จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาภารตะ (สันสกฤต: महाभारत มหาภารต) เป็นหนึ่งในสอง ของ มหากาพย์ ที่ยิ่งใหญ่ของ อินเดีย (มหากาพย์อีกเรื่องคือ รามายณะ) ประพันธ์เป็นโศลกภาษาสันสกฤต มหากาพย์เรื่องนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์ "อิติหาส" (แปลตามศัพท์ว่า "ประวัติศาสตร์") และเป็นส่วนหนึ่งทึ่สำคัญยิ่งของ เทพปกรณัมในศาสนาฮินดู
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
ในตามตำนานกล่าวว่าผู้แต่งมหากาพย์เรื่องนี้คือ ฤๅษีกฤษณไทวปายน หรือฤๅษีวยาส เชื่อกันว่าแต่งไว้ราว 800-900 ปีก่อนคริสต์ศักราช[1] นับเป็นมหากาพย์ที่ยาวที่สุดในโลก[2] ด้วยมีจำนวนคำ 1.8 ล้านคำ นับว่ายาวกว่ามหากาพย์อีเลียด หรือมหากาพย์โอดิสซี ของกรีกโบราณ[1] มีเนื้อหาซับซ้อน เล่าเรื่องอันยืดยาวที่เกี่ยวข้องกับเทพปกรณัม การสงคราม และหลักปรัชญาของอินเดีย ทั้งนี้ยังมีเรื่องย่อย ๆ แทรกอยู่มากมาย ซี่งหลายเรื่องก็เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในเมืองไทย เช่น ภควัทคีตา ศกุนตลา สาวิตรี พระนล กฤษณาสอนน้อง อนิรุทธ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ยังถือว่าเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของศาสนาฮินดูด้วย นอกจากนี้ มหาภารตะนี้ยังสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ศาสนา การเมือง ศิลปะหลายแขนง ประวัติความเป็นมาของวงศ์ตระกูลต่าง ๆ ในเรื่อง และธรรมเนียมประเพณีการรบการสงครามของอินเดียยุคโบราณด้วย
มหาภารตะ เป็นเรื่องราวความขัดแย้งของพี่น้องสองตระกูล ระหว่าง ตระกูลเการพ และตระกูลปาณฑพ ซึ่งทั้งสองตระกูลต่างก็สืบเชื้อสายมาจากท้าวภรต แห่ง กรุงหัสตินาปุระ จนบานปลายไปสู่มหาสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร ซึ่งมีพันธมิตรของแต่ละฝ่ายเข้าร่วมรบด้วยเป็นจำนวนมาก กล่าวกันว่านี่คือการต่อสู้ระหว่าง ฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม ความดีและความชั่ว ซึ่งในที่สุดแล้ว ฝ่ายปาณฑพก็เป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้
มหาภารตะประกอบด้วยบรรพ (อ่านว่าบับ หรือ บับ-พะ แปลว่า ภาคหรือบท) ทั้งหมด 18 บรรพ ดังนี้
บรรพ | ชื่อบรรพ | บรรพย่อย | เนื้อหา |
1 | อาทิบรรพ (บรรพแห่งการเริ่มต้น) | 1-19 | บทของมหาภารตะ ว่าด้วยตำนานการเล่าเรื่องมหาภารตะ และกำเนิดของเจ้าชายในกุรุราชวงศ์ทั้งฝ่ายปาณฑพและเการพ และชีวิตของเหล่าเจ้าชายขณะยังเยาว์วัย |
2 | สภาบรรพ (บรรพแห่งสภา) | 20-28 | การสร้างพระราชวังและสภาแห่งใหม่ของพวกปาณฑพที่นครอินทรปรัสถ์ ซึ่งเป็นอาณาเขตที่ท้าวธฤตราษฎร์แบ่งให้พี่น้องปาณฑพทั้งห้าปกครอง พิธีราชสูยะของท้าวยุธิษฐิระ ชีวิตในราชสำนัก การพนันสการะหว่างยุธิษฐิระกับทุรโยธน์ และการเนรเทศเหล่าปาณฑพ |
3 | วนบรรพ (บรรพแห่งป่า) เรียก "อรัณยกะบรรพ" หรือ "อรัณยบรรพ" ก็มี |
29-44 | การเดินป่าของเหล่าปาณฑพในช่วง 12 ปีแห่งการเนรเทศ |
4 | วิราฏบรรพ (บรรพแห่งท้าววิราฏ) | 45-48 | ช่วงที่เหล่าปาณฑพพำนักในราชสำนักของท้าววิราฏในปีที่ 13 แห่งการเนรเทศ |
5 | อุทโยคบรรพ (บรรพแห่งความพยายาม) | 49-59 | ฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพเตรียมการรบ พระกฤษณะพยายามสร้างสันติภาพแก่ทั้งสองฝ่ายแต่ล้มเหลว (อุทโยคะ แปลว่า ความพยายาม) ก่อนสงครามจะเปิดฉาก พระกฤษณะจึงได้สาธยายคำสอนภควัทคีตาแก่อรชุน เพื่อลบข้อสงสัยและความท้อแท้ของอรชุนในการทำสงครามครั้งนี้ |
6 | ภีษมบรรพ (บรรพแห่งภีษมะ) | 60-64 | ช่วงแรกของมหาสงคราม มีภีษมะเป็นแม่ทัพฝ่ายเการพ ที่สุดแล้วภีษมะก็ต้องธนูของอรชุนจำนวนมากจนบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจบัญชาการรบต่อไปได้ |
7 | โทรณบรรพ (บรรพแห่งโทรณาจารย์) | 65-72 | โทรณาจารย์เป็นแม่ทัพฝ่ายเการพแทนภีษมะ กระทั่งถูกธฤษฏะทยุมันจบชีวิตด้วยการตัดศีรษะ ในบรรพนี้ทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียทหารและแม่ทัพนายกองเกือบทั้งหมด |
8 | กรรณบรรพ (บรรพแห่งกรรณะ) | 73 | กรรณะดำรงตำแหน่งแม่ทัพฝ่ายเการพต่อจากโทรณาจารย์จนกระทั่งถูกอรชุนสังหาร ทุหศาสันถูกภีมะฆ่าตาย |
9 | ศัลยบรรพ (บรรพแห่งท้าวศัลยะ) | 74-77 | สงครามดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ท้าวศัลยะ เจ้าเมืองมัทรเทศ เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายเการพแทนกรรณะ ทุรโยธน์ดวลกระบองกับภีมะที่ริมแม่น้ำสรัสวดีและจบลงด้วยความพ่ายแพ้ กองทัพฝ่ายเการพพ่ายแพ้และพินาศสิ้น |
10 | เสาปติกบรรพ (บรรพแห่งการหลับใหล) | 78-80 | ก่อนทุรโยชน์จะเสียชีวิต อัศวัตถามา กฤปาจารย์ และกฤตวรมัน กองกำลัง 3 คนสุดท้ายของฝ่ายเการพที่เหลืออยู่ ลอบทำลายกองทัพปาณฑพขณะกำลังนอนหลับ (เสาปติก แปลว่า การหลับใหล) ฝ่ายปาณฑพรอดชีวิตเพียง 7 คนเท่านั้น |
11 | สตรีบรรพ (บรรพแห่งสตรี) | 81-85 | นางคานธารี นางกุนตี และหญิงคนอื่นๆ ต่างโศกเศร้ากับความตายของเหล่านักรบทั้งสองฝ่าย |
12 | ศานติบรรพ (บรรพแห่งสันติ) | 86-88 | ท้าวธฤตราษฎร์สละราชสมบัติ ยุธิษฐิระขึ้นครองราชสมบัติเมืองหัสตินาปุระแทน และรับคำสอนจากภีษมะก่อนที่ภีษมะจะละสังขาร (บรรพนี้เป็นบรรพที่ยาวที่สุด) |
13 | อนุศาสนบรรพ (บรรพแห่งอนุศาสน์หรือคำสอน) | 89-90 | คำสอนครั้งสุดท้ายของภีษมะก่อนการละสังขาร (เนื้อหาต่อเนื่องจากบรรพที่ 12) |
14 | อัศวเมธิกบรรพ (บรรพแห่งพิธีอัศวเมธ) | 91-92 | ยุธิษฐิระทำพิธีอัศวเมธ (การฆ่าม้าบูชายัญ) เพื่อประกาศอำนาจของกรุงหัสตินาปุระ อรชุนเป็นแม่ทัพนำทหารปราบดินแดนต่างๆ ในพิธีนี้ อรชุนรับคำสอน "อนุคีตา" จากพระกฤษณะ |
15 | อาศรมวาสิกบรรพ (บรรพแห่งอาศรม) | 93-95 | ท้าวธฤตราษฎร์ออกผนวชพร้อมกับ นางคานธารี นางกุนตี และสัญชัยสารถี ต่อมาเหล่ากษัตริย์ทั้ง 3 องค์สิ้นพระชนม์ด้วยไฟป่า เหลือเพียงสัญชัยเท่านั้นที่รอดชีวิต และไปอาศัยอยู่ที่เทือกเขาหิมาลัย |
16 | เมาสลบรรพ (บรรพแห่งไม้ตะบอง) | 96 | ความพินาศของเหล่ากษัตริย์ยาทวะหรือยาทพจากไม้ตะบอง (เมาสละ แปลว่า ตะบอง) วาระสุดท้ายของพระพลราม พระกฤษณะและกรุงทวารกา |
17 | มหาปรัสถานิกบรรพ (บรรพแห่งการเดินทางอันยิ่งใหญ่) | 97 | ยุธิษฐิระสละราชสมบัติและออกผนวชพร้อมเหล่าพี่น้องปาณฑพและนางเทราปตี ทั้งหมดออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ จนกระทั่งทั้งหมดได้พยายามไต่เขาหิมาลัยเพื่อไปสู่สวรรค์ นอกจากยุธิษฐิระแล้ว ทุกคนล้วนสิ้นชีวิตระหว่างการไต่เขา |
18 | สวรรคโรหณบรรพ (บรรพแห่งการไปสวรรค์) | 98 | ยุธิษฐิระเผชิญบททดสอบสุดท้ายจากพระธรรมเทพ (พระยม) ก่อนจะได้ไปยังสวรรค์เพื่อพบพี่น้องปาณฑพและเหล่าญาติมิตรที่สิ้นชีวิตไปก่อนทั้งหมด |
ขิละ | หริวังสบรรพ (บรรพว่าด้วยพงศาดารแห่งพระหริ) | 99-100 | ประวัติของพระกฤษณะ (พระหริ) ซึ่งไม่ได้รวมอยู่ทั้ง 18 บรรพของมหาภารตะ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
พี่น้องฝ่ายเการพ คือโอรสและธิดาของท้าวธฤตราษฎร์กับนางคานธารีจำนวนทั้งสิ้น 101 องค์ ประกอบไปด้วย ทุรโยธน์ ผุ้เป็นพี่ชายคนโต ทุหศาสัน วิกรรณะ น้องชายอีก 97 คน และน้องสาว 1 คนคือ เจ้าหญิง ทุหศาลา นอกจากนี้ยังมีกรรณะ ผู้เป็นสหายของธุรโยซน์ ซึ่งตั้งตัวเป็นศัตรูกับฝ่ายปาณฑพรวมอยู่ด้วย
คำว่าเการพนี้มีที่มาจากคำว่า กุรุราชวงศ์
ในประเทศไทยมีผลงานเกี่ยวกับมหาภารตะในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
ปฐมกษัตริย์กุรุ | |||||||||||||||||||||||
พระแม่คงคา | ท้าวศาสตนุ | พระนางสัตยวดี | |||||||||||||||||||||
ภีษมะ | จิตรางคทะ | วิจิตรวีรยะ | |||||||||||||||||||||
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.