แบร็สต์, ฝรั่งเศส
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แบร็สต์ (ฝรั่งเศส: Brest, ออกเสียง: [bʁɛst]) เป็นชื่อเมืองในจังหวัดฟีนิสแตร์ (Finistère) แคว้นเบรอตาญ (หรือบริตตานีในภาษาอังกฤษ) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส ไม่ไกลจากปลายด้านตะวันตกของคาบสมุทรเบรอตาญ[2] แบร็สต์เป็นเมืองที่อยู่ตะวันตกที่สุดของเขตปกครองฝรั่งเศส และเป็นที่ตั้งของท่าเรือทางทหารที่สำคัญเป็นอันดับสองรองจากตูลง จากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี พ.ศ. 2552 แบร็สต์มีจำนวนผู้อยู่อาศัย 142,722 คน และเป็นเมืองที่มีจำนวนพลเมืองหนาแน่นเป็นอันดับที่ 22 ของฝรั่งเศส แบร็สต์เป็นศูนย์กลางของเขตปกครองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของแคว้นเบรอตาญตะวันตก ให้บริการดูแลราษฎรจำนวน 1 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่[3] แม้ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของฟีนิสแตร์ แต่เมืองหลักของจังหวัดกลับเป็นแก็งแปร์ (Quimper) ที่มีขนาดเล็กกว่ามาก
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
แบร็สต์ | |
---|---|
เมืองย่อยและเทศบาล | |
ทิวทัศน์Tour Tanguy โดยมีปราสาทแบร็สต์เป็นฉากหลัง | |
ประเทศ | ฝรั่งเศส |
แคว้น | เบรอตาญ |
จังหวัด | ฟีนิสแตร์ |
เขต | แบร็สต์ |
อำเภอ | แบร็สต์-1, 2, 3, 4 และ 5 |
สหเทศบาล | Brest Métropole |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี (2020–2026) | ฟร็องซัว กุยย็องดร์[1] (เปแอ็ส) |
พื้นที่1 | 49.51 ตร.กม. (19.12 ตร.ไมล์) |
ประชากร (มกราคม ค.ศ. 2018)2 | 139,602 คน |
• ความหนาแน่น | 2,800 คน/ตร.กม. (7,300 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) |
รหัสอีนเซ/ไปรษณีย์ | 29019 /29200 |
สูงจากระดับน้ำทะเล | 0–103 m (0–338 ft) (avg. 34 m หรือ 112 ft) |
เว็บไซต์ | brest |
1 ข้อมูลอาณาเขตที่ตามขึ้นทะเบียนไว้โดยไม่รวมทะเลสาบ, หนองน้ำ, ธารน้ำแข็งที่ขนาดใหญ่กว่า 1 ตารางกิโลเมตรตลอดจนปากแม่น้ำ 2 Population without double counting: residents of multiple communes (e.g., students and military personnel) only counted once. |
ในยุคกลาง ประวัติความเป็นมาของแบร็สต์ส่วนมากเกี่ยวข้องกับปราสาท จนกระทั่งพระคาร์ดินัลรีเชอลีเยอ ได้เปลี่ยนเมืองให้เป็นท่าเรือทางทหารใน พ.ศ. 2174[4] แบร็สต์จึงกลายเป็นคลังสรรพาวุธจนถึงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ที่เมืองถูกทำลายอย่างหนักจากการจู่โจมทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 ศูนย์กลางของเมืองได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ภายหลังการเสร็จสิ้นของสงคราม ในช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไปถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 เมืองลดความสำคัญของอุตสาหกรรมลง และหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจการให้บริการแทน ปัจจุบันแบร็สต์เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นบริตตานี ที่มีนักศึกษากว่า 23,000 คน[5]
นอกเหนือจากการเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความหลากหลายทางวิชาการแล้ว แบร็สต์และพื้นที่ล้อมรอบยังเป็นแหล่งของโรงเรียนและสถาบันสำหรับชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียง อาทิ โรงเรียนนายเรือแห่งฝรั่งเศส (the French Naval Academy) เตเลกอมเบรอตาญ (Télécom Bretagne) และสถาบันเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเบรอตาญ (Superior National School of Advanced Techniques of Brittany) นอกจากนี้ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยที่สำคัญซึ่งมุ่งเน้นในเรื่องเกี่ยวกับทะเล ได้แก่ สถาบันการวิจัยเรื่องการแสวงประโยชน์จากทะเลแห่งฝรั่งเศส (French Research Institute for Exploitation of the Sea) ศูนย์ข้อมูลการวิจัยและทดลองด้านมลภาวะทางน้ำ (Centre of Documentation, Research and Experimentation on Accidental Water Pollution) และสถาบันวิจัยขั้วโลกใต้
ประวัติศาสตร์ของแบร็สต์เกี่ยวโยงกับทะเลมาโดยตลอด ในปี พ.ศ. 2295 โรงเรียนนายเรือก่อตั้งขึ้นพร้อม ๆ กันกับการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ล เดอ โกล และทุก ๆ 4 ปี แบร็สต์จะจัดงานเฉลิมฉลองระดับนานาชาติเนื่องในเทศกาลเกี่ยวกับทะเลและการเดินเรือ ซึ่งจะเป็นแหล่งพบปะและดึงดูดนักเดินเรือจากทั่วทุกมุมโลก
ประวัติศาสตร์
ก่อนหน้าปี พ.ศ. 1783 แบร็สต์ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก จนกระทั่งเคานต์แห่งลียงยกให้ฌ็องที่ 1 ดยุกแห่งเบรอตาญ ต่อมาในปี พ.ศ. 1885 ฌ็องที่ 4 ได้ส่งมอบแบร็สต์ให้กับอังกฤษซึ่งยึดครองไว้จนกระทั่งปี พ.ศ. 1940 ความสำคัญของแบร็สต์ในช่วงยุคกลางมีมากจนทำให้เกิดคำพูดที่ว่า "ไม่มีดยุกแห่งเบรอตาญคนใด ที่ไม่ใช่ลอร์ดของแบร็สต์" ด้วยการอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 แห่งฝรั่งเศส กับพระราชินีโกลด พระธิดาในแอนน์แห่งบริตานี สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส ทำให้แบร็สต์กลายเป็นดินแดนภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ความได้เปรียบของแบร็สต์ในฐานะเมืองท่าเรือเดินทะเลเป็นที่ยอมรับครั้งแรกโดยพระคาร์ดินัลรีเชอลีเยอ ผู้สร้างท่าเทียบเรือไม้ในปี พ.ศ. 2174 ซึ่งเวลาต่อมาได้กลายเป็นฐานที่มั่นของทัพเรือฝรั่งเศส หลังจากนั้น ฌ็อง-บาติสต์ กอลแบร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้สร้างท่าเรือใหม่ด้วยการก่ออิฐ ต่อด้วยการสร้างป้อมปราการโดยโวบ็อง ในระหว่างปี พ.ศ. 2223 – 2231 ความสำคัญของเมืองในฐานะที่มีปราการทางทะเลที่แน่นหนา สามารถป้องกันข้าศึกได้ดำเนินมาต่อเนื่องจนถึงศตวรรษที่ 18 ในปี พ.ศ. 2237 กองเรือรบภายใต้บัญชาการของลอร์ดเบิร์กลีย์แห่งอังกฤษ ได้พ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงในการมาโจมตีแบร็สต์
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี พ.ศ. 2460 แบร็สต์ถูกใช้เป็นท่าขึ้นฝั่งของกองทหารหลายพันนายที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อผ่านไปยังแนวด้านหน้าของสนามรบ[6] ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันใช้แบร็สต์เป็นฐานขนาดใหญ่ของเรือดำน้ำ หลังจากการบุกครองนอร์ม็องดี ของฝ่ายสัมพันธมิตรในปี พ.ศ. 2487 การต่อสู้ที่แบร็สต์ถือเป็นสมรภูมิรบที่ดุเดือดที่สุดของแนวรบด้านตะวันตก เมืองเกือบทั้งหมดถูกทำลาย ภายหลังสงครามเสร็จสิ้น รัฐบาลของเยอรมันตะวันตกต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลหลายพันล้านดอยช์มาร์ค เป็นค่าปฏิกรรมสงครามให้กับแบร็สต์ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมือง ปัจจุบันพื้นที่ขนาดใหญ่หลายแห่งและอาคารถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินแกรนิตและคอนกรีต และฐานทัพเรือของฝรั่งเศสกลายเป็นศูนย์ฝึกอบรม[7]
ในปี พ.ศ. 2515 กองทัพเรือฝรั่งเศสทำพิธีเปิดฐานทัพเรือดำน้ำอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการที่เกาะลงก์ (Île Longue) ในอาณาเขตของแบร็สต์ ซึ่งยังคงเป็นฐานที่มั่นสำคัญของเรือดำน้ำขีปนาวุธนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน
ประชากร
|
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ที่มา: EHESS[8] และ INSEE (1968-2017)[9][10] |
มุทราศาสตร์ และ ธัชวิทยา
นิยามของตรา: ด้านซ้ายเป็น เฟลอร์เดอลี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรฝรั่งเศสในอดีตสีทองสามดวงบนพื้นสีกรมท่า ด้านขวาเป็นพื้นลายสีดำบนพื้นสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแคว้นเบรอตาญ เมื่อรวมกันหมายถึงการร่วมกันของฝรั่งเศสและแบร็สต์ ประกาศใช้เป็นครั้งแรกภายใต้ความเห็นชอบร่วมกันของสภาเทศบาลเมืองในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2226[11]
หลังจากท่าเรือแห่งแรกของดัชชีแห่งแบร็สต์ (เบรอตาญ: Dugelezh Breizh)ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่แคว้นแยกจากอังกฤษ ได้ใช้ธงสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีดำ (เบรอตาญ: Kroaz Du) ซึ่งต่อมามีการปรับปรุงหลายครั้ง โดยล่าสุดธงเป็นสัญลักษณ์ของสหภาพของฝรั่งเศสและแบร็สต์
|
อ้างอิง
บรรณานุกรม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.