Loading AI tools
สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สะพานเทพหัสดิน (อังกฤษ: Thephasadin Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถนนเทพรัตน (ทางหลวงหมายเลข 34) ขนาด 10 ช่องจราจร ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง[1]
สะพานเทพหัสดิน | |
---|---|
พิกัด | 13.4862°N 101.0039°E |
เส้นทาง | ถนนเทพรัตน กม. 50+500 |
ข้าม | แม่น้ำบางปะกง |
ที่ตั้ง | ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา |
ชื่อทางการ | สะพานเทพหัสดิน |
ชื่ออื่น | สะพานบางปะกง |
ตั้งชื่อตาม | พระยาเทพหัสดิน |
เหนือน้ำ | สะพานทางหลวงพิเศษหมายเลข |
ท้ายน้ำ | อ่าวไทย |
ข้อมูลจำเพาะ | |
ประเภท | • สะพานหมุน (Swing Bridge) (สะพานเดิมและสะพานใหม่ 1) • สะพานแบบคานคอนกรีตอัดแรงรูปตัวไอ (ทั้ง 4 สะพานปัจจุบัน) |
วัสดุ | คอนกรีตเสริมเหล็ก |
ความยาว | 340 เมตร (สะพานเดิม) 417 เมตร (สะพานใหม่ 1) |
ความกว้าง | 6.08 เมตร (สะพานเดิม) |
ประวัติ | |
ผู้สร้าง | บริษัท สง่าพาณิชย์ (สะพานเดิม) |
วันเริ่มสร้าง | 28 ตุลาคม พ.ศ. 2492 |
งบก่อสร้าง | 6.124 ล้านบาท |
วันเปิด | 12 เมษายน พ.ศ. 2494 |
สร้างใหม่ | • กันยายน พ.ศ. 2512 (สะพานที่ 1) • พ.ศ. 253X (สะพานที่ 2) • 1 เมษายน พ.ศ. 2539 (สะพานที่ 3) • พ.ศ. 2542-2543 (สะพานที่ 4) |
ที่ตั้ง | |
สะพานเทพหัสดิน เดิมเป็นส่วนหนึ่งของถนนสุขุมวิท ตามนโยบายการสร้างทางหลวงเชื่อมโยงจังหวัดชายทะเลฝั่งตะวันออกเข้าถึงกัน ใน “แผนการทางหลวงแผ่นดินทั่วราชอาณาจักร พ.ศ. 2479” ซึ่งถนนสุขุมวิทนั้นอยู่ภายใน "โครงการตัดถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก" มีระยะเวลาโครงการตั้งแต่ พ.ศ. 2479 - 2497 ระยะเวลารวม 18 ปี เริ่มต้นกิโลเมตรที่ 0 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถึงปลายทางคืออำเภอเมืองตราดที่กิโลเมตรที่ 400 โดยกำหนดให้สะพานเทพหัสดินนั้นอยู่ในกิโลเมตรที่ 80[2]
ช่วงก่อนที่จะสร้างสะพานเทพหัสดิน วิธีสัญจรข้ามแม่น้ำบางปะกงช่วงถนนสุขุมวิทในอดีตนั้นใช้การโดยสารแพขนานยนต์ในการขนส่งยานพาหนะข้ามทั้งสองฝั่งของเส้นทาง หรืออ้อมไปใช้เส้นทางบริเวณอำเภอเมืองฉะเชิงเทราซึ่งใช้ระยะทางในการข้ามแม่น้ำที่ใกล้กว่า โดยสะพานเทพหัสดินเริ่มต้นก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ดำเนินการก่อสร้างโดย บริษัท สง่าพาณิชย์ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 6,124,000 บาท มีความยาว 340 เมตร ช่องจราจรกว้าง 6 เมตร ประกอบกับทางเท้า 2 ข้าง กว้างข้างละ 0.04 เมตร ความกว้างรวม 6.08 เมตร และมีตอม่อรองรับสะพาน 25 ตัน โครงสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก สามารถรับน้ำหนักได้ตามมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา[3] ตรงกลางสะพานมีแกนหมุนสามารถเปิดให้เรือสามารถสัญจรผ่านได้ในรูปแบบของสะพานหมุน[4] (Swing bridge) เปิดใช้งานในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2494[5] และตั้งชื่อว่าสะพานเทพหัสดิน เพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อก่อสร้างสะพาน คือ พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในสมัยของรัฐบาลจอมพล แปลก พิบูลสงครามในขณะนั้น[3][6]
หลังจากเปิดใช้งานมาได้ระยะหนึ่ง เนื่องจากต้นทุนการสร้างสะพานที่สูงมากในขณะนั้น จึงมีการตั้งด่านเก็บค่าผ่านทางเพื่อเก็บค่าธรรมเนียมการใช้งานสะพานเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2498 และยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อปี พ.ศ. 2504 หลังจากคุ้มค่ากับงบประมาณค่าก่อสร้างแล้ว[3][7]
ปัจจุบันตัวสะพานเทพหัสดินเดิมถูกใช้งานเป็นท่าเรือในการขึ้นลงเรือของชาวประมง และผู้ที่ชื่นชอบการตกปลามักจะมาใช้ตัวสะพานที่เหลือดังกล่าวในการตกปลา ตัวโครงสร้างนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของเทศบาลตำบลท่าข้าม ซึ่งจากอายุการใช้งานที่ยาวนานจึงมีการทรุดตัว อาจมีการพิจารณางดใช้งานและรื้อถอน เนื่องจากในอนาคตกระทรวงคมนาคมมีโครงการจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงอีกเส้นทางในบริเวณดังกล่าว[8]
หลังจากสร้างสะพานเทพหัสดินเดิมไประยะหนึ่ง ได้มีการสร้างสะพานขึ้นมาคู่ขนานกับสะพานเทพหัสดินเดิม[4] เพื่อรองรับการจราจรที่เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งสะพานเดิมชำรุดทรุดโทรมจนไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้นำชื่อมาใช้กับสะพานที่ก่อสร้างขึ้นมาใช้งานในภายหลัง ประกอบไปด้วย
ในปัจจุบัน สะพานเทพหัสดินนั้นเป็นสะพานสำหรับถนนเทพรัตน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 34) โครงสร้างปัจจุบันถูกปรับปรุงให้ไม่สามารถหมุนเปิดให้เรือผ่านได้แล้ว โดยเป็นสะพานในรูปแบบของคานคอนกรีตอัดแรงรูปตัวไอ (I Girder)[11] รองรับช่องทางจราจรจำนวน 10 ช่องจราจร จากทั้ง 4 สะพาน ขนาบกันไป แบ่งเป็น
โดยมีทางพิเศษบูรพาวิถีซ้อนอยู่ด้านบนบริเวณเกาะกลางถนน
การสัญจรทางน้ำนั้น ปัจจุบันสะพานที่ 1 และ 2 ไม่สามารถหมุนเปิดให้เรือผ่านได้แล้ว แต่ยังคงมีการสัญจรทางน้ำผ่านใต้สะพานอยู่ในช่วงเวลาน้ำลงโดยเรือโป๊ะลำเลียงสินค้า เพื่อเข้าไปรับส่งสินค้าระหว่างอ่าวกรุงเทพและท่าเรือบ้านโพธิ์[1] ตำบลสนามจันทร์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นท่าเรือของเอกชน[12]
สะพานเทพหัสดิน มีการติดตั้งระบบโทรมาตรโดยกรมชลประทาน ชื่อว่า สถานีโทรมาตรพานทอง[13] ซึ่งเป็นหนึ่งในโทรมาตรของลุ่มน้ำบางปะกง สามารถตรวจวัดระดับน้ำ ค่าความเค็ม[14] ค่าออกซิเจน ค่าความเป็นกรด-ด่าง และค่า ORP ได้[15] เป็นการติดตั้งเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลเพื่อใช้เตือนภัยและใช้พยากรณ์น้ำในลุ่มน้ำบางปะกง[13]
สะพานเทพหัสดิน ถูกพูดถึงในอีกแง่มุมว่าเป็นสะพานที่มีอาถรรพ เนื่องจากมีคนมักจะมากระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตายลงไปในแม่น้ำบางปะกง โดยหลายคนทั้งผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ผู้ถูกช่วยเหลือ และผู้รอดชีวิตจากการกระโดดสะพานเล่าตรงกันว่าพบเห็นหญิงสาว บ้างบอกว่าชุดสีแดง[16][17] บ้างบอกว่าชุดสีขาว[18] นั่งอยู่บนราวสะพาน หรือยืนอยู่บริเวณสะพาน และกวักมือเรียกให้ตนตามไป ก่อนจะมีพลเมืองดีมาช่วยเหลือหรือรู้สึกตัวเมื่อจมลงไปในแม่น้ำแล้ว[18] ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครกู้ภัยระบุว่าบริเวณสะพานดังกล่าวมีผู้มาฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้ง[18][19] จนกระทั่งมีการนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีต่าง ๆ ตามความเชื่อ[20]
นอกจากนี้ยังมีการนำประเด็นความเชื่อดังกล่าวไปพูดคุยในรายการโหนกระแส ออกอากาศทางช่อง 3 เอชดี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 และเชิญพระสงฆ์ คนในพื้นที่และอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่เข้ามาร่วมพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว[21]
ในขณะเดียวกันได้มีผู้ที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณสะพานเทพหัสดินได้ออกมาโต้แย้งถึงความเชื่อดังกล่าว ว่าตนอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวมาเกือบ 24 ปี ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อย่างที่มีการบอกเล่า รวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่มาอยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงและใต้สะพาน รวมถึงตำนานต่าง ๆ ทั้งผีชุดแดง และการให้ผีมาช่วยสร้างสะพานในสงครามโลกครั้งที่ 2[22] ซึ่งสะพานสร้างขึ้นหลังสิ้นสุดสงครามหลายปีแล้ว โดยผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงและชอบมาตกปลาอยู่เป็นประจำบนสะพานก็ได้ให้ความเห็นว่าตนตกปลาอยู่บริเวณนี้มา 30 ปี อาจจะมีคนมาคิดฆ่าตัวตายที่นี่บ่อยก็จริง แต่ไม่เคยประสบหรือพบเรื่องราวลี้ลับตามที่มีการบอกเล่ากันเลยสักครั้ง[23]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.