Loading AI tools
เครื่องบินความเร็วเหนือเสียง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คองคอร์ด (อังกฤษ: Concorde) เป็นเครื่องบินขนส่งชนิดมีเค้าฮูกตัวอ้วน เป็นหนึ่งในสองแบบของเครื่องบินเร็วเหนือเสียงที่ใช้เป็นเครื่องบินโดยสาร และนำมาให้บริการในเชิงพาณิชย์ โดยใช้เวลาศึกษาวิจัยเป็นเวลา 7 ปี เครื่องคองคอร์ดต้นแบบเครื่องแรกบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค.ศ. 1969 ทดสอบและพัฒนาอีก 4 ปี โดยคองคอร์ดเครื่องแรกออกจากสายการผลิตและเริ่มบินทดสอบเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1973 รวมตั้งแต่เริ่มโครงการจนนำมาผลิตใช้เวลากว่า 13 ปีเต็มใช้เงินในการพัฒนากว่า 1,000 ล้านปอนด์ [4]
คองคอร์ด | |
---|---|
คองคอร์ดของบริติชแอร์เวย์ใน ค.ศ. 1986 | |
หน้าที่ | อากาศยานความเร็วเหนือเสียง |
ประเทศผู้ผลิต | สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส |
ผู้ผลิต |
|
เที่ยวบินแรก | 2 มีนาคม ค.ศ. 1969 |
เริ่มใช้ | 21 มกราคม ค.ศ. 1976 |
ปลดระวาง | 24 ตุลาคม ค.ศ. 2003[1] |
ผู้ใช้หลัก | บริติชแอร์เวย์ แอร์ฟรานซ์ ดูผู้ให้บริการข้างล่าง |
การผลิต | 1965–1979 |
จำนวนที่ถูกผลิต | 20 (รวมอากาศยานที่ไม่ได้ในเชิงพาณิชย์ 6 ลำ)[2][3] |
เครื่องบินคองคอร์ดมีความเร็วปกติ 2,158กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเพดานบินสูงสุด 60,000 ฟุต (18.288กิโลเมตร) มีปีกสามเหลี่ยม
การบินเชิงพาณิชย์ของคองคอร์ด ดำเนินการโดยบริติชแอร์เวย์ (British Airways) และแอร์ฟรานซ์ (Air France) เริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1976 และสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2003 และมีเที่ยวบิน “เกษียณอายุ” เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 เที่ยวบินลอนดอน-นิวยอร์ก และปารีส-นิวยอร์ก ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ยประมาณ 3 ชม.
เครื่องบินคองคอร์ด มีข้อจำกัดในการออกแบบด้านพลศาสตร์ ซึ่งส่วนหัวของเครื่องบินจะต้องเชิดขึ้น ส่งผลให้ทัศนวิสัยของนักบินไม่ดี ผู้ออกแบบได้แก้ไขโดยเพิ่มกลไกปรับส่วนหัวของเครื่องบิน ให้กดลงมา เพื่อให้นักบินมองเห็นสนามบินขณะเครื่องบินขึ้น ลงจอด และขณะอยู่บนแทกซี่เวย์ ส่วนหัวของคองคอร์ดปรับทำมุมกดได้ 12.5°
เครื่องบินคองคอร์ด มีทั้งสิ้น 20 ลำ เป็นเครื่องที่ใช้ในการพัฒนา 6 ลำ ใช้งานเชิงพาณิชย์ 14 ลำ ตก 1 ลำ
คองคอร์ดมีสถิติเกิดอุบัติเหตุตกเพียงครั้งเดียว คือ เที่ยวบิน 4590 ของแอร์ฟรานซ์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานใกล้กรุงปารีส มีผู้เสียชีวิต 113 คน
ผลการสอบสวนสรุปว่าสาเหตุการตก เนื่องจากมีชิ้นส่วนโลหะที่หลุดออกมาจากเครื่องบินดีซี-10 ของคอนติเนนตัลแอร์ไลน์ ซึ่งบินขึ้นก่อนหน้านั้น 4 นาที กระแทกกับยางล้อด้านซ้ายของเครื่องเที่ยวบิน 4590 ขณะกำลังเร่งเครื่องเพื่อบินขึ้น ยางล้อเกิดระเบิดและมีชิ้นส่วนของยางกระเด็นไปกระแทกถังน้ำมัน และสายไฟ และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้แจ้งนักบิน นักบินได้ตัดการทำงานของเครื่องยนต์ และพยายามยกเลิกการบินขึ้น แต่เครื่องบินเสียการทรงตัวและกระแทกพื้น เกิดการระเบิด ผู้โดยสาร 100 คน เจ้าหน้าที่บนเครื่อง 9 คน และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน 4 คน เสียชีวิต
มีการระงับการบินของคองคอร์ดทุกเที่ยวบินเพื่อสอบสวนหาสาเหตุและแก้ไข คองคอร์ดเที่ยวบินแรกหลังอุบัติเหตุ ทำการบินทดสอบเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 และทำการบินพร้อมผู้โดยสารเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 วันเดียวกับการเกิดวินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544
ความตกต่ำของอุตสาหกรรมการบินหลังเหตุการณ์ 9/11 ทำให้แอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์ ตัดสินใจประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2546 เนื่องจากมีผู้ใช้บริการน้อยและมีต้นทุนสูง
จากอากาศยานที่สร้างขึ้น 20 ลำ[2] มี 18 ลำที่ยังคงในสภาพที่ดี
รหัสขึ้นทะเบียน | เจ้าของ | ที่ตั้ง |
---|---|---|
G-AXDN | บริติชแอร์เวย์ | เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ |
G-BBDG | บริติชแอร์เวย์ | เซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ |
G-BOAA | บริติชแอร์เวย์ | นอร์ธเบริก ประเทศสกอตแลนด์ |
G-BOAB | บริติชแอร์เวย์ | ฮีทโธรว์ ประเทศอังกฤษ |
G-BOAC | บริติชแอร์เวย์ | แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ |
G-BOAD | บริติชแอร์เวย์ | นิวยอร์ก สหรัฐ |
G-BOAE | บริติชแอร์เวย์ | ชาร์น็อกส์ ประเทศบาร์เบโดส |
G-BOAF | บริติชแอร์เวย์ | ฟิลตัน ประเทศอังกฤษ |
G-BOAG | บริติชแอร์เวย์ | ซีแอตเทิล สหรัฐ |
G-BSST | บริติชแอร์คราฟท์คอปอเรชัน | โยวิลตัน ประเทศอังกฤษ |
F-BTSD | แอร์ฟรานซ์ | เลอ บูร์เกต์ ประเทศฝรั่งเศส |
F-BVFA | แอร์ฟรานซ์ | ดัลเลส, รัฐเวอร์จิเนีย, สหรัฐ |
F-BVFB | แอร์ฟรานซ์ | Sinsheim ประเทศเยอรมนี |
F-BVFC | แอร์ฟรานซ์ | บลาญัก ประเทศฝรั่งเศส |
F-BVFF | แอร์ฟรานซ์ | รัวซี-อ็อง-ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส |
F-WTSA | แอร์ฟรานซ์ | Athis-Mons ประเทศฝรั่งเศส |
F-WTSB | แอร์ฟรานซ์ | บลาญัก ประเทศฝรั่งเศส |
ข้อมูลจาก The Wall Street Journal,[5] The Concorde Story,[6] The International Directory of Civil Aircraft,[7] Aérospatiale/BAC Concorde 1969 onwards (ทุกโมเดล)[8]
ลักษณะทั่วไป
สมรรถนะ