พระเจ้ารามประเดิด
From Wikipedia, the free encyclopedia
พระเจ้ารามประเดิด[1] (พม่า: ခွန်လော, ออกเสียง: [kʰʊ̀ɰ̃ lɔ́]; ค.ศ. 1254–1311) เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 2 แห่งเมืองเมาะตะมะ ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 1307–1311 พระองค์ขึ้นสืบราชบัลลังก์จากพระเจ้าฟ้ารั่วปฐมกษัตริย์ผู้เป็นพระเชษฐาซึ่งสวรรคตโดยไร้รัชทายาท รัชสมัยของพระองค์ต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานจากอาณาจักรล้านนา
พระเจ้ารามประเดิด | |
---|---|
พระเจ้าเมาะตะมะ | |
ครองราชย์ | 28 มกราคม ค.ศ. 1307 – มีนาคม ค.ศ. 1311 |
ก่อนหน้า | พระเจ้าฟ้ารั่ว |
รัชกาลถัดไป | พระเจ้าแสนเมือง |
ประสูติ | 27 มีนาคม ค.ศ. 1254 บ้านเกาะวาน อาณาจักรพุกาม |
สวรรคต | มีนาคม ค.ศ. 1311 (56 พรรษา) ใกล้เมาะตะมะ อาณาจักรหงสาวดี |
พระราชบุตร | พระยาอายลาว พระนางจันทะมังคะละ พระนางตะละชินซอบุต |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์หงสาวดี (ราชวงศ์ฟ้ารั่ว) |
ศาสนา | พุทธศาสนานิกายเถรวาท |
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/10/Burmese_character_k.svg/40px-Burmese_character_k.svg.png)
พระเจ้ารามประเดิดประสูติเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1254 มีพระนามเดิมว่ามะกะตา[2][note 1] โดยพระองค์มีพระเชษฐา 1 พระองค์คือพระเจ้าฟ้ารั่ว และมีพระขนิษฐา 1 พระองค์คือนางอุ่นเรือน[3] เมื่อมะกะโทสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระเจ้าเมาะตะมะใน ค.ศ. 1287[4][5] ก็ได้สถาปนาพระราชอนุชาพระองค์เดียวคือมะกะตาเป็นรัชทายาทเนื่องจากพระองค์มีพระราชธิดาพระองค์เดียว[6]
เมื่อพระเจ้าฟ้ารั่วถูกปลงพระชนม์ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1307 พระองค์จึงได้ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมา แต่พระองค์ต้องใช้เวลาปราบปรามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวรรคตของพระเจ้าฟ้ารั่วนานถึง 2 สัปดาห์ จึงได้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกเมื่อวันที่ 28 มกราคม ปีเดียวกัน
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1311[note 2] นางอุ่นเรือนและสมิงมังละ พระสวามีได้ก่อกบฏเข้ายึดราชบัลลังก์ ระหว่างที่พระเจ้ารามประเดิดเสด็จออกไปคล้องช้างป่าที่เมาะลำเลิง เมื่อพระองค์ทราบข่าวจึงรีบเสด็จกลับแต่ได้พบว่าประตูเมืองถูกปิด พระองค์จึงรีบเสด็จหนีไปยังป่าข้างเมืองแต่ก็ถูกทหารของมินบาละสังหารจนสวรรคต[7][8] ทำให้ราชบัลลังก์ว่างลงกว่า 2 สัปดาห์[note 3] จากนั้นจึงได้มีการอัญเชิญเจ้าอาวพระโอรสของเจ้านางอุ่นเรือนและสมิงมังละขึ้นเป็นพระเจ้าแสนเมือง เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปีเดียวกัน[9]