Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช [1] เป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์ในกรุงเทพ พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้ประชาชนบุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญแก่นักศึกษาและผู้ที่มีความสนใจทางการแพทย์[2] ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์การแพทย์ขนาดเล็กเจ็ดแห่ง คือ:[3][4]
|
|
พิพิธภัณฑ์แห่งแรกในศิริราช ก่อตั้งโดย แอลเลอร์ เอลลิส นักพยาธิวิทยาชาวอเมริกันและเป็นพยาธิแพทย์คนแรกของไทย ที่ริเริ่มการเก็บรวบรวมอวัยวะผู้ป่วยที่ผ่านการตรวจพิสูจน์โรคแล้วไว้สำหรับสอนในวิชาพยาธิวิทยา[5][4][6] พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงตัวอย่างอวัยวะและโรคที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ เช่น ตัวอย่างความผิดปกติแต่กำเนิด โรคหัวใจ โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ[6]
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดย เอ็ดการ์ เดวิดสัน คองดอน โดยมีการจัดแสดงอวัยวะมากกว่า 2,000 ชิ้นเพื่อใช้ในการเรียนรู้วิชากายวิภาคศาสตร์ ลักษณะการจัดแสดงแบ่งเป็น 2 ห้อง[7][8]
ภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีสิ่งจัดแสดงที่สำคัญคือ เส้นประสาททั้งร่างกาย หลอดเลือดแดงทั้งร่างกาย กล้ามเนื้อและหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นผลงานที่หาดูได้ยาก[7][8]
ใน พ.ศ. 2503 สุด แสงวิเชียร แพทย์และนักกายวิภาคศาสตร์ชาวไทย ได้เข้ารวมการขุดค้นแหล่งโบราณคดีที่ ตำบลจรเข้เผือก จังหวัดกาญจนบุรี แหล่งโบราณคดีนี้เป็นแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จากการขุดค้นทำให้ได้ศึกษาเครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องประดับ เครื่องปั้นดินเผาที่ฝังรวมกับโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ จากนั้นจึงรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านั้นมาจัดตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2515[4][9]
ภายในตัวพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรื่องราวและหลักฐานจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เช่นกะโหลกศีรษะของโฮโมอิเร็กตัส เรียกว่า "มนุษย์ลำปาง" ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกับมนุษย์ปักกิ่ง หรือเมื่อประมาณ 1,000,000 ถึง 400,000 ปีก่อน[10] นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือหิน เครื่องปั้นดินเผา ลูกปักและอุปกรณ์ตกแต่งจาก ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง และ ยุคหินใหม่[9][11][12]
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดย วิจิตร ไชยพร ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงตัวอย่างของพยาธิที่นำออกมาจากร่างกายของผู้ป่วย การจัดแสดงจะแสดงลักษณะตัวอย่างพร้อมอธิบายวงจรชีวิตและที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ พยาธิที่นำมาจัดแสดงมีขนาดตั้งแต่ตัวที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จนถึงตัวที่ยาวเป็นเมตร นอกจากพยาธิตัวกลม พยาธิตัวแบน และโปรโตซัวทางการแพทย์แล้ว พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีการจัดแสดงตัวอย่างแมลงนำโรคและสัตว์มีพิษ พร้อมกับวิธีการป้องกันด้วย[4][13][14]
นิติเวชศาสตร์เป็นการนำวิชาแพทย์และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อหาสาเหตุการตายผิดธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดง กะโหลกศีรษะมนุษย์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ได้มาจากเหยื่อที่ถูกฆาตกรรม นอกจากชิ้นส่วนมนุษย์แล้วยังมีวัตถุพยานที่จากคดีด้วย ชิ้นส่วนเหล่านี้มาจากการรวบรวมของสงกรานต์ นิยมเสนในสมัยที่เขาทำงานอยู่
ภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีการจัดแสดงศพของซีอุย ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นที่เป็นที่รู้จักมากในประวัติศาสตร์ไทย ซีอุยเป็นชาวจีนที่เกิดใน พ.ศ. 2470 ที่ตำบลฮุนไหล จังหวัดซัวเถา ประเทศจีน ซีอุยถูกระบุว่าใช้ แซ่อึ้ง[15][16] ซีอุยเข้ามาในประเทศไทยในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเข้ามาทำงานเป็นคนสวนในเนินพระ จังหวัดระยอง
ซีอุยถูกตราหน้าว่าเป็นมนุษย์กินคนหลังถูกตั้งข้อหาว่าทำการฆาตกรรมเด็ก 7 คดี[17] ซีอุยถูกจับกุมที่จังหวัดระยองใน พ.ศ. 2501 หลังกำลังพยายามเผาทำลายเหยื่อรายสุดท้าย และออกมายอมรับว่าได้ฆ่าเหยื่อรายสุดท้ายจริง[18][19]
การพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นกินเวลา 9 วัน ก็พิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะจำเลยยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจอุทธรณ์เพราะเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ[20] เขาจึงถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2501[17] และมีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2502 และหลังจากถูกประหารชีวิต โรงพยาบาลศิริราชได้ขอศพเพื่อไปใช้ในศึกษากายวิภาค[3] จากนั้นจึงถูกนำไปจัดแสดงพร้อมติดป้ายอธิบายว่า ซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)[21][22]
ผู้ใหญ่มักจะนำชื่อซีอุยมาขู่ให้เด็ก ๆ กลัว ซึ่งมักจะมีประโยคขู่เด็กที่ว่า "ระวังซีอุยจะมากินตับ"[23] หลังมีกับการเรียกร้องของชาวอำเภอทับสะแก[24] ประกอบกับแคมเปญรณรงค์ให้มีการนำร่างซีอุยออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราชบนเว็บไซต์ Change.org ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562[17] ทำให้ทางโรงพยาบาลได้นำศพออกจากพิพิธภัณฑ์ตามคำเรียกร้องหลังจัดแสดงมานานกว่า 60 ปี[17] ชาวอำเภอทับสะแกยื่นหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าพวกเขาต้องการฝังศพให้ซีอุยอย่างเหมาะสม[25] ครอบครัวของซีอุยไม่มีการเสนอตัวเพื่อนำศพไปดำเนินพิธีการทางศาสนา ทำให้กรมราชทัณฑ์จะเป็นธุระนำร่างซีอุยจากพิพิธภัณฑ์ไปทำการฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2563[25][26]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.