Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ต่อมลูกหมาก (อังกฤษ: prostate) เป็นต่อมมีท่อของระบบสืบพันธุ์เพศชายในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมส่วนใหญ่และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังบางชนิด ต่อมลูกหมากมีความแตกต่างกันอย่างมากไปตามแต่ละสปีชีส์ ทั้งในทางกายวิภาคศาสตร์ เคมี และสรีรวิทยา ในภาษาอังกฤษคำว่า prostate มาจากภาษากรีกโบราณว่า προστάτης (prostátēs) แปลตรงตัวได้ว่า "สิ่งที่ตั้งอยู่มาก่อน", "ผู้คุ้มครอง", "ผู้ปกครอง"[1] ส่วนในภาษาไทยราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายคำว่าลูกหมากในแง่อวัยวะไว้ว่า เป็นต่อมในเพศชายรูปร่างคล้ายเนื้อในของผลหมาก[2]
ต่อมลูกหมาก | |
---|---|
กายวิภาคเพศชาย | |
รายละเอียด | |
คัพภกรรม | การโปนของเอนโดเดิร์มของท่อปัสสาวะ |
หลอดเลือดแดง | หลอดเลือดแดงอวัยวะเพศภายนอกใน, หลอดเลือดแดงกระเพาะปัสสาวะล่าง, และหลอดเลือดแดงไส้ตรงกลาง |
หลอดเลือดดำ | ข่ายหลอดเลือดดำต่อมลูกหมาก, ข่ายหลอดเลือดดำอวัยวะเพศภายนอก, ข่ายหลอดเลือดดำกระเพาะปัสสาวะ, หลอดเลือดดำกระดูกปีกสะโพกใน |
ประสาท | ข่ายประสาทไฮโปแกสทริกล่าง |
น้ำเหลือง | ต่อมน้ำเหลืองกระดูกปีกสะโพกใน |
ตัวระบุ | |
ภาษาละติน | Prostata |
MeSH | D011467 |
TA98 | A09.3.08.001 |
TA2 | 3637 |
FMA | 9600 |
อภิธานศัพท์กายวิภาคศาสตร์ |
ในทางกายวิภาคศาสตร์ ต่อมลูกหมากสามารถถูกแบ่งย่อยได้สองวิธี คือ แบ่งเป็นบริเวณ หรือ แบ่งเป็นกลีบ ต่อมลูกหมากไม่มีปลอกหรือถุงหุ้ม ในทางตรงกันข้ามจะมีแถบเส้นใยกล้ามเนื้อฝังใน (integral fibromuscular band) ล้อมรอบแทน[3] โดยถูกหุ้มห่ออยู่ในกล้ามเนื้อของฐานเชิงกรานอีกที ซึ่งกล้ามเนื้อจะหดตัวในระหว่างที่มีการหลั่งน้ำอสุจิ นอกจากนี้ตัวต่อมลูกหมากเองยังมีกล้ามเนื้อเรียบบางส่วน คอยช่วยในการขับน้ำอสุจิออกมาในระหว่างการหลั่งน้ำอสุจิด้วย
หน้าที่ของต่อมลูกหมากคือการหลั่งของเหลว ซึ่งเป็นส่วนประกอบในปริมาตรของน้ำอสุจิ น้ำต่อมลูกหมาก (prostatic fluid) นี้มีลักษณะเป็นด่างเล็กน้อย ปรากฏเป็นสีน้ำนมหรือสีขาว และในมนุษย์มักจะมีน้ำต่อมลูกหมากประกอบอยู่ประมาณร้อยละ 30 ของปริมาตรน้ำอสุจิ ส่วนอีกร้อยละ 70 เป็นสเปอร์มาโทซูนและน้ำถุงน้ำอสุจิ[4] โดยความเป็นด่างของน้ำอสุจิช่วยทำให้สภาพกรดของช่องคลอดเป็นกลาง ทำให้อายุของตัวอสุจิยาวนานขึ้น
น้ำต่อมลูกหมากจะถูกขับออกมาในช่วงแรกของการหลั่งน้ำอสุจิ พร้อมกับตัวอสุจิส่วนมาก เมื่อเทียบกับสเปอร์มาโทซูนที่ถูกขับออกมาพร้อมกับน้ำถุงน้ำอสุจิเป็นหลัก จะพบว่า สเปอร์มาโตซูนที่อยู่ในน้ำต่อมลูกหมากจะมีการเคลื่อนไหวเองที่ดีกว่า อยู่รอดได้นานขึ้น และปกป้องสารพันธุกรรมไวัได้ดีกว่า
โรคของต่อมลูกหมาก ประกอบด้วย ต่อมลูกหมากโต, ต่อมลูกหมากอักเสบ, ต่อมลูกหมากติดเชื้อ และมะเร็งต่อมลูกหมาก
ต่อมลูกหมากเป็นต่อมมีท่อในระบบสืบพันธุ์เพศชาย ในผู้ใหญ่จะมีขนาดประมาณผลวอลนัต[5] ต่อมลูกหมากตั้งอยู่ในเชิงกราน ภายในต่อมเป็นทางผ่านของท่อปัสสาวะที่มาจากกระเพาะปัสสาวะ เรียกว่า ท่อปัสสาวะส่วนต่อมลูกหมาก ซึ่งมีท่อฉีดอสุจิอีกสองท่อมารวมเข้าด้วย[5]
ต่อมลูกหมากปกติของผู้ใหญ่มีน้ำหนักประมาณ 11 กรัม และมักแปรผันอยู่ระหว่าง 7 ถึง 16 กรัม[6] ส่วนปริมาตรของต่อมลูกหมากสามารถประมาณได้จากสูตร 0.52 × ความยาว × ความกว้าง × ความสูง โดยต่อมลูกหมากที่มีปริมาตรมากกว่า 30 ลบ.ซม. จะถือว่าเป็นต่อมลูกหมากโต (prostatomegaly) การศึกษาระบุว่า ปริมาตรต่อมลูกหมากในบรรดาผู้ป่วยที่ผลการตัดเนื้อออกตรวจเป็นลบ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับน้ำหนักและส่วนสูง (ดัชนีมวลกาย) ดังนั้น จึงมีความจำเป็นในการควบคุมน้ำหนัก[7] ต่อมลูกหมากนั้นล้อมรอบท่อปัสสาวะอยู่ทางด้านล่างของกระเพาะปัสสาวะ จึงสามารถสัมผัสได้ผ่านการตรวจทางทวารหนัก
ชั้นเส้นใยโดยรอบต่อมลูกหมากบางครั้งจะเรียกว่า ปลอกหุ้มต่อมลูกหมาก (prostatic capsule) หรือ พังผืดต่อมลูกหมาก (prostatic fascia)[8] และล้อมรอบด้วยแถบเส้นใยกล้ามเนื้อฝังใน[3]
ต่อมลูกหมากสามารถถูกแบ่งย่อยได้สองวิธี คือ แบ่งเป็นบริเวณ หรือ แบ่งเป็นกลีบ[5] เนื่องจากความแปรปรวนในคำอธิบายและคำจำกัดความของกลีบ จึงทำให้การแบ่งเป็นบริเวณนั้นโดดเด่นกว่า[5]
การจัดแบ่งเป็น "กลีบ" (lobe) นั้นพบการใช้ได้บ่อยครั้งในทางกายวิภาคศาสตร์ ซึ่งต่อมลูกหมากจะถูกแบ่งออกเป็นห้ากลีบอย่างไม่สมบูรณ์ ดังนี้
กลีบหน้า (Anterior lobe) (หรือ isthmus) | สอดคล้องโดยประมาณกับบริเวณเชื่อม |
กลีบหลัง (Posterior lobe) | สอดคล้องโดยประมาณกับบริเวณรอบนอก |
กลีบข้างซ้ายและขวา (Right & left Lateral lobes) | ครอบคลุมทุกบริเวณ |
กลีบใน (Median lobe) หรือกลีบกลาง (or middle lobe) | สอดคล้องโดยประมาณกับบริเวณกลาง |
ต่อมลูกหมากสามารถถูกแบ่งออกได้เป็นสามหรือสี่บริเวณ[5][8] การจัดแบ่งเป็น "บริเวณ" (zone) นี้พบการใช้ได้บ่อยครั้งในทางพยาธิวิทยา[9] ซึ่งต่อมลูกหมากมีบริเวณต่อม (glandular region) ที่แตกต่างกันอยู่สี่บริเวณ โดยสองจากสี่บริเวณนั้นเกิดมาจากส่วนที่แตกต่างกันของท่อปัสสาวะส่วนต่อมลูกหมาก ดังนี้
ชื่อ | ส่วนของต่อมในผู้ใหญ่[5] | คำอธิบาย |
บริเวณรอบนอก (Peripheral zone หรือ PZ) | 70% | ส่วนกึ่งปลอกหุ้มของมุมด้านหลังของต่อมลูกหมากที่ล้อมรอบท่อปัสสาวะส่วนปลาย มะเร็งต่อมลูกหมากร้อยละ 70–80 มีจุดเริ่มต้นมาจากส่วนนี้ของต่อม[10][11] |
บริเวณกลาง (Central zone หรือ CZ) | 20% | บริเวณนี้ล้อมรอบท่อฉีดอสุจิ[5] บริเวณกลางมีสัดส่วนในมะเร็งต่อมลูกหมากประมาณร้อยละ 2.5 โดยมะเร็งจากบริเวณนี้มีแนวโน้มจะก้าวร้าวมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะลามไปยังถุงน้ำอสุจิ[12] |
บริเวณเชื่อม (Transition zone หรือ TZ) | 5% | บริเวณเชื่อมล้อมรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น[5] มะเร็งต่อมลูกหมากมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณนี้ประมาณร้อยละ 10–20 บริเวณนี้เป็นบริเวณที่เติบโตได้ตลอดชีวิตของต่อมลูกหมาก อันเป็นที่มาของโรคการเจริญเกินของต่อมลูกหมาก[10][11] |
บริเวณเส้นใยกล้ามเนื้อหน้า (Anterior fibro-muscular zone) (หรือส่วนพยุง) | N/A | ส่วนนี้ไม่ถือเป็นบริเวณเสมอไป[8] โดยปกติแล้วมักจะปราศจากซึ่งส่วนหรือส่วนประกอบของต่อม อันเป็นที่มาของชื่อ ซึ่งสื่อถึงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน[5] |
หลอดเลือดดำของต่อมลูกหมากมาจากข่ายที่เรียกว่า ข่ายหลอดเลือดดำต่อมลูกหมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณรอบพื้นผิวด้านหน้าและด้านนอก[8] ข่ายหลอดเลือดนี้ยังรับเลือดมาจากหลอดเลือดดำลึกด้านบนขององคชาตด้วย และเชื่อมต่อผ่านทางแขนงเข้าสู่ข่ายหลอดเลือดดำกระเพาะปัสสาวะและหลอดเลือดดำอวัยวะเพศภายนอกใน[8] โดยหลอดเลือดดำมีการระบายเข้าสู่หลอดเลือดดำกระเพาะปัสสาวะและหลอดเลือดดำกระดูกปีกสะโพกใน[8]
การระบายน้ำเหลืองจากต่อมลูกหมากขึ้นอยู่กับต่ำแหน่งของพื้นที่ ซึ่งหลอดน้ำเหลืองที่อยู่โดยรอบหลอดนำอสุจิ บางส่วนของหลอดน้ำเหลืองในถุงน้ำอสุจิ และหลอดน้ำเหลืองจากพื้นผิวด้านหลังของต่อมลูกหมาก จะถูกระบายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองกระดูกปีกสะโพกนอก[8] ขณะที่บางส่วนของหลอดน้ำเหลืองจากถุงน้ำอสุจิ หลอดน้ำเหลืองต่อมลูกหมาก และหลอดน้ำเหลืองจากด้านหน้าของต่อมลูกหมาก จะถูกระบายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองกระดูกปีกสะโพกใน[8] ส่วนหลอดน้ำเหลืองของตัวต่อมลูกหมากเองนั้นยังอาจระบายเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองออบทูเรเตอร์และต่อมน้ำเหลืองกระดูกใต้กระเบนเหน็บได้ด้วย[8]
เนื้อเยื่อของต่อมลูกหมากประกอบด้วย ต่อม (glands) และ ส่วนพยุง (stroma)[5] โดยส่วนต่อมบุด้วยเซลล์รูปคอลัมนาร์ (เนื้อเยื่อบุผิว)[5] เนื้อเยื่อบุเหล่านี้มีการวางตัวแบบชั้นเดียวหรือไม่ก็แบบซูโดสแตรติไฟด์[8] เนื้อเยื่อบุผิวนั้นมีความแปรผันสูงและ และพื้นที่ที่มีเนื้อเยื่อบผิวแบบคิวบอยดัลหรือแบบสวามัสต่ำก็ยังมีให้เห็นได้ เช่นเดียวกับเนื้อเยื่อบุผิวแบบทรานซิชันแนลในส่วนปลายของท่อยาวด้วย[13] ส่วนต่อมจะพบรูพรุนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีการระบายลงสู่คลองยาว (long canal) และท่อหลัก 12–20 ท่อในลำดับถัดมา โดยต่อมาก็จะระบายลงสู่ท่อปัสสาวะที่ทอดตัวผ่านต่อมลูกหมาก[8] นอกจากนี้ยังมีเซลล์เบซัลอยู่จำนวนน้อย ซึ่งวางตัวอยู่ถัดจากเยื่อฐานของต่อม ทำหน้าที่เป็นเซลล์ต้นกำเนิด[5]
ส่วนพยุงของต่อมลูกหมาก ประกอบด้วย เนื้อเยื่อเส้นใย และกล้ามเนื้อเรียบ[5] เนื้อเยื่อเส้นใยจะแยกต่อมออกเป็นกลีบ[5] นอกจากนี้ยังวางตัวอยู่ระหว่างต่อมและเป็นส่วนประกอบอย่างสุ่มของมัดกล้ามเนื้อเรียบที่ต่อเนื่องกับกระเพาะปัสสาวะด้วย[14]
เมื่อเวลาผ่านไป จะมีสิ่งหลั่งที่จับตัวหนาขึ้น เรียกว่า คอร์ปอรา อะไมเลเซีย (corpora amylacea) ค้างอยู่ภายในต่อม[5]
ประเภทของเซลล์ทางมิญชวิทยาที่ปรากฏอยู่ในต่อมลูกหมากนั้นมีอยู่สามชนิด ได้แก่ เซลล์ต่อม (glandular cells), เซลล์ไมโอเอพิทีเลียม (myoepithelial cells) และเซลล์ซับเอพิทีเลียมอินเตอร์สติเชียล (subepithelial interstitial cells)[15]
ยีนเข้ารหัสโปรตีนประมาณ 20,000 ชนิดแสดงอยู่ในเซลล์ของมนุษย์ และเกือบร้อยละ 75 ของยีนเหล่านี้พบแสดงอยู่ในต่อมลูกหมากปกติ[16][17] ยีนเหล่านี้ประมาณ 150 ตัวมีการแสดงออกอย่างจำเพาะมากกว่าในต่อมลูกหมาก โดยมียีนประมาณ 20 ตัวที่มีความจำเพาะสูงในต่อมลูกหมาก[18] โปรตีนจำเพาะที่เกี่ยวข้องจะถูกแสดงในเซลล์ต่อมและเซลล์หลั่งของต่อมลูกหมาก และมีหน้าที่สำคัญต่อลักษณะของน้ำอสุจิ โปรตีนจำเพาะของต่อมลูกหมากบางชนิดเป็นเอนไซม์ เช่น สารก่อภูมิต้านทานจำเพาะต่อมลูกหมาก (PSA) และโปรตีน ACPP
ส่วนต่อมลูกหมากของท่อปัสสาวะพัฒนาขึ้นจากส่วนกลาง (middle) และส่วนเชิงกรานของโพรงอวัยวะเพศและทางเดินปัสสาวะ ของเอนโดเดิร์มต้นดำเนิด[19] ประมาณปลายเดือนที่สามของชีวิตของเอ็มบริโอ ปุ่ม (outgrowths) จะเจริญขึ้นมาจากส่วนต่อมลูกหมากของท่อปัสสาวะ และเจริญเติบโตไปสู่เมเซนไคม์โดยรอบ[19] เซลล์ที่บุในส่วนนี้ของท่อปัสสาวะเปลี่ยนสภาพไปเป็นเนื้อเยื่อบุผิวต่อมของต่อมลูกหมาก[19] ส่วนเมเซนไคม์ที่เกี่ยวข้องจะเปลี่ยนสภาพไปเป็นส่วนพยุงหนาแน่นและกล้ามเนื้อเรียบของต่อมลูกหมาก[20]
การรวมตัวกันของเมเซนไคม์ ท่อปัสสาวะ และท่อเมโซเนฟริก ทำให้เกิดต่อมลูกหมากในผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งเป็นอวัยวะที่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่เป็นต่อมและไม่เป็นต่อม เชื่อมอยู่ด้วยกันอย่างแน่นหนาหลายส่วน
เพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม ต่อมลูกหมากต้องการฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) ซึ่งรับผิดชอบคุณลักษณะทางเพศของเพศชาย ส่วนฮอร์โมนหลักของเพศชาย คือ เทสโทสเตอโรน ซึ่งโดยหลักแล้วถูกผลิตขึ้นที่อัณฑะ ส่วนฮอร์โมนที่มีอำนาจเหนือกว่าที่ควบคุมต่อมลูกหมาก คือ ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) ซึ่งเป็นเมทาบอไลท์ของเทสโทสเตอโรน
ต่อมลูกหมากจะใหญ่ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป จนถึงทศวรรษที่สี่ของชีวิต[8]
ในระหว่างการหลั่งน้ำอสุจิในผู้ชาย ตัวอสุจิจะถูกส่งต่อมาจากหลอดนำอสุจิเข้าสู่ท่อปัสสาวะผ่านท่อฉีดอสุจิ ซึ่งวางตัวอยู่ภายในต่อมลูกหมาก[21] โดยการหลั่งน้ำอสุจิเป็นการขับน้ำอสุจิออกทางท่อปัสสาวะ[21] ซึ่งน้ำอสุจิจะเข้าสู่ท่อปัสสาวะหลังจากการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบของหลอดนำอสุจิและถุงน้ำอสุจิ อันเกิดมาจากการกระตุ้นส่วนมากอยู่ที่หัวองคชาต การกระตุ้นจะส่งสัญญาณผ่านทางประสาทอวัยวะเพศภายนอกในไปยังกระดูกสันหลังส่วนเอวด้านบน และสัญญาณประสาทที่ทำให้เกิดการหดตัวจะผ่านมาทางประสาทไฮโปแกสทริก[21] หลังจากน้ำอสุจิเข้าสู่ท่อปัสสาวะแล้ว น้ำอสุจิจะพุ่งออกมาโดยการหดตัวของกล้ามเนื้อบัลโบคาเวอร์โนซุส[21]
ในผู้ชายบางคนอาจบรรลุความเสียวสุดยอดทางเพศได้จากการกระตุ้นต่อมลูกหมากเพียงอย่างเดียว เช่น การนวดต่อมลูกหมาก หรือ การร่วมเพศทางทวารหนัก[22][23]
สิ่งคัดหลั่งของต่อมลูกหมากในมนุษย์ มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบน้อยกว่าร้อยละ 1[ต้องการอ้างอิง] และมีความเป็นกรดเล็กน้อย[8] สิ่งคัดหลั่งประกอบด้วยเอนไซม์โปรทีเอส เอนไซม์โพรสตาติกแอซิดฟอสเฟเทส เอนไซม์ไฟบริโนซิน และสารก่อภูมิต้านทานจำเพาะต่อมลูกหมาก[8] นอกจากนี้ยังมีสังกะสีอยู่ด้วย[8] โดยมีความเข้มข้น 500–1,000 เท่าของความเข้มข้นสังกะสีในเลือด[ต้องการอ้างอิง]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
-->
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.