เรือประจัญบานชั้นยามาโตะ
ชั้นเรือประจัญบานของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น / From Wikipedia, the free encyclopedia
เรือประจัญบานชั้นยามาโตะ (ญี่ปุ่น: 大和型戦艦; โรมาจิ: Yamato-gata senkan) เป็นเรือประจัญบานของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น (IJN) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระวางขับน้ำเต็มที่ถึง 72,000 ตัน ทำให้ยะมะโตะเป็นชั้นเรือประจัญบานที่ใหญ่ที่สุดและติดอาวุธหนักที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เรือชั้นนี้ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 460 มม. (18.1 นิ้ว) 9 กระบอกซึ่งเป็นปืนขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการติดตั้งให้กับเรือรบ กระสุนปืนของแต่ละกระบอกหนัก 1,360 กก. มีพิสัยการยิงไกลกว่า 42 กม. เรือประจัญบานของชั้นนี้สร้างแล้วเสร็จตามแผน 2 ลำ (ยามาโตะ และ มูซาชิ) ส่วนลำที่ 3 (ชินะโนะ) ถูกดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินระหว่างการก่อสร้าง
ยามาโตะ ค.ศ. 1941 | |
ชั้นเรือโดยสรุป | |
---|---|
สร้างที่: | อู่ทหารเรือคูเระ อู่ทหารเรือโยโกซูกะ อู่เรือนางาซากิมิตซูบิชิ |
ผู้ใช้งาน: | กองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น |
ชั้นก่อนหน้า: | ชั้นนะงะโตะ (สร้างจริง) ชั้นหมายเลข 13 (แผนที่จะสร้าง) |
ราคา: | 250,000,897 เยน[1] |
สร้างเมื่อ: | 1937–1942 |
ปฎิบัติหน้าที่: | 1941–1945 |
แผนที่จะสร้าง: | 5 |
สร้างเสร็จ: | 3 (เรือประจัญบาน 2 ลำ, แปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ) |
ยกเลิก: | 2 |
สูญเสีย: | 3 |
ลักษณะเฉพาะ ตามแบบสุดท้าย (A-140F6) | |
ประเภท: | เรือประจัญบาน |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): |
68,200 ตัน[A 1] (ทดสอบ) 69,988 ตัน (มาตรฐาน) [2] 72,000 ตัน (เต็มที่) [2] |
ความยาว: |
256 ม. (แนวน้ำ) [3] 263 ม. (ตลอดลำ) [3] |
ความกว้าง: | 38.9 ม.[3] |
กินน้ำลึก: | 10.4 ม. |
ระบบพลังงาน: |
หม้อน้ำแบบคัมปง 12 หม้อ ขับกังหันไอน้ำ 4 กังหัน 150,000 แรงม้า (110 MW) [3] |
ระบบขับเคลื่อน: |
ใบจักร 4 พวง พวงละ 3 กลีบ เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร |
ความเร็ว: | 27 นอต (50 กม./ชม.) [3] |
พิสัยเชื้อเพลิง: | 7,200 ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 16 นอต[3] |
อัตราเต็มที่: | 2,767 นาย[4] |
ยุทโธปกรณ์: |
9 x 46.0-เซนติเมตร (18.1 นิ้ว) (3×3) [2] 6 × 15.5 ซm (6.1 in) (2×3) [2] 12 × 12.7 ซm (5 in) (6×2) [2] 24 × 25 มม. (0.98 นิ้ว) AA (8×3) 26 × 13 มม. (0.51 นิ้ว) AA (2×2) [5] |
เกราะ: |
• หน้าป้อมปืนหลัก 650 มม. (26 นิ้ว) [5] • เกราะข้าง 410 มม. (16 นิ้ว) (มูซาชิ-400 มม. (16 นิ้ว)) [5] เอียง 20 องศา • ดาดฟ้าเรือ (75%) 200 มม. (8 นิ้ว) • ดาดฟ้าเรือ (25%) 230 มม. (9 นิ้ว) [5] |
อากาศยาน: |
7 (ยะมะโตะ, มูซาชิ) 47 (ชินะโนะ) |
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: | เครื่องดีด 2 เครื่อง (ยะมะโตะ, มูซาชิ) |
จากภัยคุกคามจากเรือดำน้ำและเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทั้งยะมะโตะและมูซาชิใช้เวลาส่วนใหญ่ในฐานทัพเรือที่ประเทศบรูไน, ทรูก (Truk), และ คุเระ (Kure) โดยจัดวางกำลังหลายโอกาสเพื่อรับมือกับการตีโฉบฉวย (raid) ฐานทัพญี่ปุ่นของสหรัฐ ก่อนเข้าร่วมในยุทธนาวีอ่าวเลย์เต โดยอยู่ในกองกำลังกลางใต้บังคับบัญชาของพลเรือเอกคุริตะ (Kurita) มูซาชิอับปางลงระหว่างการรบกับเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐ ชินะโนะจมลงใน 10 วันหลังจากการขึ้นระวางในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1944 โดยเรือดำน้ำ ยูเอสเอส อาร์เชอร์-ฟิช (USS Archer-Fish) ส่วนยะมะโตะอับปางจมลงในเดือนเมษายน ค.ศ. 1945 ระหว่างปฏิบัติการเท็งโง
วันก่อนที่ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ายึดครองญี่ปุ่น นายทหารหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ทำลายบันทึก ภาพวาด และรูปถ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรือประจัญบานชั้นยะมะโตะไปเกือบทั้งหมด เหลือแต่เพียงบันทึกลักษณะและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วน การทำลายเอกสารมีผลอย่างมาก จนถึง ค.ศ. 1948 ภาพถ่ายของยะมะโตะและมูซาชิมีเพียงที่ถ่ายโดยเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐที่มีส่วนในการโจมตีเรือรบทั้งสองเท่านั้น แม้จะมีรูปถ่ายและข้อมูลจากเอกสารที่เหลือรอดมาจากการทำลายถูกเปิดเผยมาบ้างเมื่อเวลาผ่านไป แต่การสูญเสียบันทึกส่วนสำคัญทำให้การศึกษาเรือประจัญบานชั้นยะมะโตะเป็นไปค่อนข้างยากยิ่ง[6][7] เพราะจากการขาดเอกสารข้อมูลนี่เอง ทำให้ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับยะมะโตะนั้น มาจากการสัมภาษณ์นายทหารญี่ปุ่นหลังญี่ปุ่นยอมจำนน[8]