คริสต์ศาสนิกชน หรือ คริสตชน (อังกฤษ: Christian) หมายถึง บุคคลที่นับถือศาสนาคริสต์[7] ซึ่งเป็นศาสนาประเภทเอกเทวนิยมอันเกิดจากคำสอนของพระเยซูชาวนาซาเรธ คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระองค์คือพระคริสต์หรือพระเมสสิยาห์ที่ถูกพยากรณ์ไว้ในคัมภีร์ฮีบรู และเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้าด้วย[8][9]
หลังจากแสดงปาฏิหาริย์จับปลา พระคริสต์ทรงเรียกสาวกมาเป็น "ผู้หาคนดั่งหาปลา" (มธ. 4:19) วาดโดยราฟาเอล | |
ประชากรทั้งหมด | |
---|---|
ป. 2.4 พันล้านคน ทั่วโลก (2015)[1][2] | |
ภูมิภาคที่มีประชากรอย่างมีนัยสำคัญ | |
สหภาพยุโรป | 373,656,000[3] |
สหรัฐ | 246,790,000[2] |
บราซิล | 175,770,000[2] |
เม็กซิโก | 107,780,000[2] |
รัสเซีย | 105,220,000[2] |
ฟิลิปปินส์ | 86,790,000[2] |
ไนจีเรีย | 80,510,000[2] |
จีน | 67,070,000[2] |
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | 63,150,000[2] |
เอธิโอเปีย | 52,580,000[2] |
ภาษา | |
| |
ศาสนา | |
คริสต์
|
คริสต์ศาสนิกชนส่วนใหญ่เชื่อเรื่องพระตรีเอกภาพ คือเชื่อว่าพระเป็นเจ้าพระองค์เดียวได้ปรากฏเป็น 3 พระบุคคล คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตามมีคริสต์ศาสนิกชนบางกลุ่มไม่ยอมรับเรื่องพระตรีเอกภาพ จึงเรียกว่า "อตรีเอกภาพนิยม" เช่น พยานพระยะโฮวา
ในประเทศไทยมีคริสต์ศาสนิกชนทั้ง 3 นิกายหลัก โดยเข้าสู่สยามตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหารา[10]ชเป็นต้นมาตามบันทึกจดหมายเหตุตามประวัติศาสตร์ เรียกชาวโรมันคาทอลิก(เรียกวัด มีบาทหลวง) ว่า คริสตัง, ชาวโปรเตสแตนต์(เรียกคริสตจักร มีศิษยาภิบาล) ว่า คริสเตียน และ ชาวออโธดอกซ์ (เรียกพระวิหาร มีสาธุคุณ) ว่า คริสแตงซ์
ที่มาในคัมภีร์ไบเบิล
คำว่าคริสตชนหรือคริสเตียน ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ทั้งหมดสามครั้ง[11] ครั้งแรกในหนังสือกิจการบทที่ 11 ข้อที่ 26[12] "...ที่เมืองอันทิโอกนี้เอง บรรดาศิษย์ได้รับชื่อว่า "คริสตชน" เป็นครั้งแรก"
ครั้งที่สองปรากฏในหนังสือกิจการ บทที่ 26 ข้อที่ 28[13] เมื่อเปาโลได้มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหาต่อพระเจ้าเฮโรด อากริปปา ความว่า "กษัตริย์อากริปปาจึงทรงตอบเปาโลว่า "อีกนิดเดียว ท่านก็ชักชวนเราให้เป็นคริสตชนได้แล้ว"
คำว่าคริสตชนปรากฏเป็นครั้งที่สามและครั้งสุดท้ายในจดหมายของนักบุญเปโตร ฉบับที่ 1 บทที่ 4 ข้อที่ 16[14] "แต่ถ้าทนทุกข์เพราะได้ชื่อว่าเป็นคริสตชน ก็อย่าให้คนนั้นละอายเลย แต่ให้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะชื่อนั้น"
ทัศนะของศาสนาอื่น
ศาสนายูดาห์
เนื่องจากพระเยซูเป็นชาวนาซาเรธ ชาวยิวจึงเรียกคริสตชนว่านาซารีน (Nazarene) มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1[15] และมองว่าเป็นพวกนอกรีต[16] ผู้นำชาวยิวยุคนั้นพยายามยับยั้งการขยายตัวของคริสต์ศาสนาโดยการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชน เช่น ประหารพระเยซู ยากอบ และสเทเฟน แต่คริสตชนกลับยิ่งมีจำนวนมากขึ้น รวมถึงคนที่ไม่ใช่ชาวยิว (Gentile) ความแปลกแยกระหว่างคริสตชนกับชาวยิวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนศาสนาคริสต์แยกออกจากศาสนายูดาห์ในที่สุด[17]
ในปัจจุบันชาวยิวยังคงปฏิเสธความเชื่อของคริสตชนที่ว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์[18] และเป็นพระผู้ไถ่บาปให้มนุษย์[19]
ศาสนาอิสลาม
คัมภีร์อัลกุรอานเรียกคริสตชนว่า นะซอรอ หรือ มันสรอนีห์[20] (อาหรับ: نصارى ผู้ช่วยเหลือ, ชาวพระวัจนะหรือ ชาวคำภีร์อินญีล(ไบเบิล)) เพราะถือว่าเป็นพวกที่คอยช่วยเหลือพระเยซู (นบีอีซา) และ เป็นคำภีร์เล่มที่ 2 ก่อนคำภีร์อัลกุรอ่าน (เล่มที่3) แม้ชาวมุสลิมจะนับถือพระเยซูเป็นท่านผู้ประกาศผู้ยิ่งใหญ่และเป็นท่านเราะห์ซูล 1 ใน 3 นบีที่สูงสุด (นบีมูซา-ท่านโมเสสแห่งยูดาห์, นบีอีซา เมสิยาห์-พระเยซูคริสต์แห่งนาซาเร็ธ และท่านสุดท้ายแห่งศาสนทูตของพระเป็นเจ้า มะหะหมัด(ซ.ฮ.) หรือ ท่านนบีมูฮัมหมัดแห่งอิสลาม) ก็ไม่ยอมรับในความเชื่อของคริสตชนในปัจจุบัน อัลกุรอานระบุว่าคริสต์ศาสนิกชน (มัสรอนีห์) เข้าใจเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า[21] ก็ไม่ต่างจากความเชื่อของคนที่ไม่ศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า[21] (เพียงองค์เดียว) คริสต์ศาสนิกชนจึงนับถือหลายนามพระเจ้าหลายสถานะ[22] อัลกุรอานไม่ยอมรับว่าคริสต์ศาสนิกชนเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน[23] แต่เพียงผู้เดียว (สายอิสอัค) และไม่ใช่คริสตชนเท่านั้นจะได้ขึ้นสวรรค์เพราะ อิสลาม(สายอิชมาเอล) ก็คือพงศ์พันธะสัญญาที่เกิดร่วมท่านอับราฮัมเช่นกัน [24]
อ้างอิง
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.