ประเทศบอตสวานา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาธารณรัฐบอตสวานา Lefatshe la Botswana (สวานา) Republic of Botswana (อังกฤษ) | |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | กาโบโรเน 24°39.5′S 25°54.5′E |
ภาษาราชการ |
|
กลุ่มชาติพันธุ์ (2012[1]) |
|
ศาสนา | |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบพรรคเด่น สาธารณรัฐระบบรัฐสภาโดยมีประธานาธิบดีที่มีอำนาจบริหาร[3][4] |
มูเควตซี มาซีซี[5] | |
• รองประธานาธิบดี | Slumber Tsogwane |
• National Assembly Speaker | Phandu Skelemani |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
เอกราช | |
• ก่อตั้ง (รัฐธรรมนูญ) | 30 กันยายน ค.ศ. 1966 |
พื้นที่ | |
• รวม | 581,730 ตารางกิโลเมตร (224,610 ตารางไมล์)[6] (อันดับที่ 47) |
2.7 | |
ประชากร | |
• พ.ศ. 2560 ประมาณ | 2,250,260[7] (อันดับที่ 145) |
• สำมะโนประชากร 2011 | 2,024,904 |
3.7 ต่อตารางกิโลเมตร (9.6 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 231) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2021 (ประมาณ) |
• รวม | 43.389 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[8] (120) |
• ต่อหัว | $18,113[8] (99) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2021 (ประมาณ) |
• รวม | 18.726 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[8] (120) |
• ต่อหัว | 7,817 ดอลลาร์สหรัฐ[9] (101) |
จีนี (2015) | 53.3[10] สูง |
เอชดีไอ (2019) | 0.735[11] สูง · อันดับที่ 100 |
สกุลเงิน | ปูลา (BWP) |
เขตเวลา | UTC+2 (เวลาแอฟริกากลาง[12]) |
รูปแบบวันที่ | ปปปป-ดด-วว วว/ดด/ปปปปa |
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ |
รหัสโทรศัพท์ | +267 |
โดเมนบนสุด | .bw |
เว็บไซต์ www | |
|
บอตสวานา (อังกฤษและสวานา: Botswana) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐบอตสวานา (อังกฤษ: Republic of Botswana; สวานา: Lefatshe la Botswana) เป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคแอฟริกาใต้ และเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีอาณาเขตดังนี้ ทิศใต้ติดกับประเทศแอฟริกาใต้ ทิศตะวันตกติดกับประเทศนามิเบีย ทิศเหนือติดกับประเทศแซมเบีย ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับประเทศซิมบับเว
บอตสวานามีพื้นที่ 600,370 ตารางกิโลเมตรและใหญ่เป็นอันดับที่ 45 ของโลก (มีขนาดใกล้เคียงกับประเทศมาดากัสการ์) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ และพื้นดินกว่าร้อยละ 70 ถูกครอบคลุมโดยทะเลทรายกาลาฮารี บอตสวานามีโอคาวันโกเดลตาซึ่งเป็นพื้นที่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ทางตะวันตก และมัคกาดิคกาดี ซึ่งเป็นทะเลสาบเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ทางตอนเหนือ ด้านตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำลิมโปโป ซึ่งเป็นภูมิลักษณ์ของพื้นที่ส่วนใหญ่ในแอฟริกาใต้ แม่น้ำโชบีอยู่ทางเหนือของประเทศและเป็นเขตพรมแดนกั้นระหว่างบอตสวานาและนามิเบีย
ดินแดนนี้เป็นที่อยู่ของชาวบุชแมนมาก่อนที่ชาวบันตูจะเคลื่อนย้ายเข้ามา ในช่วงทศวรรษที่ 19 เกิดสงครามระหว่างชนพื้นเมือง โชนา ที่อาศัยอยู่ใน บัตสวานากับชนเผ่าเดเบเล่ที่อพยพมาจาก อาณานิคมในทะเลทรายกาลาฮารี ความตึงเครียดจากพวกบัวร์ในทรานสวาล พ.ศ. 2429 บอตสวานากลายเป็นดินแดนในอารักขาของอังกฤษเพื่อป้องกันการโจมตีของพวกบัวร์และเยอรมัน ได้รับเอกราช เมื่อ 30 กันยายน พ.ศ. 2509
บอตสวานาเป็นสาธารณรัฐแบบรัฐสภาที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งบอตสวานา และเป็นระบอบประชาธิปไตยที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในแอฟริกา[13] [14] ที่ตั้งของรัฐบาลอยู่ในกาโบโรเน[15] สถาบันการปกครองของบอตสวานาก่อตั้งขึ้นหลังจากกลายเป็นประเทศเอกราชในปี 2509 โครงสร้างการปกครองของบอตสวานามีพื้นฐานอยู่บนทั้งระบบเวสต์มินสเตอร์ของสหราชอาณาจักรและรัฐบาลชนเผ่าของชาวสวานา[13] บอตสวานามีรัฐบาลรวมศูนย์ซึ่งกฎหมายของประเทศเข้ามาแทนที่กฎหมายท้องถิ่น[16] กฎหมายท้องถิ่นได้รับการพัฒนาโดยสภาท้องถิ่นและสภาเขต[17] บอตสวานาได้รับอิทธิพลอย่างมากจากรัฐบาลชนเผ่า ซึ่งนำโดยหัวหน้าเผ่า[17]
รัฐสภาบอตสวานาประกอบด้วยรัฐสภาซึ่งทำหน้าที่เป็นสภานิติบัญญัติอย่างเป็นทางการของประเทศ และ Ntlo ya Dikgosi ซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาที่ประกอบด้วยหัวหน้าชนเผ่าและสมาชิกที่ได้รับการแต่งตั้งอื่นๆ[18] ฝ่ายบริหารของบอตสวานานำโดยประธานาธิบดีบอตสวานา ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล.[13] สมาชิกรัฐสภาเลือกประธานาธิบดี จากนั้นประธานาธิบดีจะแต่งตั้งรองประธานาธิบดีและสมาชิกคณะรัฐมนตรี[19] ประธานาธิบดีมีอำนาจสำคัญในบอตสวานา และสภานิติบัญญัติมีอำนาจเพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบประธานาธิบดีเมื่อได้รับการแต่งตั้งแล้ว[20][21] ฝ่ายตุลาการประกอบด้วยศาลสูงแห่งบอตสวานา ศาลอุทธรณ์ และศาลผู้พิพากษา[22]คดีต่างๆ มักจะได้รับการตัดสินโดยศาลตามธรรมเนียมซึ่งมีหัวหน้าเผ่าเป็นประธาน[17]
ประเทศบอตสวานาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 10 เขต (district) ได้แก่
ตั้งแต่ได้รับเอกราช บอตสวานาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราเจริญเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงที่สุดในโลก[23] และสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นจากหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกมาเป็นประเทศรายได้ระดับกลางซึ่งมีจีดีพีเฉลี่ย (PPP) 16,516 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2550 [24] มีการประเมินว่าบอตสวานามีรายได้มวลรวมประชาชาติโดยวัดจากความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อสูงเป็นอันดับ 4 ในทวีปแอฟริกา ทำให้มีมาตรฐานการครองชีพใกล้เคียงกับเม็กซิโกและตุรกี[25]
จากสถิติของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ บอตสวานามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 9 ตั้งแต่ปี 2509 ถึง 2542 บอตสวานามีเสรีภาพทางเศรษฐกิจที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศแอฟริกาอื่น ๆ[26] เป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในแอฟริกา และมีเงินสำรองแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมากกว่า 7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2548-2549 (ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการนำเข้าประมาณ 2 ปีครึ่ง) สภาพเศรษฐกิจที่มั่นคงของบอตสวานามีรากฐานมาจากการนำรายได้จากการทำเหมืองเพชรในประเทศมาพัฒนาประเทศผ่านนโยบายทางการเงินและนโยบายต่างประเทศที่รอบคอบ[27] อย่างไรก็ตาม การพัฒนาประเทศที่มีพื้นฐานจากอุตสาหกรรมเพชรนี้ทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจผิดเพี้ยนในหลายรูปแบบ เช่นรัฐบาลมีอำนาจมากจนทำให้ภาคเอกชนไม่พัฒนา อัตราว่างงานสูง[28]
รัฐบาลถือหุ้นร้อยละ 50 ของเดบสวานา ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในบอตสวานา.[29] อุตสาหกรรมการทำเหมืองแร่สร้างรายได้ให้รัฐบาลถึงร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด[30] ในต้นพุทธทศวรรษที่ 2550 มีการค้นพบแร่ยูเรเนียมในบอตสวานา[31] และโครงการเหมืองแร่ยูเรเนียมมีกำหนดจะเริ่มในปี พ.ศ. 2553 บริษัทเหมืองแร่ข้ามชาติหลายแห่งที่ตั้งสำนักงานใหญ่ประจำพื้นที่ในบอตสวานาโดยหวังที่จะมีโอกาสทำเหมืองเพชร ทอง ยูเรเนียม ทองแดง หรือแม้แต่น้ำมัน รัฐบาลบอตสวานาประกาศเมื่อต้นปี 2552 ว่าจะพยายามลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรให้น้อยลง เนื่องจากความกังวลจากการพยากรณ์ว่าเพชรจะหมดไปจากบอตสวานาในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
ปี | ประชากร |
---|---|
1950 | 0.4 |
2000 | 1.7 |
2020 | 2.4 |
ในปี 2012 ชาวสวานาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนใหญ่ในบอตสวานา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 79% ของประชากร รองลงมาคือ Kalanga ที่ 11% และ San (Basarwa) ที่ 3% ส่วนที่เหลืออีก 7% ประกอบด้วย White Batswana/European Batswana[32]อินเดียน,[1] และกลุ่มชาติพันธุ์แอฟริกาตอนใต้เล็กๆ อีกจำนวนหนึ่ง
กลุ่มชนพื้นเมือง ได้แก่ Bayei, Bambukushu, Basubia, Baherero และ Bakgalagadi ชนกลุ่มน้อยชาวอินเดียประกอบด้วยทั้งผู้อพยพล่าสุดและลูกหลานของผู้อพยพชาวอินเดียที่มาจากโมซัมบิก เคนยา แทนซาเนีย มอริเชียส และแอฟริกาใต้
ตั้งแต่ปี 2000 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในซิมบับเว จำนวนชาวซิมบับเวในบอตสวานาจึงเพิ่มขึ้นเป็นหมื่นคน[33] ชาวซานไม่ถึง 10,000 คนยังคงดำเนินชีวิตตามวิถีชีวิตนักล่าและคนเก็บอาหารแบบดั้งเดิม ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990 รัฐบาลกลางของบอตสวานาพยายามย้ายชาวซานออกจากดินแดนประวัติศาสตร์ของพวกเขา[34]
บทความนี้รวมข้อความจากงานที่มีเนื้อหาเสรี (free content) ลิขสิทธิ์ภายใต้ CC BY-SA IGO 3.0 ข้อความนำมาจาก UNESCO Science Report: Towards 2030, 546–547, UNESCO, UNESCO Publishing.
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.