การให้วัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย
From Wikipedia, the free encyclopedia
โครงการฉีดวัคซีนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน เป็นการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับคนจำนวนมาก เพื่อรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทย โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564
จุดบริการวัคซีนโควิด-19 จุดหนึ่งที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในกรุงเทพมหานคร | |
วันที่ | 28 กุมภาพันธ์ 2564 – ปัจจุบัน (3 ปี 4 เดือน 26 วัน) |
---|---|
ที่ตั้ง | ประเทศไทย |
สาเหตุ | การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศไทย |
เป้าหมาย | สร้างภูมิคุ้มกันต่อโควิด-19 |
ผู้เข้าร่วม | 55,281,158 คน ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส 50,220,477 คน ได้รับวัคซีนครบโดส 21,059,428 คน ได้รับวัคซีนบูสเตอร์หนึ่งโดส (25 มีนาคม 2565)[1][2] |
ผล | 110.56% ของประชากรไทยตามเป้าหมายได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดส
100.44% ของประชากรไทยตามเป้าหมายได้รับวัคซีนครบโดส (เป้าหมาย: 50,000,000 คน) |
เว็บไซต์ | https://dashboard-vaccine.moph.go.th/ |
แผนการฉีดวัคซีนของประเทศในช่วงแรกต้องการใช้วัคซีนโควิด-19 ของออกซฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศซึ่งบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นหลัก คำสั่งห้ามนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่น การสื่อสารแบบขาดความเป็นเอกภาพ การกระจายวัคซีนโดยไม่คำนึงถึงลำดับความเร่งด่วนรวมถึงการเลือกปฏิบัติ และความแคลงใจต่อประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแว็กซึ่งเป็นวัคซีนอีกชนิดที่นำมาใช้ในช่วงแรก ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างมาก ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2564 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ประกาศจะนำเข้าวัคซีนเพิ่มเติมคือวัคซีนโควิด-19 BBIBP-CorV ของซิโนฟาร์ม หลังจากนั้นเริ่มมีคำสั่งอนุญาตให้ราชการส่วนท้องถิ่นและเอกชนนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นได้ ตามมาด้วยคำสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
ยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 อยู่ที่ 4.21 ล้านโดส[5] เริ่มมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศในวันที่ 7 มิถุนายน แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งเป้าให้ฉีดได้ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปี 2564 แต่ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนใหญ่เนื่องจากวัคซีนยังไม่เพียงพอ