![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/62/NS19_Toa_Payoh_station_Exit_D_cropped_20201009_220106.jpg/640px-NS19_Toa_Payoh_station_Exit_D_cropped_20201009_220106.jpg&w=640&q=50)
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (สิงคโปร์)
From Wikipedia, the free encyclopedia
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (เอ็มอาร์ที) เป็นระบบขนส่งมวลชนเร็วรางหนักซึ่งถือเป็นโครงข่ายรถไฟหลักในประเทศสิงคโปร์ โดยมีแนวเส้นทางผ่านตลอดเกือบทุกพื้นที่ของเกาะหลัก ยกเว้นเขตป่าและพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ[note 10] เส้นทางช่วงแรกเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1987 และโครงข่ายก็ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วตามเป้าหมายการพัฒนาระบบรางให้เป็นระบบขนส่งมวลชนหลักของประเทศ โดยในปี 2019 รถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารรายวัน 3.384 ล้านคน[note 11] ในขณะที่รถโดยสารประจำทางมีจำนวนผู้โดยสารรายวัน 4.099 ล้านคน[1]
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (เอ็มอาร์ที) | |||
---|---|---|---|
จากบนซ้ายไปล่างขวา: ทางเข้าสถานี Toa Payoh, สถานีนิโคลล์ไฮเวย์; ภายนอกของสถานีจูรงตะวันออก; ชานชาลาสายตะวันออก-ตะวันตกที่สถานีเอ็กซ์โป และชานชาลาสายเหนือ-ตะวันออกที่สถานีโควัน | |||
ข้อมูลทั่วไป | |||
ชื่อพื้นเมือง | Sistem Pengangkutan Gerak Cepat (มลายู) 新加坡地铁系统 (จีน) சிங்கப்பூர் துரிதக் கடவு ரயில் (ทมิฬ) | ||
เจ้าของ | องค์การขนส่งทางบก | ||
ที่ตั้ง | สิงคโปร์ | ||
ประเภท | ระบบขนส่งมวลชนเร็ว | ||
จำนวนสาย | 9 (ให้บริการ 6, กำลังก่อสร้าง 2, กำลังวางแผน 1 และกำลังศึกษา 1), ไม่นับรวมรางเบา | ||
จำนวนสถานี | 187 (ให้บริการ 134, กำลังก่อสร้างและโครงการ 53, ในอนาคต 2), ไม่นับรวมรางเบา | ||
ผู้โดยสารต่อวัน | 3.4 ล้านคน (2019), ไม่นับรวมรางเบา[1] | ||
ผู้โดยสารต่อปี | 1.2 พันล้านคน (2019), ไม่นับรวมรางเบา | ||
เว็บไซต์ | |||
การให้บริการ | |||
เริ่มดำเนินงาน | 7 พฤศจิกายน 1987; 36 ปีก่อน (1987-11-07) | ||
ผู้ดำเนินงาน | เอสเอ็มอาร์ทีเทรนส์ (เอสเอ็มอาร์ทีคอร์ปอเรชัน) เอสบีเอสแทรนสิต (คอมฟอร์ตเดลโกรคอร์ปอเรชัน) | ||
ลักษณะ | ทางวิ่งแยกจากพื้นดินอย่างสมบูรณ์ | ||
จำนวนขบวน | 488 ขบวน (กำลังสั่งซื้อ 197, ปลดประจำการ 106) | ||
ความยาวขบวน | 3,[note 1] 4,[note 2] 6[note 3] หรือ 8[note 4] cars | ||
ระยะห่าง | 2–3 นาที (ชั่วโมงเร่งด่วน) 5 นาที (ชั่วโมงปกติ)[2] | ||
ข้อมูลทางเทคนิค | |||
ระยะทาง | 231 km (144 mi) | ||
รางกว้าง | 1,435 mm (4 ft 8 1⁄2 in) สแตนดาร์ดเกจ | ||
รัศมีความโค้ง | 400–500 m (1,312.34–1,640.42 ft) (สายหลัก), 190 m (623.36 ft) (ศูนย์ซ่อมบำรุง)[3] | ||
การจ่ายไฟฟ้า | กระแสตรง 750 โวลต์ ผ่านรางที่สาม[note 5] กระแสตรง 1500 โวลต์ ผ่านสายเหนือหัว[note 6] | ||
ความเร็วสูงสุด | 78 km/h (48 mph)[note 7] 80 km/h (50 mph)[note 8] 90 km/h (56 mph)[note 9] | ||
|
โครงสร้างพื้นฐานของเอ็มอาร์ทีสร้าง ดำเนินการและบริหารจัดการด้วยความร่วมมือกับนิวเรลไฟแนนซิงเฟรมเวิร์ก (NRFF) ผู้ดำเนินการก่อสร้างเส้นทางและครอบครองทรัพย์สินคือองค์การขนส่งทางบก (LTA) ซึ่งจัดสรรให้เอ็สเอ็มอาร์ทีและเอสบีเอสแทรนสิตเป็นผู้ให้บริการ โดยทั้งสองหน่วยนี้ยังทำหน้าที่บำรุงเส้นทางรถไฟฟ้า ให้บริการรถโดยสารประจำทางและแท็กซี่ และส่งเสริมให้ระบบขนส่งมวลชนรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ณ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 โครงข่ายรถไฟฟ้ามีระยะทางรวม 231 กิโลเมตร (144 ไมล์) ใช้รางมาตรฐาน มีสถานีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 134 สถานีบน 6 เส้นทางบนโครงข่ายแบบวงกลม-รัศมี โครงข่ายมีแผนขยายเส้นทางให้มีระยะทางถึง 450 กิโลเมตร (280 ไมล์) ภายใน ค.ศ. 2040 ซึ่งแผนงานประกอบด้วยการก่อสร้างส่วนต่อขยายของ 6 เส้นทางเดิมและการก่อสร้างอีก 3 เส้นทางใหม่[4] นอกจากนี้ โครงข่ายยังได้รับการเติมเต็มจากระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) ซึ่งวิ่งในย่านชานเมืองอย่างบูกิตปันจัง เซงกัง และปังกอล โดยจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีผ่านการเคหะของสภาเคหะและการพัฒนา[5] ทั้งนี้ เมื่อรวมทั้งโครงข่ายเอ็มอาร์ทีและรางเบาแล้ว จะมีระยะทางรวม 257.8 กิโลเมตร (160.2 ไมล์) และมีจำนวนสถานีที่ให้บริการ 193 สถานี[note 12]
เอ็มอาร์ทีเป็นระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่เก่าแก่ มีผู้โดยสารมาใช้บริการ มีค่าใช้จ่าย และครอบคลุมพื้นที่ตามระยะทางมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้[note 13] เอ็มอาร์ทีมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การจัดหาขบวนรถไฟฟ้า และการขยายสัญญาที่ดินทั้งสิ้น 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)[6][7][8][note 14] เอ็มอาร์ทียังมีความโดดเด่นในการเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าอัตโนมัติและไร้คนขับที่ยาวที่สุดในโลก เช่นเดียวกับโครงข่ายที่มีอุโมงค์รถไฟฟ้าที่ยาวและลึกที่สุดแห่งหนึ่งโลก[9][10] นอกจากนี้ สถานีรถไฟใต้ดินซึ่งถือเป็นส่วนใหญ่ของโครงข่าย ถูกออกแบบให้มีบังเกอร์และที่กำบังจากการโจมตีทางอากาศ ซึ่งทนต่อการทิ้งระเบิดจากอากาศและการโจมตีด้วยสารเคมี