Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วาซีลี อเล็กซานโดรวิช อาร์ฮีปอฟ (รัสเซีย: Василий Александрович Архипов, สัทอักษรสากล: [vɐˈsʲilʲɪj ɐlʲɪkˈsandrəvʲɪtɕ arˈxʲipəf], 30 มกราคม ค.ศ. 1926 – 19 สิงหาคม ค.ศ. 1998) เป็นนายทหารเรือโซเวียตที่คัดค้านการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ระหว่างวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา อาร์ฮีปอฟเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการและรองผู้บังคับการเรือดำน้ำพลังดีเซล B-59 ที่ปฏิเสธคำอนุมัติของผู้บังคับการในการโจมตีกองทัพเรือสหรัฐด้วยตอร์ปิโดนิวเคลียร์ ซึ่งหากการโจมตีเกิดขึ้นอาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์[1]
วาซีลี อาร์ฮีปอฟ | |
---|---|
ชื่อพื้นเมือง | Василий Александрович Архипов |
เกิด | 30 มกราคม ค.ศ. 1926 Zvorkovo, แคว้นมอสโก, สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตรัสเซีย, สหภาพโซเวียต |
เสียชีวิต | 19 สิงหาคม ค.ศ. 1998 ปี) Zheleznodorozhny, แคว้นมอสโก, รัสเซีย | (72
รับใช้ | สหภาพโซเวียต |
แผนก/ | กองทัพเรือโซเวียต |
ประจำการ | 1945–1980s |
ชั้นยศ | พลเรือโท |
การยุทธ์ | |
บำเหน็จ |
|
คู่สมรส | โอลกา อาร์ฮีโปวา |
ทอมัส แบรนตัน ผู้อำนวยการสำนักหอจดหมายเหตุความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวในค.ศ. 2002 ว่าอาร์ฮีปอฟนั้นได้ "ปกป้องโลกไว้"[2]
อาร์ฮีปอฟเกิดในครอบครัวชาวนาใกล้กรุงมอสโกในค.ศ. 1926 เขาเรียนที่โรงเรียนนายเรือ Pacific Higher Naval School และปฏิบัติงานบนเรือกวาดทุ่นระเบิดในสงครามโซเวียต–ญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945 หลังจากนั้นเขาถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนนายเรือ Caspian Higher Naval School หลังเรียนจบในค.ศ. 1947 อาร์ฮีปอฟปฏิบัติงานบนเรือดำน้ำในทะเลดำ ทะเลเหนือและทะเลบอลติก[3] ในค.ศ. 1961 เขาได้รับตำแหน่งรองผู้บังคับการเรือดำน้ำ K-19 แต่ในการเดินทางครั้งแรกเรือประสบปัญหาระบบหล่อเย็นล้มเหลว ทำให้ผู้บังคับการนิโคไล ซาเตเยฟสั่งซ่อมแซมโดยด่วนเพื่อป้องกันการหลอมละลายนิวเคลียร์ แม้จะซ่อมแซมระบบสำเร็จแต่ลูกเรือทั้งหมดได้รับรังสี ในช่วงเวลาสองปีมีลูกเรือกว่า 20 คนเสียชีวิตด้วยรังสีจากเหตุการณ์นี้[4]
วันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1962 ระหว่างวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา กลุ่มเรือพิฆาต 11 ลำและเรือบรรทุกอากาศยาน USS Randolph ของกองทัพเรือสหรัฐตรวจพบเรือดำน้ำพลังดีเซล B-59 ในน่านน้ำสากลใกล้คิวบา กองทัพเรือสหรัฐหย่อนระเบิดน้ำลึกลงไปเพื่อกดดันให้เรือดำน้ำลอยตัวขึ้นมาระบุตัวตน ด้านเรือดำน้ำไม่ได้รับคำสั่งจากมอสโกมาหลายวันและอยู่ลึกเกินกว่าจะรับสัญญาณคลื่นวิทยุได้ ลูกเรือจึงไม่ทราบว่าสงครามเริ่มขึ้นแล้วหรือไม่[5][6] วาเลนติน ซาวิตสกี ผู้บังคับการเรือดำน้ำคาดว่าสงครามเริ่มขึ้นแล้วและต้องการสั่งยิงตอร์ปิโดนิวเคลียร์[7]
อย่างไรก็ตามการอนุมัติคำสั่งยิงต้องได้รับมติเอกฉันท์จากนายทหารอาวุโสบนเรือสามนายได้แก่ ผู้บังคับการซาวิตสกี นายทหารการเมืองมาสเลนนิคอฟและนายทหารเสนาธิการอาร์ฮีปอฟ ซึ่งมีเพียงอาร์ฮีปอฟคนเดียวที่คัดค้านคำอนุมัติ[8] ที่สุดแล้วอาร์ฮีปอฟเกลี้ยกล่อมให้ซาวิตสกีนำเรือขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อรอรับคำสั่งจากมอสโกได้สำเร็จ ก่อนจะเดินทางกลับสหภาพโซเวียต[3]
เมื่อกลับถึงสหภาพโซเวียต ผู้บังคับการต้องรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อจอมพลอันเดรย์ เกรชโค ผู้ทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโซเวียต เกรชโคโกรธจัดที่ลูกเรือล้มเหลวในการทำภารกิจลับนี้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรายงานว่าเกรชโคนั้น "ปาแว่นตาของตนลงบนโต๊ะอย่างเดือดดาลจนแว่นแตกละเอียด แล้วเดินออกจากห้องไปในทันที"[9]
โรเบิร์ต แม็กนามารา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบากล่าวในค.ศ. 2002 ว่า "เราเฉียดเข้าใกล้" สงครามนิวเคลียร์ "มากกว่าที่เรารู้ในตอนนั้น"[10] ด้านอาร์เธอร์ เอ็ม. เชลซินเจอร์ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดีและนักประวัติศาสตร์กล่าวว่า "นี่ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในสงครามเย็น แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์มวลมนุษย์"[11]
หลังเหตุการณ์วิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา อาร์ฮีปอฟยังคงปฏิบัติงานในกองทัพเรือโซเวียต เขาได้รับยศพลเรือตรีในค.ศ. 1975 และพลเรือโทในค.ศ. 1981 ก่อนจะเกษียณช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ภายหลังอาร์ฮีปอฟย้ายไปอยู่ที่เมืองคูปาฟนาจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไตในค.ศ. 1998 ซึ่งอาจมีส่วนมาจากรังสีที่เขาได้รับในค.ศ. 1961[12]
ด้านชีวิตส่วนตัว อาร์ฮีปอฟแต่งงานกับโอลกา อาร์ฮีโปวา ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คนชื่อ เยเลนา
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.