เดกซาเมทาโซน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) เป็นยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ชนิดหนึ่ง[9] มีฤทธิในการลดการอักเสบและกดภูมิคุ้มกัน ใช้ในการรักษาอาการป่วยต่าง ๆ รวมทั้งปัญหาโรครูมาติก, โรคผิวหนัง, ภูมิแพ้, โรคหืด, โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, กล่องเสียงอักเสบอุดกั้น, สมองบวม อาการปวดตาภายหลังการผ่าตัดตา และใช้ควบคู่กับยาปฏิชีวนะในผู้ป่วยวัณโรค[9] และในผู้ป่วยภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ จะใช้ควบคู่กับยาสเตอรอยด์ที่มีผลต่อฮอร์โมนมินเนอราโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid) มากกว่า อย่างฟลูโดรคอร์ติโซน (Fludrocortisone)[9] ในการคลอดก่อนกำหนดอาจใช้เพื่อปรับปรุงภาวะในทารก[9] สามารถรับยาได้หลายวิธี ทั้งโดยการรับประทาน, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง หรือฉีดเข้าโพรงกระดูก[9] ยาเดกซาเมทาโซนจะออกฤทธิ์ภายในหนึ่งวัน และคงฤทธิ์ประมาณสามวัน[9]
![]() | |
![]() | |
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
ชื่อทางการค้า | Decadron, Ozurdex, Dexycu, อื่น ๆ |
AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
MedlinePlus | a682792 |
ข้อมูลทะเบียนยา |
|
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ |
|
ช่องทางการรับยา | ทางปาก, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, ฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนัง, ฉีดเข้าโพรงกระดูก, intravitreal, หยดเข้าตา |
รหัส ATC | |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย | |
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
ชีวประสิทธิผล | 80–90% |
การจับกับโปรตีน | 77% |
การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ |
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ: 36 ถึง 54 ชั่วโมง; ครึ่งชีวิตทางพลาสมา: 4 ถึง 5 ชั่วโมง[7][8] |
การขับออก | ปัสสาวะ (65%) |
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
IUPHAR/BPS | |
DrugBank | |
ChemSpider | |
UNII | |
KEGG | |
ChEBI | |
ChEMBL | |
PDB ligand | |
ECHA InfoCard | 100.000.004 |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C22H29FO5 |
มวลต่อโมล | 392.467 g·mol−1 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
จุดหลอมเหลว | 262 องศาเซลเซียส (504 องศาฟาเรนไฮต์) |
SMILES
| |
InChI
| |
7 (what is this?) (verify) | |
![]() |
การใช้เดกซาเมทาโซนในระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ได้แก่ เชื้อราในปาก, โรคกระดูกพรุน, ต้อกระจก, ฟกช้ำง่าย หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง[9] สตรีมีครรภ์สามารถใช้ยานี้ได้[1] แต่สตรีให้นมบุตรควรงดใช้ยานี้ เนื่องจากจะไปกดฮอร์โมนการเจริญเติบโตของทารก[9]
เดกซาเมทาโซนถูกคิดค้นขึ้นใน พ.ศ. 2500[10] โดยฟิลิป โชวอลเตอร์ เฮนช์ และได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการแพทย์ใน พ.ศ. 2504[11][12] ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักขององค์การอนามัยโลก[13] และเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติของไทย เป็นหนึ่งในยาที่มีประสิทธิผลและปลอดภัย เดกซาเมทาโซนมีราคาไม่สูง ในสหรัฐยาสำหรับหนึ่งเดือนปรกติมีราคาน้อยกว่า 25 เหรียญสหรัฐ[9] ในอินเดียสำหรับการรักษาผู้ใช้แรงงานที่คลอดก่อนกำหนดมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ[14] ยามีในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก[14] การจ่ายยาชนิดนี้ในประเทศไทยต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น
การใช้ทางการแพทย์
สรุป
มุมมอง

ต้านการอักเสบ
เดกซาเมทาโซน ใช้รักษาอาการอักเสบและแพ้ภูมิตัวเองหลายอย่าง เช่นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และหลอดลมหดเกร็ง[15] สำหรับโรคเกล็ดเลือดต่ำโดยไม่มีสาเหตุ (Idiopathic thrombocytopenic purpura) ซึ่งจำนวนเกล็ดเลือดลดลงเนื่องจากปัญหาภูมิคุ้มกัน ขนาดยาที่ให้คือ 40 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลาสี่วัน ยาอาจจะออกฤทธิ์ในวัฏจักร 14 วัน ไม่มีความชัดเจนว่าเดกซาเมทาโซน ดีกว่ากลูโคคอร์ติคอยด์อื่น ๆ หรือไม่ สำหรับภาวะของโรคนี้[16]
มีการให้ยาในปริมาณน้อย[17] ก่อนและ/หรือ หลังการผ่าตัดทางทันตกรรมบางรูปแบบเช่น การถอนฟันกรามซี่สุดท้าย ซึ่งการผ่าตัดมักจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการบวมบริเวณแก้ม
โดยทั่วไปแล้วเดกซาเมทาโซน จะใช้ในการรักษาอาการอักเสบของกล่องเสียงและหลอดลมในเด็กที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ เนื่องจากการฉีดเพียงครั้งเดียวสามารถลดอาการบวมของทางเดินหายใจ เพื่อแก้ไขและลดอาการหายใจไม่สะดวก[18]
เดกซาเมทาโซนถูกฉีดเข้าไปในส้นเท้าเพี่อรักษาโรครองช้ำ (plantar fasciitis) บางครั้งใช้ร่วมกับ triamcinolone acetonide
ยาใช้ประโยชน์ในการรับมือกับอาการแพ้ที่เกิดภาวะแอนาฟิแล็กซิส โดยให้ยาในปริมาณสูง
ยามีในรูปแบบยาหยอดตาซึ่งใช้โดยเฉพาะหลังจากการผ่าตัดตา - และในแบบสเปรย์พ่นจมูกและยาหยอดหู (สามารถใช้ร่วมกับยาปฏิชีวนะและยาต้านเชื้อรา) การฝังยาเดกซาเมทาโซน (ในรูปของแข็ง) เข้าในน้ำวุ้นตา (Dexamethasone intravitreal steroid implants) ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐในการรักษาพยาธิสภาพของตาเช่น อาการจุดภาพชัดบวมจากเบาหวานเข้าจอตา (diabetic macular edema), โรคหลอดเลือดดำจอประสาทตาอุดตัน (central retinal vein occlusion) และภาวะม่านตาอักเสบ (uveitis)[19] นอกจากนี้ยังมีการใช้เดกซาเมทาโซน ร่วมกับยาปฏิชีวนะในการรักษาการติดเชื้อภายในลูกตาเฉียบพลัน (acute endophthalmitis)[20]
เดกซาเมทาโซน ใช้ในการใส่สายเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจผ่านทางหลอดเลือดดำ นำไปสู่การลดการตอบสนองการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ สเตอรอยด์จะถูกปล่อยเข้าสู่กล้ามเนื้อหัวใจทันทีที่สกรูบริเวณปลายสายยื่นออกมา และสามารถมีบทบาทสำคัญในการลดการกระตุ้นหัวใจอย่างฉับพลันเนื่องจากการตอบสนองต่อการอักเสบลดลง ปริมาณทั่วไปที่ใช้สำหรับนำยาไปในปลายสายคือน้อยกว่า 1.0 มิลลิกรัม
อาจมีการให้ยาเดกซาเมทาโซนก่อนยาปฏิชีวนะ ในกรณีของเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ยาทำหน้าที่เพื่อลดการตอบสนองการอักเสบของร่างกายต่อแบคทีเรียที่ถูกฆ่าโดยยาปฏิชีวนะ (การตายของแบคทีเรียปล่อยสารตั้งต้นชักนำการอักเสบซึ่งนำไปสู่การตอบสนองที่เป็นอันตราย) จึงลดการสูญเสียการได้ยินและความเสียหายทางระบบประสาท[21]

โรคมะเร็ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดมักได้รับยาเดกซาเมทาโซน ในการต่อต้านผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยยาต้านมะเร็ง เดกซาเมทาโซนสามารถเพิ่มฤทธิ์ต้านอาการคลื่นไส้และอาเจียนจากสารต้านตัวรับเซโรโทนิน 5 เอชที 3 (5-HT3) เช่น ยาออนดานเซตรอน (Ondansetron)[22] กลไกที่แน่นอนของปฏิสัมพันธ์นี้ไม่ได้ถูกนิยามไว้อย่างดี แต่ก็มีทฤษฎีที่ว่าผลที่เกิดขึ้นนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ หลายประการ เช่น การยับยั้งการสังเคราะห์โพรสตาแกลนดิน, ฤทธิ์ต้านการอักเสบ, ฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน, การลดการหลั่งโอปิออยด์ในร่างกาย หรือการรวมกันของสาเหตุดังกล่าว[23]
โรคมะเร็งสมอง (ในชนิดปฐมภูมิ หรือในชนิดแพร่กระจาย) เดกซาเมทาโซนถูกใช้เพื่อต่อต้านพัฒนาการของอาการบวมน้ำ ซึ่งในที่สุดสามารถบีบอัดโครงสร้างสมองอื่น ๆ และยายังถูกใช้ในกรณีไขสันหลังถูกกดจากเนื้องอก
เดกซาเมทาโซน ยังใช้เป็นยาเคมีบำบัดโดยตรงในมะเร็งโลหิตวิทยาบางชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัยอิโลมา ซึ่งจะใช้ยาเดกซาเมทาโซนเพียงอย่างเดียว หรือใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดอื่น ๆ รวมถึงที่มีการใช้เป็นส่วนใหญ่มักจะใช้ร่วมกับ ทาลิโดไมด์ (thalidomide; Thal-dex), เลนาลิโดไมด์ (lenalidomide), บอร์ทิโซมิบ (bortezomib; Velcade, Vel-dex)[24] หรือกับยาสูตรรวมของ ดอกโซรูบิซิน (doxorubicin; Adriamycin) และ วินคริสติน (vincristine) หรือใช้เป็นยาสูตรรวม bortezomib/lenalidomide/dexamethasone
ภาวะของต่อมไร้ท่อ
เดกซาเมทาโซนใช้ในการรักษาความผิดปกติที่หายากมากของการดื้อต่อ กลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoid)[25][26]
ในต่อมหมวกไตและโรคแอดดิสันมีการสั่งจ่ายยาเดกซาเมทาโซน เมื่อผู้ป่วยมีการตอบสนองที่ไม่ดีกับยากลุ่มเพรดนิโซน (Prednisone) หรือยา เมทิลเพรดนิโซโลน (Methylprednisolone)
สามารถใช้ในภาวะต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนมากผิดปรกติแต่กำเนิด (congenital adrenal hyperplasia) ในผู้ป่วยที่เป็นวัยรุ่นตอนปลายและวัยผู้ใหญ่ เพื่อลดการสร้างฮอร์โมนอะดริโนคอร์ติโคโทปิก (ACTH) โดยทั่วไปแล้วจะให้ยาก่อนนอนในเวลากลางคืน[27]
ในหญิงตั้งครรภ์
อาจให้ยาเดกซาเมทาโซน กับหญิงที่เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดเพื่อสนับสนุนการเจริญของปอดของทารกในครรภ์ การใช้ยานี้ซึ่งให้จนถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนคลอด พบว่าสัมพันธ์กับภาวะที่มีน้ำหนักแรกคลอดต่ำ ถึงแม้ว่าจะไม่เพิ่มอัตราการเสียชีวิตของทารกแรกเกิด[28]
นอกจากนี้ยังใช้เดกซาเมทาโซนนอกข้อบ่งใช้ (off-label) ในการรักษาระหว่างการตั้งครรภ์สำหรับอาการต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนมากผิดปรกติแต่กำเนิด (congenital adrenal hyperplasia; CAH) ในทารกเพศหญิง ภาวะ CAH ทำให้เกิดความหลากหลายของความผิดปกติทางร่างกาย โดยเฉพาะความไม่ชัดเจนของอวัยวะเพศ การรักษาอาการ CAH ก่อนคลอดตั้งแต่แรก ๆ ได้แสดงการลดอาการ CAH บางอย่าง แต่ไม่ได้รักษาความผิดปกติแต่กำเนิดมูลฐาน การใช้แบบนี้เป็นที่ถกเถียงกันว่า เป็นการศึกษาที่ไม่เพียงพอ ประมาณหนึ่งในสิบของทารกในครรภ์ของผู้หญิงที่ได้รับการรักษานั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะดังกล่าว และมีรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง[29] การทดลองใช้เดกซาเมทาโซนในหญิงตั้งครรภ์ เพื่อรักษาทารกในครรภ์ที่มีภาวะ CAH ถูกยกเลิกในสวีเดน เมื่อผู้ป่วยหนึ่งในห้ารายมีอาการไม่พึงประสงค์[30]
การทดลองทางคลินิกขนาดเล็กพบว่ามีผลระยะยาวต่อความจำในการใช้ภาษาในกลุ่มเล็ก ๆ ของเด็กที่ได้รับการรักษาก่อนคลอด แต่ไม่สามารถสรุปผลได้เนื่องจากขนาดของการทดลอง[31][32]
กลุ่มอาการเจ็บป่วยจากการขึ้นที่สูง
เดกซาเมทาโซน ใช้ในการรักษาภาวะสมองบวมจากการอยู่ในพื้นที่สูง (high-altitude cerebral edema; HACE) รวมถึงภาวะปอดบวมน้ำจากการอยู่ในพื้นที่สูง (high-altitude pulmonary edema; HAPE) เป็นปกติที่มีการนำยานี้ติดตัวไปด้วยในคณะนักปีนเขา เพื่อช่วยให้นักปีนเขาจัดการกับภาวะแทรกซ้อนของการเจ็บป่วยจากระดับความสูง[33][34]
อาการคลื่นไส้และอาเจียน
การให้ยาเดกซาเมทาโซน ทางหลอดเลือดดำมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียนในผู้ที่ได้รับการผ่าตัด และมีอาการปวดหลังการผ่าตัด โดยให้ร่วมกับยาโอปิออยด์ที่ออกฤทธิ์ยาวทางไขสันหลังหรือช่องเหนือไขสันหลัง[35]
การรวมกันของเดกซาเมทาโซน และสารต้านตัวรับเซโรโทนิน 5 เอชที 3 เช่น ออนดานเซตรอน (Ondansetron) มีประสิทธิภาพมากกว่าสารต้านตัวรับ 5-HT3 เพียงอย่างเดียวในการป้องกันอาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังการผ่าตัด[36]
เดกซาเมทาโซน เมื่อใช้เป็นยาแก้อาเจียนระหว่างการผ่าตัด ไม่ปรากฏว่าเพิ่มอัตราการติดเชื้อที่แผล และไม่มีความชัดเจนว่ายามีผลต่อการหายของแผล[37]
อาการเจ็บคอ
การให้ยาเดกซาเมทาโซนครั้งเดียว หรือยาสเตอรอยด์อื่น ช่วยเพิ่มความเร็วในการหายจากอาการเจ็บคอ[38]
ข้อห้ามการใช้ยา
ข้อห้ามของเดกซาเมทาโซน (แต่ไม่จำกัดเพียงกรณีเหล่านี้) ได้แก่:[39][40]
- การติดเชื้อที่ไม่สามารถควบคุมได้
- ภาวะภูมิไวเกินต่อยาเดกซาเมทาโซน (ที่ทราบก่อน)
- มาลาเรียขึ้นสมอง
- การติดเชื้อราทั่วร่างกาย
- การรักษาพร้อมกันกับวัคซีนไวรัสแบบเชื้อเป็น (รวมถึงวัคซีนไข้ทรพิษ)
ผลข้างเคียง
สรุป
มุมมอง
ไม่ปรากฏอุบัติการณ์ที่แน่นอนของผลข้างเคียงของการใช้ยาเดกซาเมทาโซน ดังนั้นการประมาณการจึงถูกทำขึ้นโดย อุบัติการณ์ของผลข้างเคียงตามรายการที่แสดง เป็นไปตามผลข้างเคียงของยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ที่ใกล้เคียง และจากเอกสารกำกับยาเดกซาเมทาโซน[40][41][42]
ทั่วไป
- สิว
- โรคนอนไม่หลับ
- วิงเวียน
- เพิ่มความอยากอาหาร
- น้ำหนักเพิ่มขึ้น, อ้วนขึ้น
- สูญเสียความสมบูรณ์ของผิวหนัง
- โรคซึมเศร้า
- ภาวะเคลิ้มสุข
- ความดันโลหิตสูง
- เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- เพิ่มความดันลูกตา
- อาเจียน
- อาหารไม่ย่อย
- อาการสับสน
- ความจำเสื่อม
- หงุดหงิด
- คลื่นไส้
- วิงเวียน
- ปวดหัว
- ต้อกระจก (ในกรณีของการรักษาระยะยาว เกิดขึ้นในผู้ป่วยประมาณ 10%)
ไม่ทราบความถี่
- จานประสาทตาบวม
- ต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ
- ภาวะแคระแกร็น (ในเด็ก)
- กลุ่มอาการคุชชิง
- แผลในกระเพาะอาหาร
- โรคกระดูกพรุน
- ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- เบาหวานประเภทที่ 2
- น้ำตาลในเลือดสูง
- ตับอ่อนอักเสบ
- ภาวะการคั่งของน้ำและเกลือแร่
- อาการฟุ้งพล่าน
- โรคจิต
- ต้อหิน
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจ
- อาการท้องอืด
- กระจกตาหรือตาขาวบางลง
- โรคติดเชื้อแคนดิดา
- ผิวหนังฝ่อ
- อาการช้ำ
- ภาวะเส้นเลือดฝอยขยายตัว
- ผิวแตกลาย
- ภาวะเม็ดเลือดขาวสูง
- ลิ่มเลือดอุดตัน
- ภาวะติดยาทางจิตใจ
- กระดูกสันหลังยุบ
- แผลในหลอดอาหาร
- อาการชัก
- ภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
- ความดันโลหิตในกะโหลกศีรษะสูง (การใช้ยาระยะยาว)
- ภาวะใบหน้าแดง
- ภาวะโพแทสเซียมในเลือดตำ่
- ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
- กล้ามเนื้อลีบ
- การพร่องไนโตรเจนเนื่องจากเมแทบอลิซึมของโปรตีน
- ปฏิกิริยาการแพ้รวมถึง แอนาฟิแล็กซิส
การถอนยา
การขาดยาทันทีหลังจากการรักษาด้วยคอร์ติโคสเตอรอยด์ในระยะยาวสามารถนำไปสู่:[40]
- ภาวะต่อมหมวกไตทำงานไม่เพียงพอ
- ความดันโลหิตต่ำ
- มีไข้
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อาการปวดข้อ
- ริดสีดวงจมูก
- เยื่อบุตาอักเสบ
- ตุ่มนูนคันและเจ็บบนผิวหนัง
- น้ำหนักลด
- เสียชีวิต
อันตรกิริยาระหว่างยา
ปฏิกิริยาระหว่างยาที่เป็นที่ทราบได้แก่:[40]
- สารเหนี่ยวนำเอนไซม์ในไมโครโซมจากตับ เช่น บาร์บิทูเรต, เฟนิโทอิน และ ไรแฟมพิซิน สามารถลดครึ่งชีวิตของยาเดกซาเมทาโซน
- การใช้เดกซาเมทาโซนร่วมกับยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานสามารถเพิ่ม ปริมาตรกระจายตัวของยาได้
เภสัชวิทยา
เดกซาเมทาโซนเป็นยาในกลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นตัวรับกลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoid receptor; GR) แต่ไม่มีกิจกรรมกับฮอร์โมนมินเนอราโลคอร์ติคอยด์ (mineralocorticoid)[43][44]
เคมี
เดกซาเมทาโซนเป็นเพรกเนนคอร์ติโคสเตอรอยด์สังเคราะห์ (synthetic pregnane corticosteroid) และอนุพันธ์ของคอร์ติซอล (ไฮโดรคอร์ติโซน; hydrocortisone) และยังเป็นที่รู้จักกันในนาม 1-dehydro-9α-fluoro-16α-methylhydrocortisone หรือ 9α-fluoro-11β,17α,21-trihydroxy-16α-methylpregna-1,4-diene-3,20-dione[45][46] โครงสร้างโมเลกุลและผลึกของเดกซาเมทาโซน ได้รับการอธิบายแล้วโดยใช้การศึกษาโครงสร้างผลึกด้วยรังสีเอกซ์ (X-ray crystallography)
การสังเคราะห์
ในการสังเคราะห์เดกซาเมทาโซน สาร 16β-methylprednisolone acetate จะผ่านปฏิกิริยาการควบแน่นเพื่อนำโมเลกุลน้ำออก ได้เป็นเป็นสารอนุพันธ์ 9,11-dehydro[47][48] ปฏิกิริยานี้จะเกิดขึ้นกับแหล่งที่มาของไฮโปโบรไมต์ (hypobromite) เช่นโมเลกุลพื้นฐาน N-bromosuccinimide เพื่อก่อให้เกิดอนุพันธ์ 9α-bromo-11β-hydrin ซึ่งต่อมาวงโมเลกุลจะปิดกลายเป็นสารอีพอกไซด์ ปฏิกิริยาการเปิดวงโมเลกุลด้วยไฮโดรเจนฟลูออไรด์ในเตตระไฮโดรฟิวแรน จะให้ผลเป็นเดกซาเมทาโซน

ประวัติ
เดกซาเมทาโซน ถูกสังเคราะห์ครั้งแรกโดยฟิลิป โชวอลเตอร์ เฮนช์ (Philip Showalter Hench) ในปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ.1957)[10][11] และเริ่มนำมาใช้ในทางการแพทย์ในปีถัดมา[44]
สังคมและวัฒนธรรม
ราคา
เดกซาเมทาโซนมีราคาไม่สูง[14] ในสหรัฐ ยาสำหรับหนึ่งเดือนมักจะมีราคาต่ำกว่า 25 เหรียญสหรัฐ[9] ในอินเดียชุดการรักษาสำหรับผู้ใช้แรงงานที่คลอดก่อนกำหนดนั้น อยู่ที่ประมาณ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ[14] ยาชนิดนี้มีอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลก[14]
ทางให้ยา
อาจให้ยาทางปากในรูปแบบยาเม็ดหรือสารละลายแอลกอฮอล์ (อีลิกเซอร์; elixir), ให้โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือโดยการหยอดตา[9]
การใช้งานที่ไม่ใช่ทางการแพทย์
เดกซาเมทาโซนถูกใช้ในสถานบริการค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายในบังคลาเทศ สำหรับโสเภณีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเพื่อทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้พวกเธอดูมีอายุและมีสุขภาพดีต่อผู้ใช้บริการและตำรวจ[49]
เดกซาเมทาโซนและกลูโคคอร์ติคอยด์ส่วนใหญ่ ถูกแบนโดยองค์กรกีฬารวมถึงองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency)[50]
การวิจัย
สรุป
มุมมอง
โควิด-19
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 โครงการทดลอง RECOVERY (Randomised Evaluation of COVID-19 Therapy) โดยมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประกาศผลเบื้องต้นระบุว่าเดกซาเมทาโซน ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลจากโรค COVID-19[51] สำหรับผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจอัตราการเสียชีวิตลดลงจาก 40% เป็น 28% และสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับออกซิเจนลดจาก 25% เป็น 20%[52][53] ยาไม่ได้ต่อสู้กับไวรัส แต่หน่วงปฏิกิริยาพายุไซโตไคน์ซึ่งมากเกินไปของระบบภูมิคุ้มกันในหลายกรณีที่รุนแรง การรักษาด้วยเดกซาเมทาโซนไม่มีผลในเชิงบวกในผู้ป่วยที่ไม่ต้องรับออกซิเจน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกร้องให้มีการเผยแพร่ชุดข้อมูลฉบับเต็มอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ได้กว้างขึ้น[54][55] หัวหน้าผู้ตรวจสอบการทดลอง ศ.ปีเตอร์ ฮอร์นบี ระบุว่า "ถึงตอนนี้ นี่เป็นยาเดียวที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ และลดได้อย่างมาก นี่เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่" สำหรับหัวหน้านักวิจัย ศ.มาร์ติน แลนด์เรย์ กล่าวว่า "วิธีรักษาคือใช้ยาเดกซาเมทาโซน 10 วัน ซึ่งใช้เงินวันละราว 5 ปอนด์ ต่อคนไข้หนึ่งคน ดังนั้นก็คือใช้เงินแค่ 35 ปอนด์ในการรักษาหนึ่งราย และยานี้ก็สามารถหาได้ทั่วโลก"[56] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร ประกาศในช่วงกลางเดือนมิถุนายนว่า เดกซาเมทาโซนถูกบรรจุในรายการข้อปฏิบัติมาตรฐานในการรักษาโควิด-19[57] องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเดกซาเมทาโซน ควรสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยที่ป่วยหนักและวิกฤตที่ได้รับการรักษาด้วยกระบวนการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาล[58]
การใช้ในทางการสัตวแพทย์
เดกซาเมทาโซนรวมกับยาปฏิชีวนะมาร์โบฟล็อกซาซิน (Marbofloxacin) และคลอไตรมาโซล (Clotrimazole) นั้นมีชื่อทางการค้าว่า Aurizon (หมายเลข CAS 115550-35-1) ใช้รักษาอาการติดเชื้อที่หูที่รักษายากโดยเฉพาะในสุนัข นอกจากนี้ยังสามารถใช้ร่วมกับไตรคลอร์เมไทอะไซด์ (Trichlormethiazide) เพื่อรักษาม้าที่มีอาการบวมของขาส่วนปลายและอาการฟกช้ำทั่วไป[59]
ดูเพิ่ม
- การทดสอบกดการทำงานของเดกซาเมทาโซน
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.