Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อังกฤษ: Suranaree University of Technology; อักษรย่อ: มทส. – SUT) เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 โดยได้มีการยกฐานะจาก "วิทยาลัยสุรนารี" มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นมหาวิทยาลัยแห่งที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือถัดจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม (ต่อมาคือ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) และเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐแห่งแรกของประเทศไทย
Suranaree University of Technology | |
ตราท้าวสุรนารี สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย | |
ชื่อเดิม | วิทยาลัยสุรนารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
---|---|
ชื่อย่อ | มทส.[1] / SUT |
คติพจน์ | ซื่อตรง สุภาพ สะอาด ประหยัด คือ จริยวัตร ของ มทส. |
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ |
สถาปนา | 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 |
สังกัดการศึกษา | กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม |
สังกัดวิชาการ |
|
งบประมาณ | 2,010,594,700 บาท (พ.ศ. 2568)[2] |
นายกสภาฯ | ศาสตราจารย์ นายแพทย์ วิจารณ์ พานิช |
อธิการบดี | รองศาสตราจารย์ อนันต์ ทองระอา |
อาจารย์ | 539 คน (พ.ศ. 2566) |
บุคลากรทั้งหมด | 2,013 คน (พ.ศ. 2567) |
ผู้ศึกษา | 17,303 คน (พ.ศ. 2563)[3] |
ที่ตั้ง | |
ต้นไม้ | ปีบทอง |
สี | สีแสด สีทอง |
ฉายา | มอสุรนารี |
มาสคอต | ท้าวสุรนารี |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย |
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้ทำการจัดการเรียนการสอนครอบคลุมสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ใน 8 สำนักวิชาและ 1 สถาบันสมทบ โดยมีหลักสูตรในระดับปริญญาตรี 49 หลักสูตร ปริญญาโท 36 หลักสูตร และปริญญาเอก 29 หลักสูตร (ข้อมูลในปีการศึกษา 2563) มีนักศึกษากว่า 17,000 คน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณาจารย์คุณวุฒิปริญญาเอกคิดเป็นร้อยละสูงที่สุดในประเทศไทย (ร้อยละ 80.21) และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีผลงานวิจัยต่อหัวคณาจารย์สูงที่สุดในประเทศไทย "ที่ 1"
วิทยาลัยสุรนารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 รัฐบาลมีนโยบายกระจายโอกาสทางการศึกษาระดับอุดมศึกษาไปสู่ภูมิภาคและชนบทให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นใน พ.ศ. 2527ทบวงมหาวิทยาลัยจึงเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ในส่วนภูมิภาค 5 แห่ง ได้แก่ภาคเหนือ 1 แห่ง ภาคใต้ 1 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 แห่ง ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้จัดตั้งวิทยาลัยในสังกัดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดนครราชสีมา โดยวิทยาลัยที่จัดตั้งขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาให้ใช้ชื่อว่า“ วิทยาลัยสุรนารี ”และเลือกพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยบ้านยาง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 7,000 ไร่ เป็นที่ตั้ง
ต่อมารัฐบาลซึ่งมีชาติชาย ชุณหะวัณเป็นนายกรัฐมนตรีได้เล็งเห็นความจำเป็นในการเร่งรัดจัดตั้งมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นในส่วนภูมิภาค เพื่อให้มีศักยภาพและความพร้อมที่จะสนองความต้องการของการพัฒนาประเทศในภูมิภาคต่างๆ ดังนั้นคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2531 จึงมีมติให้ยกฐานะวิทยาลัยในภูมิภาคทั้ง 5 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกเทศพร้อมกันนี้ได้อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดตั้งมหาวิทยาลัยสุรนารีโดยมีปลัดทบวงมหาวิทยาลัย (ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน) เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้จัดทำโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเสนอต่อรัฐบาล พร้อมทั้งเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งมหาวิทยาลัยต่อสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมพ.ศ. 2532
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติดังกล่าว และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2533 ให้ยกฐานะ "วิทยาลัยสุรนารี" ในสังกัดมหาวิทยาลัยขอนแก่น ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีและถือเอาวันที่ 27 กรกฎาคม 2533 เป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยในช่วงเดือนกรกฎาคม 2533 - พฤษภาคม 2536 มหาวิทยาลัยได้พัฒนาที่ทำการโดยจัดจ้างก่อสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้างและจัดให้มีพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2533 อาคารและสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่แล้วเสร็จทันการเปิดดำเนินการรับนักศึกษาในเดือนพฤษภาคมโดยมีศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้านเป็นอธิการบดีผู้ก่อตั้ง
ในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 3 ด้านการวิจัย (ดีเลิศ) และ อันดับที่ 7 ด้านการเรียนการสอน (ดีเยี่ยม) ของประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2552 มหาวิทยาลัยได้รับการประเมินจากสำนักงานรับรองมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) ในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่เน้นการผลิตบัณฑิตและวิจัย ให้เป็นอันดับหนึ่งในบรรดามหาวิทยาลัยของรัฐ และเป็นอันดับที่สองของประเทศ
มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงมากทางด้านสาขาวิชาฟิสิกส์ โดยได้รับการจัดอันดับจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ให้เป็นอันดับหนึ่งของประเทศต่อเนื่องทั้งในปี พ.ศ. 2550 และ 2553 นอกจากนี้สาขาวิชาอื่นที่มีได้รับการจัดอันดับในเกณฑ์สูงได้แก่ สาขาวิชาเคมี สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมเซรามิก และสาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ มหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับอย่างกว้างจากวงการอุตสาหกรรม โดยได้เปิดสอนสาขาวิชาต่าง ๆ ทางด้านวิศวกรรมหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย
มหาวิทยาลัยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ จาก กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจัดเป็นมหาวิทยาลัยที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับการรับเลือก ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีชื่อเสียงเก่าแก่อื่น ๆ และได้รับการจัดอันดับการมีงานทำและศึกษาต่อของบัณฑิตร้อยละ 96 ซึ่งสูงที่สุดในประเทศ [4]
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อยู่ในอันดับที่ 958 ของโลก และอันดับที่ 9 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[5]
ปี พ.ศ. 2558 ได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 ร่วมของประเทศไทยและที่ 601-800 ร่วมของโลก ตามการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของนิตยสารไทมส์ไฮเออร์เอดยูเคชัน[6], ตีพิมพ์งานวิจัยในนิตยสาร Nature มี Nature Index ลำดับ 2 ของประเทศ[7]และ Nature Publishing Index เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ[8] มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นต้นแบบของการจัดการสหกิจศึกษา (Cooperative Education) ซึ่งจัดให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา ผลการดำเนินงานพบว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ช่วยให้บัณฑิตของมหาวิทยาลัยมีอัตราการได้งานทำสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และในปี พ.ศ. 2555 มหาวิทยาลัยได้รับเลือกจากคณะกรรมการสมาคมสหกิจศึกษาโลกให้เป็นสำนักงานสำนักงานสหกิจศึกษาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้รับการประเมินคุณภาพการศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ที่ 2.88 จากคะแนนเต็ม 3 ซึ่งอยู่ในระดับดีมาก และได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกจาก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ในกลุ่มการผลิตบัณฑิตและวิจัยในรอบการประเมินที่ 2 เท่ากับ 4.76 จากคะแนนเต็ม 5 อยู่ในระดับดีมาก
ปี พ.ศ. 2561 มหาวิทยาลัย จัดตั้ง ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี[9]
โดยสรุปแล้ว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีกำเนิดมาจากวิทยาลัยสุรนารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2527 มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะขยายการศึกษาชั้นสูงไปสู่ภูมิภาค ต่อมาได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เมื่อปีพุทธศักราช 2533 ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีศูนย์กลางการบริหารงานตั้งอยู่ที่ ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติแห่งแรกของไทย และเป็นมหาวิทยาลัยรัฐลำดับที่ 16 ของประเทศ
ภาพท้าวสุรนารี สื่อความหมายถึง ปรัชญา และ ภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยเน้น ความ เคารพ และศรัทธาต่อท้าวสุรนารี ในฐานะวีรสตรีแห่งชาติ
ภาพเส้นโค้งงอนหงายขนาบ 2 ข้างของภาพข้างละ 4 เส้น เกยและเชื่อมต่อกันเสมือนหนึ่งกระเบื้องมุงหลังคาคร่อมภาพ สื่อความหมายถึง ความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ต่อเนื่องกัน และความเจริญก้าวหน้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ภาพเชิงนามธรรมของพืชพรรณและเฟืองจักร สื่อความหมายถึง การเกษตร และอุตสาหกรรม
ความหมายโดยรวม คือ ปรัชญาและภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยเน้น ความ เคารพ และศรัทธาต่อท้าวสุรนารี ในฐานะวีรสตรีแห่งชาติ
สีแสด หมายถึง สีประจำจังหวัดนครราชสีมา, สีธงประจำกองเสือป่านครราชสีมา ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นสีประจำวันพฤหัสบดี ซึ่งถือว่าเป็นวันครู
สีทอง หมายถึง เป็นสีแห่งความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ และศรัทธา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนครอบคลุมทั้งสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ การบริหารการศึกษาดำเนินการโดย 8 คณะ 1 สถาบันสมทบ และ 1 สถาบันวิจัย ประกอบไปด้วย
กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
|
กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ |
กลุ่มมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
|
โรงเรียน
|
สถาบันสมทบ |
ศูนย์/สถาบัน
|
1. รอบที่ 1 Portfolio
2. รอบที่ 2 โควตา
3. รอบที่ 3 Admission 1
4. รอบที่ 4 Admission 2
5. รอบที่ 5 รับตรง
6. สมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษา
7. รับโอนจากสถาบันอื่น
8. กลับเข้าศึกษาใหม่
ภาคการศึกษาที่ 1 | สิงหาคม - พฤศจิกายน |
ภาคการศึกษาที่ 2 | พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ |
ภาคการศึกษาที่ 3 | มีนาคม - มิถุนายน |
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเปิดสอนหลักสูตรสหกิจศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเป็นแห่งแรกของโลกในปีการศึกษา 2556 หลักสูตรสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีบูรณาการการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีในสถานศึกษา กับการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการเสมือนเป็นพนักงาน อย่างน้อย 16 สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเรียนรู้โดยใช้ประสบการณ์จากการทำงานจริงเป็นหลักหรือโครงงานพิเศษที่มีประโยชน์กับสถานประกอบการ เช่น การปรับปรุง การเพิ่มประสิทธิภาพ หรือการแก้ปัญหากระบวนการทำงาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างให้นักศึกษามีทักษะการทำงาน ทักษะด้านสังคม มีความพร้อมด้านงานอาชีพ และมีความรู้ความสามารถตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารียังคงธำรงไว้ซึ่งการเป็นต้นแบบและผู้นำด้านสหกิจศึกษาของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และในปี 2563 มีจำนวนตำแหน่งงานที่ถูกเสนอจากสถานประกอบการมากกว่า 7,126 ตำแหน่งงาน
ระดับภูมิภาค | ระดับชาติ | ระดับนานาชาติ |
---|---|---|
สถาบันแม่ข่ายเครือข่ายพัฒนาสหกิจศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง | รางวัลผู้บริหารสถานศึกษาดำเนินงานสหกิจศึกษาดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2553 และ 2554 | การประกาศเกียรติคุณในทำเนียบหอประวัติวารสารสมาคมสหกิจศึกษาโลก (WACE co-op Hall of Fame) ปี พ.ศ. 2555, 2556, 2563, 2564 |
รางวัลสถานศึกษาดำเนินงานสหกิจศึกษาดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2553 | ||
รางวัลสถานศึกษาดำเนินงานสหกิจศึกษานานาชาติดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2556 | ||
รางวัลสถานศึกษาดำเนินการนวัตกรรมสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานดีเด่น ระดับชาติ ประจำปี 2563 | ||
รางวัลนักศึกษาสหกิจศึกษานานาชาติดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2555, 2558 , 2559 และ 2562 | ||
รางวัลโครงงานสหกิจศึกษาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการจัดการดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2554 | ||
รางวัลโครงงานสหกิจศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2558 และ 2562 | ||
รางวัลนักศึกษาสหกิจศึกษานานาชาติรองดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2560 | ||
รางวัลโครงงานด้านนวัตกรรมสหกิจศึกษารองดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2560 และ 2563 | ||
คณาจารย์นิเทศสหกิจศึกษาดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2562 และ 2563 |
พ.ศ. | คณะ |
---|---|
2533 2560 |
สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ |
|
|
อันดับมหาวิทยาลัย | ||||
---|---|---|---|---|
อันดับในประเทศ(อันดับนานาชาติ) | ||||
สถาบันที่จัด/ปีการศึกษาที่จัด | อันดับ | |||
QS (Asia) (2020) | 9(261-270) | |||
QS (World) (2020) | 9(-) | |||
RUR (2019) | 3(643) | |||
Webometrics (2020) | 7(1200) | |||
UI Green Metric (2019) | 10(180) | |||
SIR (2020) | 10(752) | |||
SIR (2014) | 11(608) | |||
THE (World) (2020) | 10(1000+) | |||
uniRank (2019) | 12(1405) | |||
URAP (2020) | 8(1385) | |||
U.S. News (2017) | - | |||
เมื่อ พ.ศ. 2549 สกอ. ได้ประกาศ 50 อันดับมหาวิทยาลัยด้านวิจัย และด้านการเรียนการสอน โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 7 ด้านการเรียนการสอนและลำดับที่ 3 ด้านการวิจัย
นอกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์การจัดอันดับและการให้คะแนนที่แตกต่างกัน ได้แก่
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยของเว็บโอเมตริกซ์ รอบที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับที่ 7 ของประเทศไทย 261 ของทวีปเอเชีย และอยู่ในอันดับที่ 1200 ของโลก[13]
เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวที่จัดโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ในรอบ พ.ศ. 2561 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 10 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 180 ของโลก[14]
อันดับมหาวิทยาลัยโดย SCImago Institutions Ranking หรือ SIR ซึ่งเป็นการจัดอันดับสถาบันที่มีผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ ผลการจัดอันดับสถาบันการศึกษา Scimago Institutions Rankings 2020 ได้รับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ [15] ซึ่งผลการจัดอันดับประเภทภาพรวม (Overall Rank) ปรากฏว่ามีมหาวิทยาลัยในไทยติดอันดับจำนวน 26 แห่ง โดยผลการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ติดอันดับที่ 10 ของไทย อันดับที่ 752 ของโลก[16]
Scimago Institutions Rankings เป็นการจัดอันดับจากองค์การในประเทศสเปน ทำการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา โดยมีเกณฑ์ในการพิจารณาจากผลงาน 3 ด้าน[17]
uniRank เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยหน่วยงานไม่แสวงหากำไร IREG Observatory ที่ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการศึกษาจากหลายสถาบัน และจดทะเบียนหน่วยงานอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม อันดับของ uniRank จะอาศัยการรวบรวมข้อมูลตัววัดเว็บ (web metrics) 5 ฐานข้อมูลได้แก่ 1. Moz Domain Authority 2. Alexa Global Rank 3. SimilarWeb Global Rank 4. Majestic Referring Domains 5. Majestic Trust Flow โดยการจัดอันดับประจำปี ค.ศ. 2019 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีอยู่ในอันดับที่ 12 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยภายในประเทศไทย และอยู่ในอันดับที่ 1,405 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก [18]
อันดับที่จัดโดย University Ranking by Academic Performance หรือ URAP ปี พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 8 ของประเทศไทย และอันดับ 1385 ของโลก ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม B โดยมีพื้นฐานทางด้านวิชาการตรงตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คุณภาพและปริมาณของบทความตีพิมพ์ทางวิชาการ บทความวิจัย การเผยแพร่ และการอ้างอิง[19]
สภามหาวิทยาลัย
สำนักงานอธิการบดี
|
หน่วยวิสาหกิจ
หน่วยงานอื่น
หน่วยงานในอนาคต
|
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันและองค์กรต่างประเทศภายใต้ข้อตกลงประเภทต่าง ๆ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา และดำเนินกิจกรรมแลกเปลี่ยนความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงกับสถาบันและองค์กรในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้ขยายเครือข่ายทางวิชาการสู่ระดับนานาชาติกับสถาบันและองค์กรทุกทวีปทั่วโลก จำนวน 99 แห่ง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มหาวิทยาลัยลงนามข้อตกลงแลกเปลี่ยนความร่วมมือกับสถาบันและองค์กรต่างประเทศ จำนวน 16 แห่ง ประกอบด้วย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือและการดำเนินกิจกรรมร่วมกับสถาบันและองค์กรในประเทศภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือหลายด้าน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จำนวน 17 ความร่วมมือ ประกอบด้วย
สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทางคือ จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกเข้าทาง หลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ที่สระบุรี ขับตามเส้นทางจนถึงสะพานต่างระดับบริเวณสามแยกปักธงชัย (ก่อนถึงตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 5 กม.) จากนั้นขึ้นสะพานตรงไปยัง อ.ปักธงชัย อีกประมาณ 7 กม. ทางเข้ามหาวิทยาลัยจะอยู่ทางด้านขวามือ รวมระยะทาง 259 กิโลเมตร อีกเส้นทาง คือ จากกรุงเทพมหานครใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านมีนบุรี ฉะเชิงเทรา พนมสารคาม กบินทร์บุรี ปักธงชัย มายังนครราชสีมา ก่อนถึงนครราชสีมาประมาณ 20 กม. จะมีทางเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ทางด้านซ้ายมือ รวมระยะทาง 273 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งตะวันออก เฉียงเหนือ ไปนครราชสีมาทุกวัน ท่านสามารถลงรถได้ที่สามแยกปักธงชัย และขึ้นรถเมล์สาย มทส เข้ามายัง มทส (มีรถเมล์ 2 สายคือ สาย มทส - เทคโนโลยีราชมงคล สีเหลือง ขาว และสายหัวทะเล - มทส สีม่วงขาว ราคาค่าโดยสาร 14 บาท)
มีรถไฟออกจาสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ไปนครราชสีมาทุกวัน รายละเอียดสอบถามที่หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย
รายนามอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี | |||
---|---|---|---|
รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง | อ้างอิง | |
1. ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน |
27 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2538 (รักษาการ) |
||
2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทวี เลิศปัญญาวิทย์ | |||
3. ศาสตราจารย์ ดร.ประสาท สืบค้า |
1 สิงหาคม พ.ศ. 2548 - 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 |
||
4. รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ | |||
5. รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2564 - 12 กันยายน พ.ศ. 2564 (รักษาการ) | [21] |
ภาพถ่ายของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีทั้งในอดีดและปัจจุบันที่อยู่ในวิกิพีเดีย สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.