ประเทศพม่า
สาธารณรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / From Wikipedia, the free encyclopedia
พม่า[9][10] หรือ เมียนมา[11] (พม่า: မြန်မာ, ออกเสียง: [mjəmà]) มีชื่อทางการว่า สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (ပြည်ထောင်စု သမ္မတ မြန်မာနိုင်ငံတော်, [pjìdàʊ̯ɰ̃zṵ θəməda̰ mjəmà nàɪ̯ŋàɰ̃dɔ̀]) เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับอินเดีย บังกลาเทศ จีน ลาว และไทย หนึ่งในสามของพรมแดนพม่าที่มีความยาว 1,930 กิโลเมตรเป็นแนวชายฝั่งตามอ่าวเบงกอลและทะเลอันดามัน ด้วยพื้นที่ 676,578 ตารางกิโลเมตร พม่าจึงเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 40 ของโลก เป็นอันดับที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่ที่สุดในแผ่นดินคาบสมุทรอินโดจีน พม่ามีประชากรราว 54 ล้านคน[12] มีเมืองหลวงคือ กรุงเนปยีดอ และนครใหญ่สุดคือ ย่างกุ้ง[13]
สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ပြည်ထောင်စု သမ္မတ မြန်မာနိုင်ငံတော် (พม่า) | |
---|---|
ที่ตั้งของ ประเทศพม่า (สีเขียว) ในอาเซียน (สีเทาเข้ม) — [คำอธิบายสัญลักษณ์] | |
เมืองหลวง | เนปยีดอ 19°45′N 96°6′E |
เมืองใหญ่สุด | ย่างกุ้ง |
ภาษาราชการ | ภาษาพม่า |
อักษรราชการ | อักษรพม่า |
กลุ่มชาติพันธุ์ | |
ศาสนา | |
เดมะนิม | ชาวพม่า/ชาวเมียนมา[4] |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบรัฐสภาที่เป็นอิสระจากสภานิติบัญญัติ ภายใต้คณะผู้ยึดอำนาจการปกครอง |
มหยิ่นซเว (รักษาการ) | |
มี่นอองไลง์ | |
• รองประธานสภาบริหารแห่งรัฐและรองนายกรัฐมนตรี | ซอวี่น |
สภานิติบัญญัติ | สภาบริหารแห่งรัฐ |
การก่อตั้ง | |
ป. 180 ปีก่อน ค.ศ. | |
23 ธันวาคม ค.ศ. 849 | |
16 ตุลาคม ค.ศ. 1510 | |
29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1752 | |
1 มกราคม ค.ศ. 1886 | |
4 มกราคม ค.ศ. 1948 | |
2 มีนาคม ค.ศ. 1962 | |
• เปลี่ยนชื่อในภาษาอังกฤษจาก Burma เป็น Myanmar | 18 มิถุนายน ค.ศ. 1989 |
30 มีนาคม ค.ศ. 2011 | |
1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 676,578 ตารางกิโลเมตร (261,228 ตารางไมล์) (อันดับที่ 39) |
3.06 | |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2023 | 55,499,057 (2023)[5] (อันดับที่ 26) |
83 ต่อตารางกิโลเมตร (215.0 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 125 (2017)) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 243.420 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 63) |
• ต่อหัว | 4,517 ดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 142) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 63.052 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 71) |
• ต่อหัว | 1,170 ดอลลาร์สหรัฐ[6] (อันดับที่ 160) |
จีนี (ค.ศ. 2017) | 30.7[7] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) | 0.585[8] ปานกลาง · อันดับที่ 149 |
สกุลเงิน | จัต (K) (MMK) |
เขตเวลา | UTC+06:30 (เวลามาตรฐานพม่า) |
ขับรถด้าน | ขวามือ |
รหัสโทรศัพท์ | +95 |
รหัส ISO 3166 | MM |
โดเมนบนสุด | .mm |
อารยธรรมช่วงต้นของพม่ามีนครรัฐปยูที่พูดภาษาตระกูลทิเบต-พม่าในพม่าตอนบน และราชอาณาจักรมอญในพม่าตอนล่าง ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ชาวพม่าได้เข้าครอบครองบริเวณลุ่มแม่น้ำอิรวดีตอนบน และสถาปนาราชอาณาจักรพุกามในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1050 ภาษาและวัฒนธรรมพม่าพร้อมด้วยศาสนาพุทธนิกายเถรวาทค่อย ๆ ครอบงำในประเทศ อาณาจักรพุกามล่มสลายเพราะการบุกครองของมองโกลและรัฐหลายรัฐกำเนิดขึ้น ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 ราชวงศ์ตองอูสร้างเอกภาพอีกครั้ง และเป็นจักรวรรรดิใหญ่สุดในประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงสั้น ๆ[14] ต่อมา ในต้นศตวรรษที่ 19 ราชวงศ์โก้นบองได้ปกครองพื้นที่พม่าและควบคุมมณีปุระและอัสสัมในช่วงสั้น ๆ ด้วย บริติชพิชิตพม่าหลังสงครามอังกฤษ-พม่าทั้งสามครั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และประเทศกลายเป็นอาณานิคมบริติช ก่อนจะได้รับเอกราชในปี 2491 โดยในช่วงช่วงแรกมีการปกครองแบบชาติประชาธิปไตย และหลังรัฐประหารใน พ.ศ. 2505 พม่าอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการทหาร[15] พรรคโครงการสังคมนิยมพม่าโดยนายพลเนวี่นมีบทบาทนำในการปกครองประเทศ การก่อการกำเริบ 8888 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการเมืองของประเทศ แม้กองทัพจะยังมีบทบาทสำคัญจนถึงปัจจุบัน
พม่าต้องเผชิญกับการต่อสู้ชาติพันธุ์ที่รุนแรงมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 นำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ยังดำเนินอยู่ยาวนานที่สุดสงครามหนึ่งของโลก สหประชาชาติและอีกหลายองค์การรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศอย่างต่อเนื่อง[16][17][18] ในปี 2554 มีการยุบคณะทหารผู้ยึดอำนาจการปกครองอย่างเป็นทางการหลังการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2553 และมีการตั้งรัฐบาลในนามพลเรือน แต่อดีตผู้นำทหารยังมีอำนาจภายในประเทศโดยผู้นำพรรคการเมืองส่วนใหญ่ยังเป็นอดีตนายทหารระดับสูง กองทัพพม่าดำเนินการสละการควบคุมรัฐบาล รวมถึงการปล่อยตัวอองซานซูจีและนักโทษทางการเมือง มีการปรับปรุงสิทธิมนุษยชนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จนนำไปสู่การผ่อนปรนการลงโทษทางการค้าและเศรษฐกิจอื่น ๆ[19][20] ทว่ายังมีการวิจารณ์การปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยโรฮีนจาของรัฐบาลและการสนองต่อการปะทะกันทางศาสนา ซึ่งความขัดแย้งยังเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน[21][22][23] แม้ว่านางซูจีจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2563 ทว่ากองทัพพม่าได้ก่อรัฐประหารอีกครั้งในปี 2564[24] รัฐบาลทหารได้จับกุมและตั้งข้อหาทางอาญานางซูจีอีกครั้งในความผิดฐานทุจริตและฝ่าฝืนกฎระเบียบในช่วงโควิด-19[25] อย่างไรก็ตาม ได้มีการตั้งข้อสังเกตจากนานาชาติว่าการตั้งข้อหาดังกล่าวล้วนเกิดจากเหตุจูงใจทางการเมือง[26] การรัฐประหารครั้งล่าสุดยังนำไปสู่การประท้วงในพ.ศ. 2564–65 และลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมืองโดยกองทัพได้ใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุม[27]
พม่าเป็นสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาตั้งแต่ปี 2540 และยังเป็นสมาชิกการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก, ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และบิมสเทค แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งประชาชาติ แม้จะเคยเป็นประเทศอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และยังเป็นประเทศคู่เจรจาที่สำคัญในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ประเทศพม่าอุดมด้วยหยก อัญมณี น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ และทรัพยากรแร่อื่น ๆ ทั้งยังขึ้นชื่อในด้านพลังงานทดแทน และมีศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง[28] ในปี 2556 จีดีพี (ราคาตลาด) อยู่ที่ 56,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจีดีพี (อำนาจซื้อ) อยู่ที่ 221,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[29] พม่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมมากที่สุดในโลก[30][31] เนื่องจากภาคเศรษฐกิจส่วนใหญ่ถูกผู้สนับสนุนอดีตรัฐบาลทหารควบคุม[32][33] พม่ายังมีระดับการพัฒนามนุษย์ต่ำโดยอยู่อันดับที่ 147 จาก 189 ประเทศจากดัชนีการพัฒนามนุษย์ในปี 2563[34] นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีประชากรเมียนมาอย่างน้อยหลายแสนรายต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น สืบเนื่องจากความรุนแรงในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่มีการรัฐประหาร และมีประชากรราวสามล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน[35]