ยูเอสบี-ซี
From Wikipedia, the free encyclopedia
ยูเอสบี-ซี (อังกฤษ: USB-C; รู้จักกันในชื่อ USB Type-C) เป็นระบบตัวเชื่อมต่อ USB 24 พิน ที่มีตัวเชื่อมต่อแบบสมมาตรในการหมุน[2][3] การกำหนด C อ้างอิงถึงการกำหนดค่าทางกายภาพหรือฟอร์มแฟคเตอร์ของตัวเชื่อมต่อเท่านั้น และไม่ควรสับสนกับความสามารถเฉพาะของตัวเชื่อมต่อ ซึ่งกำหนดโดยข้อกำหนดเฉพาะในการถ่ายโอน (เช่น USB 3.2) ขั้วต่อ USB-C มีสมมาตรในการหมุน ได้แก่ สามารถเสียบปลั๊กเข้าไปในเต้ารับในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็ได้
ประเภท | ขั้วต่อเสียง / วิดีโอ / ข้อมูล / กระแสไฟแบบดิจิทัล | ||
---|---|---|---|
ผู้ออกแบบ | ฟอรัมผู้ใช้ USB | ||
ออกแบบเมื่อ | 11 สิงหาคม 2014 (เผยแพร่แล้ว)[1] | ||
แทนที่ |
ไลต์นิง Micro-USB | ||
พิน | 24 |
USB Type-C Specification 1.0 ได้รับการเผยแพร่โดยฟอรัมผู้ใช้ยูเอสบี (USB-IF) และสรุปผลในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2014[4] ต่อมาได้รับการพัฒนาในเวลาเดียวกันกับข้อกำหนด USB 3.1 ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2016 ไออีซีนำมาใช้เป็น "IEC 62680-1-3"[5]
อุปกรณ์ที่มีตัวเชื่อมต่อ Type-C ไม่จำเป็นต้องใช้ยูเอสบี, ยูเอสบีพาวเวอร์เดลิเวอรี หรืออัลเทอเนตโหมด ใด ๆ ซึ่งตัวเชื่อมต่อ Type-C นั้นเป็นพื้นฐานเทคโนโลยีหลายอย่าง แต่ที่รับคำสั่งได้มีเพียงไม่กี่รายการเท่านั้น[6]
USB 3.2 เปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ. 2017 มาแทนที่มาตรฐาน USB 3.1 โดยจะรักษาโหมดข้อมูล USB 3.1 SuperSpeed และ SuperSpeed+ ที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มโหมดการถ่ายโอน SuperSpeed+ ใหม่สองโหมดผ่านขั้วต่อ USB-C โดยใช้การทำงานแบบสองเลน ด้วยอัตราข้อมูล 10 และ 20 จิกะบิตต่อวินาที (ประมาณ 1.2 และ 2.5 จิกะไบต์ต่อวินาที)
USB4 ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2019 เป็นมาตรฐานโปรโตคอลการถ่ายโอนยูเอสบีแรกที่ใช้งานได้ผ่าน USB-C เท่านั้น