วินโดวส์วิสตา
From Wikipedia, the free encyclopedia
วินโดวส์วิสตา (Windows Vista) คือระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ ที่พัฒนาต่อมาจากวินโดวส์เอกซ์พี และวินโดวส์เซิร์ฟเวอร์ 2003 ปัจจุบันได้วางจำหน่ายให้กับองค์กรธุรกิจวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 และวางจำหน่ายให้กับผู้ใช้ทั่วไปวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2550
![]() | |
ผู้พัฒนา | ไมโครซอฟท์ |
---|---|
ตระกูลระบบปฏิบัติการ | ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ |
รหัสต้นฉบับ | Closed source / Shared source[1] |
เผยแพร่สู่ กระบวนการผลิต | RTM: 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549; Vol. Lic.: 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549; Retail: 30 มกราคม พ.ศ. 2550 |
รุ่นล่าสุด | 6.0 Service Pack 2 (SP2) (Build 6002) (6002.18005.090410-1830[2]) / 28 เมษายน ค.ศ. 2009 (2009-04-28)[3] |
วิธีการอัปเดต | Windows Update, Windows Server Update Services, SCCM |
แพลตฟอร์ม | IA-32, x86-64 |
ชนิดเคอร์เนล | Hybrid |
สัญญาอนุญาต | MS-EULA |
รุ่นก่อนหน้า | วินโดวส์เอ็กซ์พี (2001) |
รุ่นถัดไป | วินโดวส์ 7 (2009) |
เว็บไซต์ทางการ | เว็บไซต์ทางการ |
สถานะการสนับสนุน | |
ยุติการสนับสนุน |
ไมโครซอฟท์ประกาศใช้ชื่อ วินโดวส์วิสตา อย่างเป็นทางการแก่สื่อมวลชนในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 แทนที่ชื่อรหัส ลองฮอร์น (Longhorn) โดยคำว่า วิสตา (Vista) ในภาษาอังกฤษ หมายถึงมุมมอง หรือทิวทัศน์
วินโดวส์วิสตาได้มีความสามารถใหม่หลายร้อยประการ ไม่ว่าจะเป็นระบบแสดงผลกราฟิกใหม่ โปรแกรมใหม่ ความสามารถค้นหาที่ดีกว่าเดิม รวมถึงระบบองค์ประกอบภายในอย่างในส่วนเน็ตเวิร์ก ระบบเสียง การพิมพ์ และการแสดงผลที่ได้ถูกออกแบบและเขียนขึ้นมาใหม่ และยังได้รวมดอตเน็ตเฟรมเวิร์ก 3.0 ซึ่งช่วยผู้พัฒนาระบบสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี วินโดวส์วิสตา ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดาผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่หลังจากออกเวอร์ชันทางการแล้ว ก็มีผู้ใช้ส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจและกลับไปใช้ วินโดวส์เอกซ์พี เนื่องจาก วินโดวส์วิสตา ยังไม่ค่อยตอบสนองต่อผู้ใช้ทางบ้านเท่าที่ควร กล่าวคือ วินโดวส์วิสตา ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
หลังจากนั้น ไมโครซอฟท์ได้หยุดการสนับสนุนในระยะ mainstream support บนวินโดวส์วิสตา ในวันที่ 10 เมษายน 2555 และในระยะ Extended support ในวันที่ 11 เมษายน 2560