Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กรมหลวงโยธาทิพ มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าศรีสุวรรณ[4] บ้างออกพระนามว่า พระราชกัลยาณี[4][5][6] (พ.ศ. 2181–2258)[1] เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าปราสาททองและเป็นพระราชขนิษฐาในสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ภายหลังได้เป็นที่พระอัครมเหสีฝ่ายขวาในสมเด็จพระเพทราชา ประสูติการพระราชโอรสพระองค์หนึ่งพระนามเจ้าพระขวัญ
กรมหลวงโยธาทิพ | |
---|---|
เจ้าฟ้าต่างกรม | |
ประสูติ | พ.ศ. 2181[1] |
สวรรคต | พ.ศ. 2258[1] (ราว 77 ปี) |
พระสวามี | สมเด็จพระเพทราชา |
พระบุตร | เจ้าพระขวัญ |
ราชวงศ์ | ปราสาททอง (ประสูติ) บ้านพลูหลวง (อภิเษกสมรส) |
พระบิดา | สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง |
พระมารดา | พระสุริยา[2] หรือพระอุบลเทวี[3] |
ศาสนา | เถรวาท |
กรมหลวงโยธาทิพ มีพระนามเดิมว่าศรีสุวรรณ[4] เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง[4] และมีพระชนนีองค์เดียวกันกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช[6] คำให้การชาวกรุงเก่า ระบุว่าพระชนนีของสมเด็จพระนารายณ์ชื่อพระสุริยา[2] ขณะที่ คำให้การขุนหลวงหาวัด ระบุพระนามว่าพระอุบลเทวี[3] ส่วนหม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย ระบุว่าพระชนนีเป็นพระราชเทวีชื่อศิริธิดา[10] ในช่วงที่สมเด็จพระนารายณ์และสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาคิดยึดอำนาจสมเด็จเจ้าฟ้าไชย สมเด็จพระนารายณ์ก็ทรงพาพระราชกัลยาณีหนีออกไปด้วยกัน[6] สมบัติ พลายน้อย อธิบายว่ากรมหลวงโยธาทิพน่าจะประสูติในปี พ.ศ. 2181 หย่อนพระชันษากว่าพระเชษฐา 6 ปี และมีพระชันษา 18 ปีเมื่อพระเชษฐาเสวยราชย์[1] กล่าวกันว่ากรมหลวงโยธาทิพมีพระสิริโฉมงดงามเป็นที่ประจักษ์ ใน พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ระบุไว้ว่า "...พระราชกัลยาณีน้องพระนารายณ์ราชนัดดา ทรงพระรูปสิริวิลาสเลิศลักษณะนารี..."[11]
หลังการยึดอำนาจจากสมเด็จเจ้าฟ้าไชย ในรัชกาลสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา พระเจ้าอาว์ ทรงต้องพระทัยในรูปลักษณ์ของพระราชกัลยาณีและมีพระราชประสงค์จะเสพสังวาส พระราชกัลยาณีไหวตัวทัน ทรงบอกให้เหล่าพระสนมช่วย ทรงซ่อนตัวในตู้พระสมุดแล้วนางสนมให้หามไปยังพระราชวังบวรสถานมงคลที่สมเด็จพระนารายณ์ประทับอยู่ เสด็จขึ้นเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ ทรงกันแสงและทูลเรื่องราวทั้งหมด เมื่อสมเด็จพระนารายณ์ฟังความเช่นนั้นก็ทรงกล่าวด้วยความน้อยพระทัยว่า[12]
อนิจจา พระเจ้าอาเรานี้ คิดว่าสมเด็จพระบิตุราชสวรรคตแล้ว ยังแต่พระเจ้าอาก็เหมือนหนึ่งพระบรมราชบิดายังอยู่ จะได้ปกป้องพระราชวงศานุวงศ์สืบไป ควรหรือมาเป็นได้ดังนี้ พระองค์ปราศจากหิริโอตตัปปะแล้ว ไหนจะครองสมบัติเป็นยุติธรรมเล่า น่าที่จะร้อนอกสมณชีพราหมณ์อาณาประชาราษฎรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินเป็นแท้ จะละไว้มิได้ ด้วยพระองค์ก่อแล้วจำจะสานตามเถิด จะเสี่ยงเอาบารมีเป็นที่พึ่ง
หลังจากนั้นสมเด็จพระนารายณ์จึงรวมขุนนางต่อสู้ยึดอำนาจ และสามารถจับกุมสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาได้ จึงนำไปสำเร็จโทษ ณ วัดโคกพระยาตามโบราณราชประเพณี[13]
เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสวยราชย์ พระราชกัลยาณีได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นกรมหลวงโยธาทิพ คู่กับเจ้าฟ้าสุดาวดี พระราชธิดา ที่ได้รับการสถาปนาเป็นกรมหลวงโยธาเทพ คู่กัน พระองค์คอยอุปถัมภ์ค้ำชูพระราชอนุชาทั้งสองพระองค์คือเจ้าฟ้าอภัยทศ และเจ้าฟ้าน้อย ทรงสามารถทูลคัดง้างสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในกรณีที่ทรงลงทัณฑ์เจ้าฟ้าน้อยเรื่องทำชู้กับพระสนม โดยทรงกล่าวกับสมเด็จพระนารายณ์มหาราชว่า "[อย่าได้มี] พระโทสจริตโดยลงโทษเอาให้ถึงแก่ชีวิตเลย ขอเพียงให้ทรงลงทัณฑ์เสมอที่บิดาทำต่อบุตรเท่านั้นเถิด"[14]
พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ว่าสมเด็จพระเพทราชาตั้งพระองค์เป็นพระอัครมเหสีซ้าย[9] ส่วน คำให้การชาวกรุงเก่า และ คำให้การขุนหลวงหาวัด ระบุว่าเป็นพระอัครมเหสีฝ่ายขวา[4][8] มีพระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวคือเจ้าพระขวัญ แต่พระราชโอรสพระองค์นี้ก็อยู่ให้ชื่นชมโสมนัสได้ไม่นาน ก็ถูกกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เดื่อ) ลวงไปสำเร็จโทษ สิ้นพระชนม์ก่อนการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระเพทราชาไม่นานนัก กรมหลวงโยธาทิพคงจะโทมนัสและตรอมพระทัยยิ่งนัก ทรงหันเข้าหาพระศาสนาเป็นที่พึ่ง ทรงทูลลาสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ออกไปตั้งตำหนักใกล้วัดพุทไธสวรรย์[15] และผนวชเป็นรูปชี
กรมหลวงโยธาทิพเสด็จสวรรคตในรูปชี (ในพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศใช้คำว่า เสด็จนิพพาน) ณ พระตำหนักริมวัดพุทไธสวรรย์ในปีมะแมสัปตศก[16] สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงโปรดเกล้าฯ ให้ทำพระเมรุมาศ ให้เชิญพระศพขึ้นพระมหาพิชัยราชรถแห่แหนด้วยดุริยางคดนตรีไปถึงพระเมรุมาศ มีการทิ้งทานต้นกัลปพฤกษ์และมีการเล่นมหรสพ พระสงฆ์สดัปกรณ์ 10,000 คำรบสามวัน แล้วถวายพระเพลิง ครั้นดับพระเพลิงแล้วจึงแจงพระรูป พระสงฆ์สดัปกรณ์อีก 100 รูป เก็บพระอัฐิในพระโกศน้อย แห่เข้ามาบรรจุไว้ท้ายจระนำในวิหารใหญ่วัดพระศรีสรรเพชญ์[17]
พงศาวลีของกรมหลวงโยธาทิพ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.