![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e6/Noto_Emoji_KitKat_263a.svg/langth-640px-Noto_Emoji_KitKat_263a.svg.png&w=640&q=50)
เอโมจิ
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการส่งข้อความอิเล็กทรอนิกส์หรือตามเว็บเพจ / From Wikipedia, the free encyclopedia
เอโมจิ (ญี่ปุ่น:
![Thumb image](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/e/e6/Noto_Emoji_KitKat_263a.svg/180px-Noto_Emoji_KitKat_263a.svg.png)
อีโมจิมีต้นกำเนิดมาจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ของญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2542 โดยนายชิเกตากะ คูริตะ ผู้มีอาชีพนักออกแบบของบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเพื่อช่วยให้การสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นง่ายขึ้น ในครั้งนั้นเขาได้คิดค้นอีโมจิรวมทั้งหมด 176 แบบ[4]
ในคริสต์ทศวรรษ 2010 เอโมจิได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังจากที่มีการเพิ่มเอโมจิเข้าไปในระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายระบบ[5][6][7] ปัจจุบันถือว่าเอโมจิเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมประชานิยมในโลกตะวันตก[8] ในปี พ.ศ. 2558 ออกซฟอร์ดดิกชันนารีส์ ประกาศให้เอโมจิรูปใบหน้ากับน้ำตาแห่งความยินดี (Face with Tears of Joy emoji) เป็นคำแห่งปี[9]