![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/a/a2/Southern_Sudan_Civil_War.svg/langth-640px-Southern_Sudan_Civil_War.svg.png&w=640&q=50)
สงครามกลางเมืองซูดานใต้
From Wikipedia, the free encyclopedia
สงครามกลางเมืองซูดานใต้ เป็นสงครามกลางเมืองในซูดานใต้ระหว่างกองทัพของรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 ประธานาธิบดีกีร์กล่าวหา Riek Machar อดีตรองประธานาธิบดีกับผู้อื่นอีก 10 คนว่าพยายามก่อรัฐประหาร[52][53] Machar ปฏิเสธข้อกล่าวหาและหลบหนีไปนำ SPLM – ฝ่ายต่อต้าน (SPLM-IO)[54] ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่าง Sudan People's Liberation Movement (SPLM) กับ SPLM-IO ซึ่งภายหลังลุกลามเป็นสงครามกลางเมือง ทหารยูกันดาสู้รบร่วมกับกำลังรัฐบาลซูดานใต้ต่อกบฏ[55] สหประชาชาตินำผู้รักษาสันติภาพเข้าในประเทศตามภารกิจสหประชาชาติในซูดานใต้ (UNMISS)[56]
สงครามกลางเมืองซูดานใต้ | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความรุนแรงระหว่างชาติพันธุ์ในประเทศซูดานใต้[1][2] และสงครามกลางเมืองซูดาน | ||||||||
![]() สถานการณ์ทางทหารในซูดานใต้ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2020
ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลซูดานใต้
ภายใต้การควบคุมของSudan People's Liberation Movement-in-Opposition
ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลซูดาน
(สำหรับแผนที่สถานการณ์ทางทหารปัจจุบันที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ ดู) | ||||||||
| ||||||||
ผู้มีส่วนร่วม | ||||||||
กองกำลังพันธมิตร:
![]() รัฐพันธมิตร: ![]() ![]() |
|
TFNF[25] ![]() | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | ||||||||
![]() (ประธานาธิบดีซูดานใต้) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() ![]() ![]() |
![]() (ผู้นำ SPLM-IO) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Yoanis Okiech †[25][35] Paul Malong Awan (ตั้งแต่ ค.ศ. 2018) | ||||||
กำลัง | ||||||||
SPLA: 150,000 (2015)[36] ยูกันดา: มากกว่า 5,000 นาย (2014)[37] |
12,523 นาย (2015)[15][38] ทหาร 15,000 นาย (2019)[39] ตำรวจ 1,800 นาย (2019)[39] |
SPLM-IO: ผู้แปรพักตร์อย่างน้อย 10,000 นาย[40][41][42] Nuer White Army: 25,000 (2013)[18][43] NAS: มากกว่า 20,000 นาย (NAS อ้าง, 2017)[44] SSPA: 15,000 (SSPA อ้าง, 2017)[45] | ||||||
ความสูญเสีย | ||||||||
เสียชีวิต 10,659 นาย, บาดเจ็บ 9,921 นาย (มกราคม – ตุลาคม ค.ศ. 2014)[46]![]() | ผู้รักษาสันติภาพเสียชีวิต 5 คน (ณ สิงหาคม ค.ศ. 2015)[48] | ไม่ทราบ | ||||||
เสียชีวิตอย่างรุนแรง 190,000 คน (เมษายน ค.ศ. 2018)[49] เสียชีวิตจากการเกี่ยวข้องกับสงครามที่ไม่รุนแรง 193,000 คน (เมษายน ค.ศ. 2018)[49] รวมเสียชีวิต 383,000 คน (เมษายน ค.ศ. 2018) | ||||||||
พลเมืองหนีออกจากซูดานใต้มากกว่า 1.5 ล้านคนและพลัดถิ่นภายในประเทศมากกว่า 2.1 ล้านคน (ณ ค.ศ. 2017)[50] พลเมืองเคนยาเสียชีวิต 4 คน[51] |
คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากสงครามประมาณ 400,000 คน ณ เมษายน ค.ศ. 2018 ซึ่งรวมความโหดร้ายที่สำคัญอย่างการสังหารหมู่ที่ Bentiu ใน ค.ศ. 2014[49] ถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายมีผู้สนับสนุนการแบ่งแยกทางชาติพันธุ์ในประเทศ แต่การต่อสู้ที่ตามมาก็มีนัยยะทางชาติพันธุ์ กลุ่มชาติพันธ์ Dinka ของกีร์ถูกกล่าวหาว่าโจมตีกลุ่มชาติพันธุ์อื่นและกลุ่มชาติพันธ์ุ Nuer ของ Machar ก็ถูกกล่าวหาว่าโจมตีกลุ่มชาติพันธุ์ Dinka[57] มีประชากรพลัดถิ่นมากกว่า 4 ล้านคน ในจำนวนนี้มีประมาณ 1.8 ล้านคนที่พลัดถิ่นในประเทศ และประมาณ 2.5 ล้านที่หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน โดเฉพาะประเทศยูกันดาและซูดาน[58] การต่อสู่ที่ใจกลางพื้นที่การเกษตรทางตอนใต้ของประเทศทำให้มีประชากรอดอยากสู่ถึง 6 ล้านคน[59] ทำให้ในบางพื้นที่เกิดทุกภิกขภัยขึ้น[60] เศรษฐกิจของประเทศก็ได้รับผลกระทบ โดยรายงานจาก IMF ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017 ระบุว่ารายได้จริงถูกลดครึ่งหนึ่งมาตั้งแต่ ค.ศ. 2013 และอัตราเงินเฟ้อมีมากกว่า 300% ต่อปี[61]