Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: BTS GROUP HOLDINGS PUBLIC COMPANY LIMITED ชื่อย่อ:BTS ชื่อเดิม: บริษัท ธนายง จำกัด) [2] เป็นบริษัทประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจให้บริการ และธุรกิจระบบขนส่งมวลชน แต่เดิมประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก่อนเข้ารับสัมปทานระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครจากกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสายแรกของประเทศไทย โดยเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับ กรุงเทพมหานคร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง และกองทัพเรือไทย รวมถึงยังดำเนินการธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับพันธมิตรตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในทุกสายทางที่กำหนดไว้ในแผนแม่บท
ประเภท | บริษัทมหาชนจำกัด |
---|---|
การซื้อขาย | SET:BTS |
อุตสาหกรรม | บริการ |
รูปแบบ | ขนส่งและโลจิสติกส์ |
ก่อตั้ง | 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 |
สำนักงานใหญ่ | 21 อาคารทีเอสที ทาวเวอร์ ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร[1], , |
บุคลากรหลัก | คีรี กาญจนพาสน์ (ประธานกรรมการ) กวิน กาญจนพาสน์ (กรรมการผู้อำนวยการใหญ่) ชวดี รุ่งเรือง (ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน) |
เว็บไซต์ | www |
ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2511 ในชื่อบริษัท ธนายง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และได้เริ่มเปิดโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการแรก คือ “โครงการธนาซิตี้” ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด กม.14 ในปี 2531 ซึ่งเป็นโครงการที่ประกอบไปด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม และที่ดินเปล่าจัดสรร
บริษัทฯ ได้ทำการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2534 และต่อมาเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2536 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดตามข้อกำหนดในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และได้ขยายลักษณะการประกอบธุรกิจออกไปหลายประเภท เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ อาคารพักอาศัยใจกลางเมือง เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงาน โรงแรม และโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่
บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการที่กู้ยืมเงินจากต่างประเทศ การลอยตัวค่าเงินบาทส่งผลให้เงินกู้ยืมที่เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบเป็นสกุลเงินบาท ในระหว่างปี พ.ศ. 2545-2549 บริษัทฯ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้และเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งบริษัทได้ปฏิบัติตามแผนฟื้นฟูกิจการจนกระทั่งศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการในปลายปี พ.ศ. 2549 ระหว่างปี พ.ศ. 2550-2552 บริษัทและบริษัทในกลุ่มได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคต
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของบีทีเอสซี ร้อยละ 94.60 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบีทีเอสซี และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ทำให้ธุรกิจหลักของกลุ่มเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจระบบขนส่งมวลชน
ในวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 บริษัทได้เปลี่ยนหมวดเป็น “ขนส่งและโลจิสติกส์” ภายใต้อุตสาหกรรม “บริการ” และได้เปลี่ยนชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์เป็น “BTS” [3]
ในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติให้ทำการระดมทุนสาธารณะ โดยการร่วมจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอส โกรท (BTS Rail Mass Transit Growth Infrastructure Fund – BTSGIF) จนเป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชนได้มูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ไทย โดยขนาดของกองทุนมีมูลค่ากว่า 61,399 ล้านบาท[4] [5]
วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2560 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูกับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง กับ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ อันประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิงส์ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลาสัมปทาน 33 ปี 3 เดือน แบ่งเป็นระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน (39 เดือน) และดำเนินการงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง 30 ปี
วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ราคาหุ้น บีทีเอส แย่ที่สุดในรอบ12ปีสามเดือนสองสัปดาห์ ปินที่ 4.40 บาท โดยก่อนหน้านี้วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดนเทขายราคาหุ้นลดลง -17.95%[6] ภายในวันเดียว[7]
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้นสามัญ | สัดส่วนการถือหุ้น |
1 | นาย คีรี กาญจนพาสน์ | 4,160,394,752 | 31.60% |
2 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 1,333,719,226 | 10.13 % |
3 | นาย กวิน กาญจนพาสน์ | 745,664,295 | 5.66% |
4 | สำนักงานประกันสังคม | 421,746,300 | 3.20% |
5 | บริษัท เค ทู เจ โฮลดิ้ง จำกัด | 400,818,000 | 3.04% |
ปัจจุบัน บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกอบธุรกิจทั้งหมดสี่ด้าน โดยธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งมวลชน และธุรกิจสื่อโฆษณาเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยหน่วยธุรกิจต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มีบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนภายในกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งมวลชน ดังนี้
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ให้บริการสื่อโฆษณาผ่านบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับสิทธิ์ในการบริหารโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และตามอาคารต่าง ๆ และบริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท มาสเตอร์แอด จำกัด (มหาชน) (MACO) และบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PLANB) ในสื่อโฆษณาบริเวณตอม่อโครงการรถไฟฟ้า อาคารพาณิชย์ และท่าอากาศยาน[14]
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผ่านบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งลงทุนร่วมกับแสนสิริ, อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า[15]
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยได้แก่ บริษัท แคพริคอร์น ฮิลล์ จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจถือครองที่ดิน
บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ได้ลงทุนในหน่วยธุรกิจอื่น ๆ เช่น การบริหารโรงแรม ธุรกิจห้องอาหารจีน ธุรกิจโปรแกรมสะสมคะแนน แครอท รีวอร์ดส และธุรกิจพัฒนาซอฟแวร์[16]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.