ผู้ใช้:Jothefiredragon/ทดลองเขียน/ระบบย่อยวินโดวส์สำหรับลินุกซ์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ระบบย่อยวินโดวส์สำหรับลินุกซ์ (Windows Subsystem for Linux หรือ WSL) เป็นคุณลักษณะหนึ่งของวินโดวส์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้งานระบบลินุกซ์ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Virtual machine แยกต่างหากหรือ Multi-booting WSL มีสองเวอร์ชัน: WSL 1 และ WSL 2 โดย WSL 1 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2559 และทำหน้าที่เป็นเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับการรันไฟล์สั่งทำการลินุกซ์ (ในรูปแบบ ELF) โดยการนำการเรียกของระบบลินุกซ์ ไปใช้กับเคอร์เนลวินโดวส์[3] WSL 1 ใช้งานได้บน Windows 10, Windows 10 LTSB/LTSC, Windows 11, [4] Windows Server 2016, Windows Server 2019 และ Windows Server 2022
![]() | |
![]() Bash running on Windows 10 | |
ชื่ออื่น | WSL |
---|---|
นักพัฒนา | Microsoft |
วันที่เปิดตัว | 2 สิงหาคม 2016; 7 ปีก่อน (2016-08-02) |
รุ่นเสถียร | |
รุ่นทดลอง | |
ที่เก็บข้อมูล | github |
ระบบปฏิบัติการ | Windows 10, Windows 10 LTSB/LTSC, Windows Server 2016, Windows Server 2019, Windows 11, Windows Server 2022 |
ก่อนหน้า | Windows Services for UNIX |
ประเภท | Compatibility layer, Virtualization |
สัญญาอนุญาต | Subsystem: Proprietary commercial software; Linux kernel: GNU GPLv2 (only) with some code under compatible GPL variants or under permissive licenses like BSD, MIT |
เว็บไซต์ | learn |
ในเดือนพฤษภาคม 2019 มีการประกาศเปิดตัว WSL 2 [5] แนะนำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น ลินุกซ์เคอร์เนลแท้จริง[6] ผ่านชุดย่อยของคุณสมบัติ Hyper-V WSL 2 แตกต่างจาก WSL 1 ตรงที่ WSL 2 ทำงานภายใน Virtual machine ที่ได้รับการจัดการซึ่งใช้ลินุกซ์เคอร์เนลเต็มรูปแบบ ด้วยเหตุนี้ WSL 2 จึงเข้ากันได้กับไบนารีลินุกซ์มากกว่า WSL 1 เนื่องจากไม่ใช่ทุก syscalls สามารถเรียกใช้ผ่าน WSL 1 ได้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 WSL 2 พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ Windows 10 ผ่านทางโปรแกรม Windows Insider รวมถึง Home edition [7] WSL ไม่สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ Windows 10 ทุกคนตามค่าเริ่มต้น สามารถติดตั้งได้โดยการเข้าร่วมโปรแกรม Windows Insider หรือด้วยตนเองผ่าน ไมโครซอฟท์สโตร์หรือ Winget [8]