Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ผู้วินิจฉัย 2 (อังกฤษ: Judges 2) เป็นบทที่ 2 ของหนังสือผู้วินิจฉัยในพันธสัญญาเดิมหรือคัมภีร์ฮีบรู[1] ตามธรรมเนียมของศาสนายูดาห์เชื่อว่าหนังสือผู้วินิจฉัยเขียนโดยผู้เผยพระวจนะซามูเอล[2][3] แต่นักวิชาการสมัยใหม่มองว่าหนังสือผู้วินิจฉัยเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สายเฉลยธรรมบัญญัติซึ่งครอบคลุมเรื่องราวตั้งแต่หนังสือเฉลยธรรมบัญญัติถึงหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่ 2 เชื่อว่าเขียนโดย เขียนโดยผู้เขียนศาสนายาห์เวห์ผู้รักชาติและศรัทธาในสมัยของโยสิยาห์กษัตริย์ยูดาห์นักปฏิรูปในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล[3][4] บทที่ 2 ของหนังสือผู้วินิจฉัยเน้นไปที่ความล้มเหลวทางการรบและการไม่เชื่อฟังของชาวอิสราเอลหลังจากการเกริ่นนำในบทแรก[5]
ผู้วินิจฉัย 2 | |
---|---|
หน้าของหนังสือผู้วินิจฉัยในฉบับเลนินกราด (ค.ศ. 1008) | |
หนังสือ | หนังสือผู้วินิจฉัย |
ภาคในคัมภีร์ฮีบรู | เนวีอีม |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ฮีบรู | 2 |
หมวดหมู่ | ผู้เผยพระวจนะยุคต้น |
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | พันธสัญญาเดิม (สัตตบรรณ) |
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์ | 7 |
บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู แบ่งออกเป็น 23 วรรค
บางสำเนาต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรูมีลักษณะเป็นต้นฉบับเมโซเรติก (Masoretic Text) ได้แก่ ได้แก่ ฉบับไคโร (Codex Cairensis; ค.ศ. 895), ฉบับอะเลปโป (Aleppo Codex; ศตวรรษที่ 10) และฉบับเลนินกราด (Leningrad Codex; ค.ศ. 1008)[6]
สำเนาต้นฉบับโบราณที่หลงเหลืออยู่ของคำแปลเป็นภาษากรีกคอยนีที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) ได้แก่ ฉบับวาติกัน (Codex Vaticanus; B; B; ศตวรรษที่ 4) และฉบับอะเล็กซานเดรีย (Codex Alexandrinus; A; A; ศตวรรษที่ 5)[7][lower-alpha 1]
ส่วนสั้น ๆ เกี่ยวกับการสำแดงของพระเจ้านี้ทำหน้าที่เป็นสิ่งเชื่อมระหว่างบทก่อนหน้าและบทต่อ ๆ ไป เป็นการทรงตอบสนองต่อคำทูลถามของชาวอิสราเอลเพื่อทูลขอคำแนะนำจากพระเจ้าในผู้วินิจฉัย 1:1 พร้อมด้วยการย้ำถึงพันธสัญญาของพระเจ้าที่จะทรงประทานดินแดนแก่ชนชาติอิสราเอล (ย้อนกลับไปยุคปฐมบรรพบุรุษ) ได้ถูกรักษาว่าอย่างซื่อสัตย์ดังที่ประจักษ์ได้จากการทรงไถ่ประชาชนจากอียิปต์ (ผู้วินิจฉัย 2:1) แต่อนาคตของพันธสัญญานั้นขึ้นกับเงื่อนไขของความซื่อสัตย์ของอิสราเอลในฐานะคู่พันธสัญญาต่อพระยาห์เวห์แต่เพียงพระองค์เดียว ความล้มเหลวในการขับไล่ศัตรูใน 1:28–36 แท้จริงแล้วไม่ได้เป็นผลจากความอ่อนแอทางการทหาร (1:19) แต่เป็นผลมาจากความไม่ซื่อสัตย์ของอิสราเอลต่อพันธสัญญา (2:2–3) ปฏิกิริยาของประชาชนต่อการบอกเหตุล่วงหน้าอันรุนแรงนี้เป็นศัพทมูลของสถานที่ที่ทูตของพระยาห์เวห์ปรากฏ (2:4–5)[5]
เนื้อหาในส่วนนี้ได้วางมุมมองที่อิงตามหลักเทววิทยาของประวัติศาสตร์ตลอดหนังสือผู้วินิจฉัย ความได้เปรียบทางการทหารและการเมืองของอิสราเอลไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยในทางปฏิบัติอย่างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เอกภาพทางการเมือง และความพร้อมทางการทหาร แต่ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของประชาชนของความสัมพันธ์ตามพันธสัญญากับพระเจ้า และน่าจะยังขึ้นกับผู้นำที่เข้มแข็งด้วยอย่างเช่นโยชูวา (วรรค 6–7)[5] เมื่อโยชูวาและคนรุ่นการอพยพเสียชีวิตไป คนรุ่นใหม่มาแทนที่ แต่พวกเขาไม่รู้จักพระยาห์เวห์หรือสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่ออิสราเอล (วรรค 10) นี่จึงส่งสัญญาณถึงปัญหาของอิสราเอลในหนังสืออื่น ๆ ของคัมภีร์ไบเบิล (เปรียบเทียบกับ อพยพ 1:8; 1 พงศ์กษัตริย์ 12:8)[5] วรรค 11–23 สรุปแบบแผนของประวัติศาสตร์อิสราเอลภายใต้ผู้วินิจฉัยดังนี้:[5]
กรอบโครงสร้างของแบบแผนนี้เปรียบเทียบได้ในเชิงเทววิทยาและเชิงภาษากับเฉลยธรรมบัญญัติ 4:21–31; 6:10–15; 9:4–7; 12:29–32; 28:25 รวมไปถึงหนังสือผู้วินิจฉัยตลอดทั้งเล่ม (เปรียบเทียบภาษาและเนื้อหาที่ 3:7–10, 12, 15; 4:1; 6:1–10; 10:6–16; 13:1)[5] เมื่อชาวอิสราเอล 'ละทิ้ง' พระยาห์เวห์ (วรรค 12–13) ไป 'เล่นชู้' กับพระต่างชาติ (วรรค 17 โดยเฉพาะพระบาอัลและพระอัชทาโรทของชาวคานาอัน จากนั้นพระยาห์เวห์จะ 'กริ้ว' และ 'พระพิโรธพลุ่งขึ้น' ต่อพวกเขา (วรรค 12,14, 20)[5] ข้อความนี้จบลงด้วยการหักมุมในเรื่องการพิชิตคานาอันที่ไม่สมบูรณ์ของอิสราเอล คือพระเจ้าทรงปล่อยให้เหล่าศัตรูยังคงอยู่เพื่อทดสอบความซื่อสัตย์ของอิสราเอล[5]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.