โรเจอร์ เฟเดอเรอร์
นักเทนนิสชาวสวิส / From Wikipedia, the free encyclopedia
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (เยอรมัน: Roger Federer, ออกเสียง: [ˈrɔdʒər ˈfeːdərər];[2] เกิด: 8 สิงหาคม ค.ศ. 1981) เป็นอดีตนักเทนนิสอาชีพชายชาวสวิส เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมในประเภทชายเดี่ยว 20 สมัย รวมถึงสถิติแชมป์วิมเบิลดัน 8 สมัย เฟเดอเรอร์ยังครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของโลกติดต่อกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 237 สัปดาห์ตั้งแต่ ค.ศ. 2004–2008[3] และเป็นผู้เล่นชายที่ครองตำแหน่งอันดับ 1 ด้วยจำนวนสัปดาห์รวมสูงที่สุดเป็นอันดับสองจำนวน 310 สัปดาห์[4] และครองตำแหน่งมือวางอันดับ 1 เมื่อจบฤดูกาล 5 ครั้ง[5] เขาคว้าแชมป์การแข่งขันในประเภทชายเดี่ยว 103 รายการ[6] ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจาก จิมมี คอนเนอส์ (109) เขายังเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นชาย (ร่วมกับคอนเนอส์) ที่ลงแข่งขันประเภทชายเดี่ยวมากกว่า 1,500 นัด[7] เฟเดอเรอร์ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมทั้งเป็นนักกีฬาชาวสวิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล[8][9][10]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เฟเดอเรอร์ในปี 2015 | |
ประเทศ (กีฬา) | สวิตเซอร์แลนด์ |
---|---|
ถิ่นพำนัก | รัฐบาเซิล-ลันท์ชัฟท์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ |
วันเกิด | (1981-08-08) 8 สิงหาคม ค.ศ. 1981 (42 ปี) บาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ |
ส่วนสูง | 1.85 m (6 ft 1 in)[1] |
เทิร์นโปร | 1998 |
ถอนตัว | 2022 |
การเล่น | มือขวา (แบ็กแฮนด์มือเดียว) |
ผู้ฝึกสอน | เซเฟอริน ลูธี (2007–2022)
อิวาน ลูบิซิช (2016–2022) สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก (2014–2015) |
เงินรางวัล | 130,594,339 ดอลลาร์สหรัฐ |
เว็บไซต์ทางการ | rogerfederer |
เดี่ยว | |
สถิติอาชีพ | 1251–275 (82.0%) |
รายการอาชีพที่ชนะ | 103 (สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในประเภทชายเดี่ยว) |
อันดับสูงสุด | No. 1 (2 กุมภาพันธ์ 2004) |
ผลแกรนด์สแลมเดี่ยว | |
ออสเตรเลียนโอเพน | ชนะเลิศ (2004, 2006, 2007, 2010, 2017, 2018) |
เฟรนช์โอเพน | ชนะเลิศ (2009) |
วิมเบิลดัน | ชนะเลิศ (2003, 2004, 2005, 2006, 2007, 2009, 2012, 2017) |
ยูเอสโอเพน | ชนะเลิศ (2004, 2005, 2006, 2007, 2008) |
การแข่งขันอื่น ๆ | |
Tour Finals | ชนะเลิศ (2003, 2004, 2006, 2007, 2010, 2011) |
Olympic Games | เหรียญเงิน (2012) |
คู่ | |
สถิติอาชีพ | 131–92 (58.7%) |
รายการอาชีพที่ชนะ | 8 |
อันดับสูงสุด | No. 24 (9 มิถุนายน ค.ศ.2003) |
ผลแกรนด์สแลมคู่ | |
ออสเตรเลียนโอเพน | 3R (2003) |
เฟรนช์โอเพน | 1R (2000) |
วิมเบิลดัน | QF (2000) |
ยูเอสโอเพน | 3R (2002) |
การแข่งขันคู่อื่น ๆ | |
Olympic Games | เหรียญทอง (2008) |
การแข่งขันแบบทีม | |
Davis Cup | ชนะเลิศ (2014) |
Hopman Cup | ชนะเลิศ (2001, 2018, 2019) |
ลายมือชื่อ | |
Olympic medal record | |
อัปเดตล่าสุดเมื่อ: 15 กันยายน 2022 |
เฟเดอเรอร์เริ่มเล่นอาชีพในปี 1998 และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงทศวรรษ 2000 เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกในวิมเบิลดันปี 2003 ก่อนจะขึ้นสู่ตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ครั้งแรกในปี 2004[11] ซึ่งเป็นปีที่เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ถึงสามรายการ รวมทั้งแชมป์เอทีพี ไฟนอล และทำสถิตินี้ได้อีกสองครั้งในปี 2006 และ 2007[lower-alpha 1] ในช่วงเวลานั้น เขายังทำสถิติคว้าแชมป์วิมเบิลดันและยูเอสโอเพนติดต่อกัน 5 สมัย และนับตั้งแต่ปี 2003–2009 เขาเข้าชิงชนะเลิศแกรนด์สแลมได้มากถึง 21 จาก 28 รายการ ก่อนจะคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ครบทุกรายการในอาชีพภายหลังได้แชมป์เฟรนช์โอเพนปี 2009[12] หลังจากแพ้ ราฟาเอล นาดัล คู่แข่งคนสำคัญในรอบชิงชนะเลิศมา 3 ครั้งก่อนหน้านั้น ในปีนั้นเขายังคว้าแชมป์แกรนด์สแลมรายการที่ 15 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในขณะนั้นแซงพีต แซมพราส หลังจากคว้าแชมป์วิมเบิลดัน
อย่างไรก็ตาม การก้าวขึ้นมาของนาดัลและนอวาก จอกอวิช ทำให้ความสำเร็จของเฟเดอเรอร์ลดลงไปในทศวรรษต่อมา ตั้งแต่ปี 2011–2016 เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเพิ่มได้เพียงรายการเดียว แต่ยังคว้าเหรียญเงินประเภทชายเดี่ยวในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ซึ่งเป็นเหรียญที่สองของเขาหลังจากได้เหรียญทองประเภทคู่ในปี 2008 และพาทีมสวิตเซอร์แลนด์คว้าแชมป์เดวิส คัพ[lower-alpha 2] สมัยแรกในปี 2014 ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าในปี 2016 และกลับมาประสบความสำเร็จในปี 2017–18 โดยคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเพิ่ม 3 รายการ รวมถึงเอาชนะนาดัลในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียนโอเพน 2017[13] ตามด้วยการแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 8 มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นชาย[14] ต่อมาในปี 2018 เขาคว้าแชมป์ออสเตรเลียนสมัยที่ 6 ทำสถิติเป็นนักเทนนิสชายคนแรกที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลม 20 รายการ และทำสถิติเป็นผู้เล่นมือวางอันดับ 1 ที่มีอายุมากที่สุดในวัย 36 ปี[15]
เฟเดอเรอร์ได้รับรางวัลนักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปีของลอริอุส 5 สมัย (สถิติสูงสุด),[16] รางวัลนักเทนนิสยอดเยี่ยมของเอทีพี 5 สมัย[17] และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมจากการโหวตของเพื่อนนักเทนนิส 13 สมัย (สถิติสูงสุด) เขาถือเป็นผู้เล่นขวัญใจแฟนเทนนิสทั่วโลก[18] โดยได้รับรางวัลขวัญใจอันดับหนึ่งจากการโหวตผ่านเว็บไซต์ของเอทีพีทุกปีตั้งแต่ปี 2003–2022[19] เฟเดอเรอร์ได้รับการจัดอันดับโดยไทม์ 100 ให้เป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกในปี 2018[20] เขาเป็นชาวสวิสคนแรกที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีรูปอยู่ในแสตมป์และเหรียญที่ระลึกของสวิตเซอร์แลนด์[21][22] และยังติดอันดับ 1 ใน 10 นักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดของโลกทุกปี[23] และเป็นนักกีฬาที่ทำเงินรางวัลมากที่สุดในโลกในปี 2020 ด้วยรายได้ 100 ล้านดอลลาร์[24] โดยถือเป็นนักเทนนิสคนแรกที่ทำได้ เขาก่อตั้งมูลนิธิ Roger Federer Foundation ในปี 2003 เพื่อช่วยเหลือเด็กในทวีปแอฟริกา และเป็นผู้ริเริ่มการแข่งขัน เลเวอร์ คัพ[lower-alpha 3] ในปี 2017 และยังเคยดำรงตำแหน่งประธานสภานักเทนนิสของเอทีพีตั้งแต่ ค.ศ. 2008–2014[25] จากปัญหาการบาดเจ็บและสภาพร่างกายที่ถดถอยลง ส่งผลให้เฟเดอเรอร์ประกาศเลิกเล่นอาชีพในเดือนกันยายน ค.ศ. 2022