Remove ads
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟิลลิป พอล ลอยด์ (Phillip Paul Lloyd; เกิด 3 มีนาคม ค.ศ. 1981 )[1] นักมวยปล้ำอาชีพชาวแอฟริกาใต้ที่เคยสังกัดWWEในนาม จัสติน เกเบรียล (Justin Gabriel)[2] เดิมใช้นาม จัสติน แองเจล (Justin Angel) ในตอนอยู่ค่ายพัฒนาทักษะ FCW[6] และใช้นาม พีเจ แบล็ก (PJ Black) ในสมาคมอิสระ
PJ Black | |
---|---|
ชื่อเกิด | Phillip Paul Lloyd[1] |
เกิด | [2] Cape Town, Western Cape, South Africa[2] | 3 มีนาคม ค.ศ. 1981
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
ชื่อบนสังเวียน | The Bunny[3] Justin Angel[4] Justin Gabriel[4] Paul Lloyd[2] Paul Lloyd Jr.[2] PJ Black[2] |
ส่วนสูง | 6 ft 1 in (1.85 m)[5] |
น้ำหนัก | 213 lb (97 kg)[5] |
มาจาก | Cape Town, South Africa[5] |
ฝึกหัดโดย | Paul Lloyd[2] Alex Shane[2] Mark Sloan[2] |
เปิดตัว | 1997[2] |
เกเบรียลเปิดตัวในWWEครั้งแรกกับNXT[4] เป็นรุ่นแรกโดยมีครูฝึก(โปร)คือแมต ฮาร์ดี วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2010 เขาปล้ำแมตช์แรกวันที่ 2 มีนาคม 2010 แทคทีมจับคู่กับโปรของตัวเอง แมต ชนะวิลเลียม รีกัลจับคู่กับสกิพ เชฟฟิลด์ และเป็นเกเบรียลที่จับรีกัลกดได้ทำให้เกเบรียลเป็นรูกีคนแรกที่กดโปร[7] ต่อมาก็แพ้ครั้งแรกให้กับเวด บาร์เร็ตต์ วันที่ 16 มีนาคม 2010 และก็แพ้ให้กับซีเอ็ม พังก์และดาร์เรน ยัง[8][9] วันที่ 30 มีนาคม 2010 พอวันที่ผลคะแนนจากโปรออก เกเบรียลได้คะแนนเป็นอันดับที่3 ตามหลังดาร์เรน ยังที่ได้ที่ 1 และเวด บาร์เร็ตต์ที่ได้ที่ 2[10] ก่อนที่จะมีการโหวตออกครั้งแรก เกเบรียลได้ชนะรูกีชาเลนจ์ และได้รับการยกเว้นจากการเอาออกในครั้งนั้น[11] และในโพลรอบนั้น เกเบรียลก็ยังอยู่ที่3 เหมือนเดิม แต่รอดจากการโหวตออกทำให้เดวิด โอทังกาโดนออกแทน[12] วันสุดท้ายของรายการได้หาผู้ชนะและผู้ชนะเอ็นเอ็กซ์ทีรุ่นแรกเป็นเวด บาร์เร็ตต์ ในวันที่ 1 มิถุนายน 2010[13]
ในวันที่ 7 มิถุนายน 2010 ในรอว์ เกเบรียลและสมาชิกเอ็นเอ็กซ์ทีรุ่นแรกทุกคนได้รวมทีมกันโดยใช้ชื่อว่าเดอะเน็กซัส ซึ่งเป็นอธรรมและได้เข้ามารบกวนคู่เอกระหว่างจอห์น ซีนา กับซีเอ็ม พังก์ และทำร้ายทั้ง ซีนา, พังก์, จัสติน โรเบิตส์ และทีมงานต่างๆ ก่อนที่จะรื้อและทำลายโชว์[14] ในวันที่ 14 มิถุนายน 2010 เกเบรียลและสมาชิก เดอะเน็กซัส ได้เข้ามาทำร้ายเบรต ฮาร์ต ที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของรอว์ในตอนนั้น[15] ในเฟทัลโฟร์เวย์ (2010) ในคู่เอกชิงแชมป์ WWE ระหว่างปล้ำกัน เดอะเน็กซัสได้ทำร้ายสตาร์ที่ดูอยู่หลังเวทีและได้เข้ามาทำร้ายซีนา, แรนดี ออร์ตัน และเอดจ์ จนต้องแพ้ให้เชมัส[16] วันที่ 12 กรกฎาคม 2010 เดอะเน็กซัสได้ปล้ำแมตช์แรกในรอว์ เป็นแฮนดิแคป 6 รุม 1 กับซีนา และเป็นเกเบรียลกดชนะไป[17] เดอะเน็กซัสได้เปิดศึกกับซีนา[18] อย่างต่อเนื่องจน ซัมเมอร์สแลม (2010) ได้ปล้ำแทกทีม 7 ต่อ 7 คัดออก โดยเดอะเน็กซัสเจอกับทีม WWE ที่นำทีมโดยจอห์น ซีนา สุดท้ายกลายเป็นทีม WWE ชนะไปโดยเกเบรียลออกเป็นคนที่6 โดนซีนากดออกไปจากการ 450 สแปลช พลาด[19]
ในเฮลอินเอเซล (2010) ในแมตช์ระหว่าง เวด บาร์เร็ตต์ เจอกับ จอห์น ซีนา โดยถ้าบาร์เร็ตต์ชนะ ซีนาต้องเข้าร่วมทีมแต่ถ้าซีนาชนะ เน็กซัสต้องแตกกลุ่ม และเป็นบาร์เร็ตต์ที่ชนะจากการช่วยเหลือของไมเคิล แมคกิลลิคัตตี และฮัสกี แฮร์ริส[20][21] วันที่ 25 ตุลาคม 2010 บาร์เร็ตต์สั่งให้เกเบรียลกับฮีท สเลเตอร์ สู้กับจอห์น ซีนาคู่กับ เดวิด โอทังกา 2 สมาชิกในกลุ่มตนเองที่เป็นแชมป์แท็กทีม WWE และเป็นเกเบรียลกับสเลเตอร์ที่ชนะและเป็นแชมป์แทกทีมคู่ใหม่ โดยบาร์เร็ตต์สั่งให้โอทังกายอมแพ้ และได้ครองแชมป์แทกทีมถึง 2 เดือน[22] ก่อนเสียให้ซานติโน มาเรลลากับวลาดิเมียร์ คอซลอฟ ในแมตช์ 4 เส้าอิลิมิเนชั่นโดยเจอกับ ดิ อูโซส์, มาร์ก เฮนรี กับโยะชิ ทะสึ ในรอว์ วันที่ 6 ธันวาคม 2010[23] และได้ขอรีแมตช์ในทีแอลซี (2010) และอดได้แชมป์โดยการแพ้ฟาวเพราะแมคกิลลิคัตตีเข้ามาช่วย[24]
หลังจากเวด บาร์เร็ตต์แพ้ในแมตช์หาผู้ท้าชิงแชมป์ทำให้ซีเอ็ม พังก์เข้ามายึดเดอะเน็กซัส และเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็นเดอะนิวเน็กซัส และสั่งให้เกเบรียลกับสเลเตอร์เอาดาบเคนโด้ฟาดกันเอง ทำให้ทั้งคู่ไม่พอใจจึงปล่อยดาบเคนโด้และยอมออกจากกลุ่มเน็กซัส แล้วทั้งคู่ก็ย้ายไปสแมคดาวน์ตามบาร์เร็ตต์[25] ในวันที่ 14 มกราคม 2011 เวด บาร์เร็ตต์ ก็ได้ตั้งกลุ่มขึ้นมาใหม่โดยนำ เกเบรียลกับสเลเตอร์ มาอยู่ในกลุ่มและได้อีซีคีล แจ็กสันมาช่วยรุมบิ๊กโชว์แล้วตั้งชื่อกลุ่มว่าเดอะคอร์[26][27] คืนถัดมาเกเบรียลเจอกับเอดจ์ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอยู่แต่ก็ไม่ได้เป็นแมตช์ชิงแชมป์แต่อย่างใดหรือปล้ำนอกรอบ และเป็นเกเบรียลที่เอาชนะไปได้จากการช่วยเหลือจากเดอะคอร์[28][29] เกเบรียลกับสเลเตอร์ได้ชนะซานติโนกับคอซลอฟแบบนอกรอบ ในสแมคดาวน์ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2011[30][31] ทำให้ได้ชิงแชมป์แทกทีมในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) และก็ชนะเป็นแชมป์แทกทีมสมัยที่ 2[32]
ในรอว์ 21 กุมภาพันธ์ 2011 เกเบรียลกับสเลเตอร์ ต้องป้องกันแชมป์กับจอห์น ซีนาและเดอะมิซ และก็เป็นคู่ซีนากับมิซชนะไปแต่ในวันเดี่ยวกันนั้นเอง เกเบรียลกับสเลเตอร์ก็ได้แชมป์กลับมาเนื่องจากบาร์เร็ตต์เรียกกลับมาเนื่องจากสามารถรีแมตช์ได้และมิซก็หักหลังซีนาเสียแชมป์ให้เกเบรียลกับสเลเตอร์[33] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 กลุ่มเดอะคอร์ จะต้องเจอกับ บิ๊กโชว์, เคน, ซานติโน และโคฟี คิงส์ตัน ในแมตช์แทกทีม 8 คน สุดท้ายเป็นทีมของบิ๊กโชว์ที่ชนะไปในเวลาสั้นๆ[34] ในวันที่ 19 เมษายน 2011 เกเบรียลกับสเลเตอร์เสียแชมป์แทกทีมให้เคนและบิ๊กโชว์[35] หลังจากนั้นเดอะคอร์เริ่มมีปัญหากัน วันที่ 6 พฤษภาคม 2011 เดอะคอร์ได้รุมกระทืบอีซีคีล ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแตกทีม[36] วันที่ 10 มิถุนายน 2011 เดอะคอร์เจอกับดิ อูโซส์ และอีซีคีล ระหว่างแมตช์ บาร์เร็ตต์หนีอีซีคีลไปแทกเอาเกเบรียลออกมาสู้จนทำให้ทีมเดอะคอร์แพ้ หลังจากนั้นเดอะคอร์ก็ต้องแตกทีมกัน[37][38]
ในวันที่ 17 มิถุนายน 2011 เกเบรียลกับสเลเตอร์ ได้เจอกับ ดิ อูโซส์ และก็เป็นฝ่ายแพ้ไป ในวันที่ 24 มิถุนายน 2011 ได้รีแมตช์กับ ดิ อูโซส์ และก็เอาชนะมาได้[39][40] วันที่ 8 กรกฎาคม 2011 เกเบรียลกับ ฮีท สเลเตอร์ ได้รับสิทธิ์ในการปล้ำมันนีอินเดอะแบงก์ และวันนี้ก็ต้องเจอกับดิ อูโซส์ แต่ก็ต้องแพ้ไป[41] หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มมีปัญหากันและก็เป็นจุดจบของทีม เกเบรียลก็ได้กลายมาเป็นฝ่ายธรรมะ และต้องเจอกับฮีท สเลเตอร์ ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2011 สุดท้ายเกเบรียลก็เอาชนะมาได้[42][43] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011) เกเบรียลได้เข้าร่วมมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ โดยแดเนียล ไบรอันเป็นฝ่ายคว้ากระเป๋าไปได้[44] ในสแมคดาวน์ วันที่ 20 มกราคม 2012 เกเบรียลได้เจอกับแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล โคดี โรดส์ ในนอกรอบ แต่เกเบรียลก็แพ้ไป และได้ขอรีแมตช์ ในสแมคดาวน์ วันที่ 27 มกราคม 2012 แต่ก็แพ้ไปอีกรอบ[45][46][47] ต่อมาเกเบรียลได้รับอาการบาดเจ็บที่แขนซ้ายจากการปล้ำชิงแชมป์แทกทีม 3 เส้าในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28[48] จนต้องพักการปล้ำไปหลายสัปดาห์[49]
ในเอ็นเอกซ์ที วันที่ 6 มิถุนายน 2012 เกเบรียลได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยจับคู่กับไทสัน คิด เอาชนะฮีท สเลเตอร์ และจอห์นนี เคอร์ติส[50] ในโนเวย์เอาท์ (2012) เกเบรียลและไทสันได้ปล้ำแทกทีม 4 เส้าเพื่อหาทีมที่ชนะไปชิงแชมป์แทกทีมแต่ก็ไม่สำเร็จ[51] ในเฮลอินเอเซล (2012)ได้ชิงแชมป์ยูเอสกับซีซาโรแต่ไม่สำเร็จ[52] ในเอ็นเอกซ์ที วันที่ 3 กรกฎาคม 2014 เกเบรียลได้มีแมตช์กับซามี เซนแต่ก็แพ้ไป หลังแมตช์ไทสัน คิดขึ้นมากระทืบเซน จากนั้นก็ชวนเกเบรียลมากระทืบด้วยกัน ซึ่งเกเบรียลก็ลังเลนิดหน่อยก่อนจะเข้าไปร่วมวงกระทืบด้วยคน สุดท้ายเนวิลล์วิ่งออกมาช่วย[53] วันที่ 25 มกราคม 2015 ได้ลาออกจาก WWE[54][55] โดยแมตช์สุดท้ายแพ้ให้รูเซฟในเมนอีเวนต์ วันที่ 14 มกราคม 2015[56] ก่อนจะไปปล้ำอยู่สมาคมอิสระใช้ชื่อพีเจ แบล็ก[57][58]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.