆ ประกอบด้วย เมทเซอร์วิซแห่งประเทศนิวซีแลนด์, เมเตโอ-ฟร็องส์แห่งประเทศฝรั่งเศสบนเกาะเรอูนียง และกรมอุตุนิยมวิทยาฟีจี ก็ต่างเฝ้าติดตามส่วนของแอ่งในระหว่างฤดูกาลด้วยแบบไม่เป็นทางการ
ฤดูพายุไซโคลนภูมิภาคออสเตรเลีย พ.ศ. 2561–2562 | |
---|---|
แผนที่สรุปฤดูกาล | |
ขอบเขตฤดูกาล | |
ระบบแรกก่อตัว | 26 กันยายน พ.ศ. 2561 |
ระบบสุดท้ายสลายตัว | 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 |
พายุมีกำลังมากที่สุด | |
ชื่อ | วิรอนิกา |
• ลมแรงสูงสุด | 195 กม./ชม. (120 ไมล์/ชม.) (เฉลี่ย 10 นาที) |
• ความกดอากาศต่ำที่สุด | 939 hPa (มิลลิบาร์) |
สถิติฤดูกาล | |
ความแปรปรวนทั้งหมด | 25 ลูก |
พายุไซโคลนเขตร้อน | 11 ลูก |
พายุไซโคลนกำลังแรง | 6 ลูก |
ผู้เสียชีวิตทั้งหมด | 14 คน |
ความเสียหายทั้งหมด | 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงิน USD ปี 2019) |
ภูมิภาค | จำนวน เฉลี่ย |
โอกาสมีพายุ มากกว่า |
โอกาสมีพายุ น้อยกว่า |
เกิดขึ้น จริง |
---|---|---|---|---|
ทั้งแอ่ง | 11 | 37% | 63% | 11 |
ตะวันตก | 7 | 44% | 56% | 6 |
ตะวันตกด้านเหนือ | 5 | 41% | 59% | 4 |
เหนือ | 3 | 46% | 54% | 5 |
ตะวันออก | 4 | 40% | 60% | 5 |
แหล่งข้อมูล: คาดหมายฤดูกาลสำหรับพายุหมุนเขตร้อนของสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย[1] |
ในช่วงเดือนตุลาคม ก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (BOM) ได้ออกประกาศการคาดหมายฤดูกาลสำหรับพายุหมุนเขตร้อนในฤดูกาล พ.ศ. 2561–2562 โดยระบุว่าฤดูอย่างเป็นทางการจะมีช่วงตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ไปจนถึง 30 เมษายน 2562 การคาดหมายดังกล่าวเป็นการคาดหมายแบบรวมทั้งแอ่ง ประกอบด้วย ภูมิภาคตะวันออก เหนือ และตะวันตก รวมถึงภูมิภาคย่อยตะวันตกด้านเหนือ[1] การพยากรณ์คำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงสภาวะเอลนิโญล่าสุดที่มีกำลังอ่อนถึงเป็นกลางในเขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิก[1] การคาดหมายแสดงถึงกิจกรรมโดยรวมภายในแอ่ง รวมถึงในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งระบุว่ามีกิจกรรมของพายุใกล้เคียงถึงน้อยกว่าค่าเฉลี่ย[1] สำหรับภูมิภาคตะวันตก คือบริเวณระหว่าง เส้นเมริเดียน 90 องศาตะวันออก ถึง 125 องศาตะวันออกนั้น สำนักอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีกิจกรรมของพายุหมุนเขตร้อนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (7 ลูก) โดยมีโอกาสถึง 56% ที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนเกิดขึ้นน้อยกว่าค่าเฉลี่ย[1] ศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อนเพิร์ท ยังตั้งข้อสังเกตไว้ด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีพายุหมุนเขตร้อนสองลูก โดยอย่างน้อยหนึ่งลูกที่เป็นพายุโซโคลนกำลังแรงส่งผลกระทบต่อรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย[2] สำหรับภูมิภาคย่อยตะวันตกด้านเหนือ บริเวณระหว่างเส้นเมริเดียน 125 องศาตะวันออก ถึง 142.5 องศาตะวันออก มีโอกาสที่จะมีพายุมากกว่าค่าเฉลี่ย 54%[1] ส่วนภูมิภาคตะวันออก บริเวณระหว่างเส้นเมริเดียน 142.5 องศาตะวันออกถึง 160 องศาตะวันออก พยากรณ์ว่ามีกิจกรรมของพายุหมุนเขตร้อนใกล้เคียงค่าปกติ โดยมีโอกาส 60% ที่จะมีกิจกรรมของพายุหมุนเขตร้อนต่ำกว่าค่าเฉลี่ย[1]
หย่อมความกดอากาศต่ำ (≤63 กม./ชม.) | พายุไซโคลนกำลังแรงระดับ 3 (118–159 กม./ชม.) |
พายุไซโคลนระดับ 1 (63–88 กม./ชม.) | พายุไซโคลนกำลังแรงระดับ 4 (160–200 กม./ชม.) |
พายุไซโคลนระดับ 2 (89–117 กม./ชม.) | พายุไซโคลนกำลังแรงระดับ 5 (≥200 กม./ชม.) |
ความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 25 (เข้ามาในแอ่ง) – 29 กันยายน | ||
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 995 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.38 นิ้วปรอท) |
ความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 9 (เข้ามาในแอ่ง) – 16 พฤศจิกายน (ออกนอกแอ่งไปเมื่อวันที่ 10 และกลับเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 14 และออกนอกแอ่งไปอีกครั้งในวันที่ 16) | ||
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 1005 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.68 นิ้วปรอท) |
หย่อมความกดอากาศกำลังอ่อนก่อตัวขึ้นแถบศูนย์สูตรในมหาสมุทรอินเดีย ภายในพื้นที่รับผิดชอบของเมเตโอ-ฟร็องส์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยระบบหย่อมความกดอากาศต่ำได้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทางตะวันออก และแสดงให้เห็นถึงสัญญาณการทวีกำลังแรงขึ้นเพียงเล็กน้อย[3] ในช่วงปลายของวันที่ 9 พฤศจิกายน พายุดีเปรสชันลูกก่อนหน้าในอ่าวเบงกอลได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันหมุนเร็ว บีโอบี 09 และเริ่มเคลื่อนตัวห่างออกไปและพบกับการบรรจบกันของการไหลของอากาศระดับต่ำที่สัมพันธ์กับการอ่อนกำลังของมัน[4] โครงสร้างของระบบเริ่มจัดระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมเตโอฟร็องส์ได้จัดให้ระบบเป็นการแปรปรวนของลมในเขตร้อน[5] ไม่นานหลังจากนั้นระบบได้เคลื่อนตัวผ่านเส้นเมริเดียนที่ 90 องศาตะวันออก และเข้าสู่แอ่งภูมิภาคออสเตรเลีย โดยได้รับการจัดความรุนแรงของศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อนจาการ์ตาเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น[6] ต่อมาศูนย์เตือนไต้ฝุ่นร่วมประเมินว่าการพัฒนาของหย่อมความกดอากาศต่ำนั้น อยู่ในระดับพายุโซนร้อนแล้วตามมาตราเฮอร์ริเคนแซฟเฟอร์–ซิมป์สัน และจึงได้ออกรหัสเรียกอย่างไม่เป็นทางการกับระบบว่า 04S[7] ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในเวลา 10:00 UTC (17:00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) ระบบได้เคลื่อนตัวย้อนกลับไปทางตะวันตก และกลับเข้าสู่แอ่งมหาสมุทรอินเดียตะวันตก-ใต้ตามเดิม[8] และมีการทวีกำลังขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง โดยได้รับชื่อจากเมเตโอ-ฟร็องส์ว่า บูชรา (Bouchra)[9]
หลังจากที่พายุเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกของเส้นขอบมหาสมุทรอินเดียตะวันตกด้านใต้อยู่เป็นเวลาหลายวัน ระบบได้เคลื่อนตัวกลับเข้ามาในภูมิภาคออสเตรเลียอีกครั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายน[10] โดยกลับเข้ามาในฐานะของพายุที่อ่อนกำลังลงอย่างมาก จากกำลังสูงสุดของตัวมันเอง และเหลือเพียงแค่เป็นความกดอากาศต่ำเขตร้อนเท่านั้น[11] โดยหย่อมนี้จะอยู่ภายในแอ่งออสเตรเลียเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ อีกครั้ง เนื่องจากเมเตโอ-ฟร็องส์ชี้ว่าระบบพายุไซโคลนบูชราเก่านี้ จะเคลื่อนตัวเลี้ยวกลับเข้าไปในด้านตะวันออกสุดของพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยงานในวันที่ 13 พฤศจิกายน[10] อีกหลายวันต่อมา สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียได้บันทึกว่า ระบบได้เคลื่อนตัวเลี้ยวกลับเข้าไปในแอ่งออสเตรเลียอีกครั้ง โดยมีระยะห่างจากหมู่เกาะโคโคสไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 1,000 กม. ทำให้มันกลายเป็นความกดอากาศต่ำเขตร้อนที่เคลื่อนตัวเข้าและออกจากแอ่งออสเตรเลียถึงสามครั้ง ภายในเวลาเพียงห้าวัน[12]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 14 – 18 พฤศจิกายน | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1004 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.65 นิ้วปรอท) |
วันที่ 14 พฤศจิกายน สำนักอุตุนิยมวิทยาได้บันทึกว่ามีความกดอากาศต่ำเขตร้อนก่อตัวขึ้นในบริเวณพายุฝนฟ้าคะนอง ห่างจากเกาะคริสต์มาสไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 490 กม.[12] ซึ่งอยู่เหนือบริเวณที่มีน้ำทะเลที่อบอุ่นของเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งของเกาะชวา มีการพยากรณ์ว่าระบบจะเคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ และมีโอกาสปานกลางในการก่อตัวเป็นพายุหมุนเขตร้อน[12]
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 29 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม | ||
ความรุนแรง | 150 กม./ชม. (90 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 956 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.23 นิ้วปรอท) |
ในระหว่างที่พายุไซโคลนโอเวนพัดผ่านตอนเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ พายุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 คน และมีปริมาณน้ำฝนทั่วทั้งภูมิภาคสูงที่สุดอยู่ในชายฝั่งตะวันออก เมื่อเทียบกับชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงใต้ส่วนที่เหลือของรัฐ[18] ที่เมืองอินนิสเฟล วัดปริมาณน้ำฝนสูงสุดรายวันเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมได้ที่ 149 มิลลิเมตร (5.9 นิ้ว) ขณะที่เมืองคาวลีย์บีชวัดได้ 135 มิลลิเมตร (5.3 นิ้ว) เขื่อนคอปเปอร์โลดฟอลส์ที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองแคนส์วัดได้ 130 มิลลิเมตร (5.1 นิ้ว) และที่เมืองมิชชันบีชวัดได้ 98 มิลลิเมตร (3.9 นิ้ว)[19]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 9 – 12 ธันวาคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1005 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.68 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 14 – 16 ธันวาคม (ออกนอกแอ่ง) | ||
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 996 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.41 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 27 – 28 ธันวาคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1001 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.56 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 28 – 31 ธันวาคม (ออกนอกแอ่ง) | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1002 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.59 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 28 ธันวาคม – 9 มกราคม | ||
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 987 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.15 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 29 – 30 ธันวาคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1007 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.74 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 30 ธันวาคม – 2 มกราคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1005 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.68 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 15 – 23 มกราคม (ออกนอกแอ่ง) | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1004 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.65 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 21 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ | ||
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 974 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.76 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 21 – 25 มกราคม | ||
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 999 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.5 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 6 – 9 กุมภาพันธ์ | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 994 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.35 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 7 กุมภาพันธ์ – 22 กุมภาพันธ์ (ออกนอกแอ่งไปเมื่อวันที่ 11 และกลับเข้ามาอีกครั้งในวันที่ 21 และออกนอกแอ่งอีกครั้งในวันที่ 22) | ||
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 977 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.85 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 6 – 11 มีนาคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1007 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.74 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 3 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 7 – 17 มีนาคม (ออกนอกแอ่ง) | ||
ความรุนแรง | 175 กม./ชม. (110 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 951 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.08 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
| |||
ระยะเวลา | 13 – 14 มีนาคม | ||
ความรุนแรง | ไม่ทราบความเร็วลม 1006 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.71 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 3 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 15 – 26 มีนาคม | ||
ความรุนแรง | 175 กม./ชม. (110 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 950 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.05 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 4 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 18 – 28 มีนาคม | ||
ความรุนแรง | 195 กม./ชม. (120 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 938 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 27.7 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 1 – 16 เมษายน | ||
ความรุนแรง | 120 กม./ชม. (75 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 980 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 28.94 นิ้วปรอท) |
สืบเนื่องจากการหยุดลงของร่องมรสุมที่มีมีพลัง ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เกิดการก่อตัวของพายุไซโคลนกำลังแรงเทรเวอร์และเวรอนิกาในสองสัปดาห์ก่อนหน้า การเพิ่มขึ้นของกระแสพัดข้ามเส้นศูนย์สูตรจากมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือจึงนำไปสู่การพัฒนาขึ้นอีกครั้งของร่องมรสุมกำลังอ่อน ในทะเลเขตร้อนทางเหนือของทวีปออสเตรเลีย[28] การกลับมาของลักษณะแบบนี้มีส่วนรับผิดชอบในการสร้างสภาพบรรยากาศที่มีส่วนสนับสนุนการก่อตัวของความกดอากาศต่ำเขตร้อน[28]
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 5 – 15 เมษายน | ||
ความรุนแรง | 65 กม./ชม. (40 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 1005 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.68 นิ้วปรอท) |
บริเวณความกดอากาศต่ำเขตร้อน (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุดีเปรสชันเขตร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 21 – 26 เมษายน | ||
ความรุนแรง | 55 กม./ชม. (35 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 998 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.47 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 4 – 11 พฤษภาคม | ||
ความรุนแรง | 75 กม./ชม. (45 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 997 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.44 นิ้วปรอท) |
พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 (มาตราออสเตรเลีย) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
| |||
ระยะเวลา | 9 (เข้ามาในแอ่ง) – 18 พฤษภาคม | ||
ความรุนแรง | 95 กม./ชม. (60 ไมล์/ชม.) (10 นาที) 993 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.32 นิ้วปรอท) |
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551–52 มีรายชื่อพายุเพียงชุดเดียวที่สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียประกาศใช้ โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียได้แบ่งศูนย์เตือนภัยพายุหมุนเขตร้อนในประเทศออสเตรเลียออกเป็นสามศูนย์ ได้แก่ ศูนย์เพิร์ท, ศูนย์ดาร์วิน และศูนย์บริสเบน[32] โดยมีหน้าที่ตรวจสอบพายุหมุนเขตร้อนทั้งหมดที่ก่อตัวในภูมิภาคออสเตรเลีย รวมถีงทำหน้าที่ออกคำแนะนำพิเศษให้ทั้งพื้นที่รับผิดชอบของ TCWC จาการ์ตาหรือ TCWC พอร์ตมอร์สบีด้วย โดยในฤดูกาล 2561–2562 นี้มีชื่อของสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียถูกใช้ทั้งสิ้น 8 ชื่อ ดังตาราง
รายชื่อพายุหมุนเขตร้อนของสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียในฤดูกาล 2561–2562 | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
โอเวน (Owen) |
เพนนี (Penny) |
ไรลีย์ (Riley) |
ซะแวนนาห์ (Savannah) |
เทรเวอร์ (Trevor) |
วิรอนิกา (Veronica) |
วอลลิซ (Wallace) |
แอนน์ (Ann) |
ศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อนในจาการ์ตา ทำการติดตามพายุหมุนเขตร้อนในขอบเขตตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรลงไปทางใต้ถึงเส้นขนานที่ 11 องศาใต้ และระหว่างเส้นเมริเดียนที่ 90 องศาตะวันออกไปจนถึง 145 องศาตะวันออก เมื่อพายุดีเปรสชันเขตร้อนใดทวีกำลังเป็นพายุไซโคลนในขอบเขตรับผิดชอบของ JTWC จาการ์ตานี้ พายุลูกนั้นจะได้รับชื่อจากทางศูนย์ฯ[32] โดยในฤดูกาล 2561–2562 มีพายุหมุนเขตร้อนที่ได้รับจาก JTWC จาการ์ตาทั้งสิ้น 2 ชื่อ ดังตาราง
รายชื่อพายุหมุนเขตร้อนของ JTWC จาการ์ตา ในฤดูกาล 2561–2562 | |
---|---|
เกอนางา (Kenanga) | ลีลี (Lili) |
พายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวขึ้นในระหว่างขอบเขตตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรลงไปทางใต้จนถึงเส้นขนานที่ 11 องศาใต้ และระหว่างเส้นเมริเดียนที่ 151 องศาตะวันออกไปทางตะวันออกจนถึงเส้นเมริเดียนที่ 160 องศาตะวันออก จะได้รับชื่อจากศูนย์เตือนพายุหมุนเขตร้อนในพอร์ตมอร์สบี ประเทศปาปัวนิวกินี บริเวณนี้บริเวณที่พบการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนได้ยาก และไม่มีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวและมีกำลังขึ้นจนได้รับชื่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แล้ว[33] โดยฤดูกาล 2561–2562 ไม่มีพายุหมุนเขตร้อนใดได้รับชื่อจาก TCWC พอร์ตมอร์สบี
ชื่อ | ระหว่างวันที่ | ความรุนแรงสูงสุด | ความเร็วลม เฉลี่ย |
ความกดอากาศ | พื้นที่ผลกระทบ | ความเสียหาย (AUD) |
ความเสียหาย (USD) |
ผู้เสียชีวิต | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลีอูอา | 26 – 29 กันยายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | 55 กม./ชม. | 995 hPa (29.38 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
บูชรา | 9 – 16 พฤศจิกายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | 55 กม./ชม. | 1004 hPa (29.65 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
TL | 14 – 18 พฤศจิกายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1005 hPa (29.68 นิ้วปรอท) | เกาะชวา, เกาะคริสต์มาส | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
โอเวน | 29 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม | พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 | 150 กม./ชม. | 956 hPa (28.23 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน, ปาปัวนิวกินี, รัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | ล้าน | 34.8ล้าน | 251 | [18][34] |
TL | 9 – 12 ธันวาคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1005 hPa (29.68 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน, รัฐควีนส์แลนด์ | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
เกอนางา | 14 – 16 ธันวาคม | พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 | 75 กม./ชม. | 996 hPa (29.41 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
เพนนี | 26 ธันวาคม – 9 มกราคม | พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 | 95 กม./ชม. | 989 hPa (29.15 นิ้วปรอท) | ปาปัวนิวกินี, รัฐควีนส์แลนด์ | เล็กน้อย | เล็กน้อย | ไม่มี | |
TL | 27 – 28 ธันวาคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1001 hPa (29.56 นิ้วปรอท) | เกาะติมอร์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
โมนา | 28 – 31 ธันวาคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1002 hPa (29.59 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
TL | 30 ธันวาคม – 2 มกราคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1005 hPa (29.68 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
11U | 15 – 29 มกราคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1004 hPa (29.65 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
ไรลีย์ | 19 – 30 มกราคม | พายุไซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 | 120 กม./ชม. | 974 hPa (28.76 นิ้วปรอท) | รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
13U | 21 – 25 มกราคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | 55 กม./ชม. | 999 hPa (29.50 นิ้วปรอท) | รัฐควีนส์แลนด์ | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
โอมา | 7 – 22 กุมภาพันธ์ | พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 | 100 กม./ชม. | 979 hPa (28.91 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน, รัฐควีนส์แลนด์, รัฐนิวเซาท์เวลส์ | พัน | 700พัน | 5001 | |
15U | 6 – 11 มีนาคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1007 hPa (29.74 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะมาลูกู | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
ซะแวนนาห์ | 7 – 17 มีนาคม | พายุโซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 | 175 กม./ชม. | 951 hPa (28.08 นิ้วปรอท) | เกาะชวา, เกาะคริสต์มาส, หมู่เกาะโคโคส (คีลิง) | ล้าน | 6.87ล้าน | 4.8412 | [35][36] |
18U | 13 – 14 มีนาคม | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1006 hPa (29.71 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
เทรเวอร์ | 15 – 26 มีนาคม | พายุโซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 | 175 กม./ชม. | 950 hPa (28.05 นิ้วปรอท) | ปาปัวนิวกินี, รัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | ล้าน | 1พัน | 710ไม่มี | |
วิรอนิกา | 18 – 31 มีนาคม | พายุโซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 4 | 195 กม./ชม. | 938 hPa (27.70 นิ้วปรอท) | เกาะติมอร์, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | พันล้าน | 2.2พันล้าน | 1.6ไม่มี | [37] |
TL | 31 มีนาคม – 3 เมษายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 1005 hPa (29.68 นิ้วปรอท) | ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของปาปัวนิวกินี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
วอลลิซ | 1 – 16 เมษายน | พายุโซโคลนเขตร้อนกำลังแรงระดับ 3 | 120 กม./ชม. | 980 hPa (28.94 นิ้วปรอท) | นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, หมู่เกาะมาลูกู, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย, เกาะติมอร์, หมู่เกาะโคโคส (คีลิง) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
22U | 5 – 15 เมษายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | 65 กม./ชม. | 1005 hPa (29.68 นิ้วปรอท) | เกาะนิวกินี, รัฐควีนส์แลนด์, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี, รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
TL | 21 – 26 เมษายน | ความกดอากาศต่ำเขตร้อน | ไม่ได้ระบุ | 998 hPa (29.47 นิ้วปรอท) | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
ลีลี | 4 – 11 พฤษภาคม | พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 1 | 75 กม./ชม. | 997 hPa (29.44 นิ้วปรอท) | อินโดนีเซียตะวันออก, ติมอร์ตะวันออก, นอร์เทิร์นเทร์ริทอรี | ไม่ทราบ | ไม่ทราบ | ไม่มี | |
แอนน์ | 9 – 18 พฤษภาคม | พายุไซโคลนเขตร้อนระดับ 2 | 95 กม./ชม. | 993 hPa (29.32 นิ้วปรอท) | หมู่เกาะโซโลมอน, นิวแคลิโดเนีย, รัฐควีนส์แลนด์ | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี | |
สรุปฤดูกาล | |||||||||
25 ลูก | 26 กันยายน – 18 พฤษภาคม | 195 กม./ชม. | 938 hPa (27.70 นิ้วปรอท) | พันล้าน | 2.24พันล้าน | 1.6314 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.