อาหารอินุอิต หรือ อาหารเอสกิโม แบบดั้งเดิม ซึ่งหมายถึงอาหารกรีนแลนด์ และอาหารยูพิก ด้วย เป็นอาหารที่ส่วนใหญ่มาจากสัตว์ที่ได้มาจากการจับปลาและการล่า ทั้งสัตว์บกและสัตว์ทะเล ส่วนอาหารประเภทพืชจะเป็นพืชที่เก็บมาจากธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม วิถีการบริโภคอาหารของชาวอินุอิตได้เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 และภายในศตรวรรษที่ 21 ก็มีความคล้ายกับวิถีการบริโภคอาหารแบบตะวันตก มากขึ้น ถึงแม้ว่าอาหารอินุอิตแบบดั้งเดิม ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาเอกลักษณ์ของชาวอินุอิต แต่อาหารจำนวนมากก็มักมีการซื้อมาจากร้านค้า จึงทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพและความไม่มั่นคงทางอาหาร [1] [2]
ชาวอินุอิตวัยชรากำลังกินมักตาก (maktaaq) ซึ่งเป็นหนังวาฬติดมันแช่แข็ง
ตามที่เอดมันด์ เซอเริลส์ ได้ให้เหตุผลไว้ในบทความของตนชื่อ อาหารและการสร้างเอกลักษณ์ของชาวอินุอิตสมัยใหม่ (Food and the Making of Modern Inuit Identities ) ชาวอินุอิตบริโภคอาหารแบบนี้เพราะการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นหลักนั้น "มีประสิทธิผลในการรักษาความอุ่นของร่างกาย สร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย รักษาสุขภาพของร่างกาย และแม้กระทั่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่สุขภาพกายอีกด้วย"[3]
เนื้อสัตว์ที่มาจากการล่า:
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมในทะเล เช่น วอลรัส แมวน้ำ และวาฬ เนื้อวาฬ โดยมากมาจากนาร์วาล เบลูกา และหัวคันศร โดยเนื้อ ไขมัน (blubber) และหนังของวาฬหัวคันศรสามารถนำไปทำอาหารให้แก่คนทั้งชุมชนได้เป็นเวลาเกือบถึงหนึ่งปี โดยมาก นักล่าสัตว์ชาวอินุอิตมักล่าวาฬวัยอ่อนเพราะมีความเสี่ยงอันตรายน้อยและหนังมีรสชาติดีเมื่อเปรียบกับวาฬที่โตเต็มที่แล้ว นอกจากนี้ แมวน้ำวงแหวน (Phoca hispida ) และแมวน้ำเครา (Erignathus barbatus ) ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของอาหารอินุอิตและยังเป็นอาหารหลักของนักล่าสัตว์ชาวอินุอิตอีกด้วย[3]
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมบนบก เช่น เรนเดียร์ หมีขั้วโลก และมัสก์ออกซ์
นกและไข่นก
ปลาน้ำเค็ม และน้ำจืด เช่น ปลาสกัลปิน ปลาคอดอาร์กติก ปลาชาร์อาร์กติก ปลาเคปลิน และปลาเทราต์ทะเลสาบ
ถึงแม้ว่าชาวอินุอิตไม่สามารถปลูกพืชพื้นเมืองเป็นอาหารในพื้นที่อาร์กติก ได้ แต่ในอดีตชาวอินุอิตก็สามารถเก็บพืชที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาบริโภคได้[3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] พืชเหล่านี้มี
เบอร์รี เช่น โครว์เบอร์รี (เบอร์รีอีกา) และ เคลาด์เบอร์รี (เบอร์รีเมฆ)
พืชที่ไม่มีเนื้อไม้ เช่น หญ้า และไฟร์วีด (วัชพืชไฟ)
หัวมัน และลำต้นพืช ต่าง ๆ เช่น เมาส์ฟูด (อาหารหนู) และรากพืชต่าง ๆ ในพื้นที่ทันดรา ซึ่งเป็นรากพืชที่เก็บกักตุนโดยหนูโวล ไว้ในรู
รากต่าง ๆ เช่น มันสปริงบิวตี และสวีตเวช (เวชหวาน)
สาหร่าย
มักบริโภคแบบแช่แข็ง ดิบ หรือต้ม โดยใส่เครื่องปรุงหรือเครื่องเทศน้อยมาก[3] อาหารอินุอิตหลัก ได้แก่
อกูตัก (Akutaq) : เบอร์รี ผสมไขมัน
บันน็อก (Bannock) : แฟลตเบรด (ขนมปัง)
วิธีการเตรียมอาหาร คือ การหมักดอง เช่น ปลาดอง หรือเนื้อดอง (เช่น เนื้อวอลรัส และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทะเลอื่น) โดยหมักดองด้วยวิธีอิกูนัก (Igunaq) ซึ่งเป็นการหมักดองไว้ในดินและน้ำแข็ง
ชาแลบราดอร์
ซัวอาซัด (Suaasat) : ซุปทำจากเนื้อแมวน้ำ วาฬ เรนเดียร์ หรือนกทะเล
กระดูกวาฬ
Searles, Edmund. "Food and the Making of Modern Inuit Identities." Food & Foodways: History & Culture of Human Nourishment 10 (2002): 55–78.
Inuit Tapiriit Kanatami . "Arctic Wildlife" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 13 August 2007. สืบค้นเมื่อ 20 November 2007 . Not included are the myriad of other species of plants and animals that Inuit use, such as geese, ducks, rabbits, ptarmigan, swans, halibut, clams, mussels, cod, berries and seaweed. "kuanniq" . Asuilaak Living Dictionary . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-12-13. สืบค้นเมื่อ 16 February 2007 .Bennett, John, and Susan Rowley, eds. Uqalurait: An Oral History of Nunavut. Canada: McGill-Queen's Univ. Press, 2004.