เหตุกราดยิงที่กรมยุทธศึกษาทหารบก พ.ศ. 2565
เหตุกราดยิงในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เหตุกราดยิงในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565 เกิดเหตุกราดยิงภายในวิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก โดยผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนประทุษร้าย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 1 ราย ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยอมมอบตัว[1]
เหตุกราดยิงกรมยุทธศึกษาทหารบก | |
---|---|
ที่ตั้งของกรมยุทธศึกษาทหารบก | |
สถานที่ | วิทยาลัยการทัพบก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร |
พิกัด | 13°47′2.7″N 100°31′47.3″E |
วันที่ | 14 กันยายน พ.ศ. 2565 8.45 นาฬิกา (UTC+7) |
ประเภท | การสังหารหมู่, การกราดยิงหมู่ |
อาวุธ | ปืนขนาดกระสุน 9 มิลลิเมตร |
ตาย | 2 คน |
เจ็บ | 1 คน |
ผู้ก่อเหตุ | จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม |
เหตุจูงใจ | ยังไม่ทราบ |
หลังจากเหตุการณ์กราดยิงที่นครราชสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2563 พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น สัญญาว่าจะ "ปฏิรูปกองทัพ" แต่จากการทบทวนเมื่อปี 2565 พบว่านอกจากการจ่ายเงินเยียวยาและการลงโทษผู้เกี่ยวข้องบางส่วน แต่การปฏิรูปด้านอื่น ๆ กลับไม่มีความคืบหน้า อย่างประเด็นเรื่องบ้านพักสวัสดิการที่นายทหารเกษียณอายุราชการยังพักอาศัยอยู่กันนั้น กองทัพปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง[2]
นายแพทย์ วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่อาจนำไปสู่เหตุทำร้ายผู้อื่นโดยใช้อาวุธ คือการอยู่ใกล้อุปกรณ์ เหตุกราดยิงในประเทศไทย มักจะพบเจอได้ในกลุ่มอาชีพที่ใกล้อาวุธ เช่น ทหาร และตำรวจ อาชีพที่มีความคาดหวังจากสังคมสูง ทำให้ความเครียดสูงตามไปด้วย ขณะที่อาชีพที่มีกฎระเบียบสูงในองค์กร เช่น นักกฎหมาย ถือเป็นอาชีพที่มีความเครียดสูงเช่นกัน เพราะต้องอยู่ในกฎเกณฑ์และกฎระเบียบ นอกจากนี้ ยังมีคนในกลุ่มอาชีพที่มีชั่วโมงการทำงานมาก พักผ่อนน้อย เช่น นักร้อง ศิลปิน หรือดารา สามารถก่อให้เกิดความเครียดสูง[3]
เมื่อเวลาประมาณ 8.45 นาฬิกา ผู้ก่อเหตุเข้าไปตึกวิทยาลัยการทัพบก กรมยุทธศึกษาทหารบก ได้ใช้อาวุธปืนขนาดกระสุน 9 มิลลิเมตร[4] ยิงใส่เพื่อนร่วมงาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน[5] ต่อมา เสียชีวิต 1 คนที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เวลาประมาณ 9.50 นาฬิกา ผู้ก่อเหตุยืนอยู่บริเวณริมกำแพงด้านหน้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปรามของสถานีตำรวจนครบาลดุสิตปิดกั้นถนนเทอดดำริพร้อมกับมีการเจรจา โดยใช้เวลาเจรจาประมาณ 30 นาที ผู้ก่อเหตุจึงลดอาวุธ นำเครื่องกระสุนออกจากปืน และมอบตัว[6]
จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม เป็นนายทหารเสมียนประจำวิทยาลัยการทัพบกอายุ 58 ปี ยงยุทธเคยมีประวัติรักษาอาการทางสมอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยหลังเหตุการณ์ถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา[7][8]
เหตุกราดยิงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ
และบาดเจ็บ 1 คน คือ จ่าสิบเอก ยงยุทธ์ ปัญญานุวัฒน์ เสมียนประจำวิทยาลัยการทัพบก[11]
อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ" และกล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการศพของผู้เสียชีวิตตามระเบียบราชการ เน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชาเอาใจใส่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา กำชับเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย[12]
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามในประเด็นการป้องกันเหตุกราดยิงในอนาคตว่า "ป้องกันยังไง บอกมาซิ บอกมา จะให้ทำอะไรบอกมาเลย โธ่"[13]
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงเหตุกราดยิง ผู้ก่อเหตุอาจเกิดความเครียดและปัญหาทางสุขภาพ โดยทางกองทัพบกได้แสดงความเสียใจและไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น[14]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.