ภาษาอาหม เป็นภาษาที่ตายแล้ว[n 1] ในตระกูลภาษาขร้า-ไท ภาษาอาหมนั้นมีอักษร และถ้อยคำของตนใช้สื่อสารทั้งพูดและเขียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวอาหมในปัจจุบันนั้นหันไปใช้ภาษาอัสสัมซึ่งอยู่ในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียนแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำที่บันทึกจารึกไว้ในคัมภีร์ในบทสวดในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ก็แสดงให้เห็นว่านักบวชชาวไทอาหมยังใช้ภาษาไทได้อย่างสมบูรณ์ ปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูภาษา

ข้อมูลเบื้องต้น ภาษาอาหม, ประเทศที่มีการพูด ...
ภาษาอาหม
𑜒𑜑𑜪𑜨
Thumb
คำว่า อาหม ในอักษรอาหม
ประเทศที่มีการพูดประเทศอินเดีย
ภูมิภาครัฐอัสสัม
ชาติพันธุ์ชาวอาหม
สูญแล้วคริสต์ศตวรรษที่ 18 หรือ 19[1]
ปัจจุบันใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาและวรรณกรรมของชาวอาหม
ตระกูลภาษา
ขร้า-ไท
ระบบการเขียนอักษรอาหม
รหัสภาษา
ISO 639-3aho
ปิด

ประวัติ

พัฒนาการและการจัดจำแนกภาษายังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ บรรพบุรุษน่าจะเป็นภาษาไทดั้งเดิมเมื่อราว 2,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาษาจีนแต่อาจจะเกี่ยวข้องกับตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน ชาวอาหมเดิมอยู่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและเวียดนาม ต่อมาได้อพยพเข้ามณฑลยูนนาน รัฐชาน จนถึงลุ่มแม่น้ำพรหมบุตรในที่สุด

ชาวอาหมได้พัฒนาอาณาจักรของตนเองในช่วง พ.ศ. 1771-2386 ภาษาอาหมเป็นภาษาทางการของอาณาจักรตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18-21 จนกระทั่งถูกแทนที่ด้วยภาษาอัสสัมที่เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยัน ซึ่งเป็นผลมาจากการรับวัฒนธรรมฮินดู

ยุคเสื่อม

ชาวอาหมไม่เคยคิดว่าตัวเองต่ำต้อย จนกระทั่งกษัตริย์อาหมยอมรับวัฒนธรรมฮินดู นำระบบวรรณะมาใช้ เพราะถูกพราหมณ์ยกยอ และนำพิธีกรรมมารองรับสถานะให้กษัตริย์มีฐานะที่สูงขึ้น เมื่อนำพิธีกรรมต่าง ๆ มาใช้ ภาษาก็เปลี่ยนไปตามพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีกรรม ทั้งที่ชาวอาหมแท้ ๆ นั้นมีจำนวนไม่มากนัก และภาษาอัสสัมก็ครอบงำสังคม รวมไปถึงราชสำนักเพื่อเข้าถึงฮินดู จนลามไปยังขุนนางและราษฎรต่าง ๆ ครั้นตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ อังกฤษก็ถอดกษัตริย์อาหมออก และให้อำนาจแก่พราหมณ์และขุนนางฮินดูแทน ภาษาอาหมจึงใช้กันจำกัดลงเรื่อย ๆ จนเป็นภาษาตายไม่มีใครใช้ในชีวิตประจำวัน กลุ่มนักบวชเทวไท (Deotai) ซึ่งเป็นนักบวชตามความเชื่อลัทธิฟ้าหลวง แม้จะพยายามรักษาประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ แต่ก็ทำได้จำกัด และนักบวชก็ขาดคนพูดอาหมด้วย และไม่มีใครเข้าใจได้ชัดเจน

การฟื้นฟูในปัจจุบัน

แม้ว่าภาษาอาหมจะมีการฟื้นฟูอย่างน้อย 3 ช่วงเวลา ช่วงที่ 1 ในสมัยพระเจ้าจักรธวัช สิงห์ในช่วง ค.ศ. 1663 ช่วงที่ 2 ในยุคหลังจากอังกฤษเข้าปกครองในรัฐอัสสัมราวปี ค.ศ. 1826 และช่วงที่ 3 ตั้งแต่ ค.ศ. 1980 จนถึงปัจจุบัน ได้มีการฟื้นฟูภาษาไทและตั้ง สมาคมวรรณกรรมไทตะวันออก (Eastern Tai Literary Association) ที่เมืองกูวาฮาติ โดยมุ่งมั่นปฏิบัติให้พัฒนาการเรียน เขียนอ่านภาษาอาหม พร้อมกันนี้ให้สนับสนุนให้ค้นคว้าศึกษาเอกสารโบราณของชาวอาหมอย่างจริงจัง การฟื้นฟูภาษาอาหมนั้นอาศัยสัทวิทยาของภาษาพี่น้อง เช่น ภาษาอ่ายตนและภาษาพ่าเก โดยภาษาดังกล่าวจะถูกเรียกว่า ภาษาไทในอัสสัม เนื่องจากประกอบไปด้วยคำไททุกกลุ่มในรัฐอัสสัม หากการฟื้นฟูดังกล่าวได้ผล ภาษาเขียนในรัฐอัสสัมจะใช้อักษรอาหมเป็นหลักแทนอักษรไทอื่น ๆ ในรัฐอัสสัม[3] โดยอาศัยพื้นฐานภาษาอ่ายตนในรัฐอัสสัม เนื่องจากใกล้เคียงกับภาษาอาหมมากที่สุด ชาวอาหมอาจอาศัยชาวอ่ายตนในการรื้อฟื้นภาษา[4]

ลักษณะภาษา

ภาษาอาหมกับภาษาในศิลาจารึกสุโขทัยของไทย ต่างก็เป็นภาษาไทยุคเก่าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันมากกว่าภาษาถิ่นไทยในปัจจุบัน และในภาษาอาหมไม่มีการใช้คำราชาศัพท์ คำที่ใช้พูดกับคนธรรมดาก็ใช้พูดกับกษัตริย์ได้ การเรียงประโยคเป็นแบบประธาน-กริยา-กรรม รากศัพท์เป็นคำเดี่ยว ไม่มีการผันคำกริยา ไม่มีกาล และไม่มีรูปพหูพจน์ของคำนาม แสดงเวลาด้วยกริยาช่วย

โคลงกลอน

กลอนอาหมที่มีเรื่องเกี่ยวกับการสร้างโลก ซึ่งเป็นกลอนไทยที่มีจำนวนพยางค์เลขคี่เขียนแบบกลอนหัวเดียว ลงท้ายวรรคคู่ด้วยสระเสียงเดียวกัน เหมือนเพลงลำตัด หรือเพลงเรือ สรุปคือ กลอนหก และกลอนแปดของไทยเป็นลูกผสมระหว่างกลอนไทยที่มีจำนวนพยางค์เป็นเลขคี่ แต่ต่อมาใช้เลขคู่แบบปัฐยาวัตของอินเดีย และคำสวดของอาหม ก็คล้ายกับ แหล่ ของไทยด้วย

คำศัพท์

ตัวเลข

อาหมมีตัวเลขพื้นฐานดังนี้:[5]

ข้อมูลเพิ่มเติม จำนวนนับ, เลขลำดับ ...
จำนวนนับ /lɯŋ//sɔ:ŋ//sam//si://ha//ruk//cit//pit//kaw//sip/
12345678910
เลขลำดับ /ʔaj//ŋi://sam//saj//ŋu://luk//cit//pit//kaw//sip/
ที่ 1ที่ 2ที่ 3ที่ 4ที่ 5ที่ 6ที่ 7ที่ 8ที่ 9ที่ 10
ปิด

คำนับจำนวน เวลา

ในการนับเลขอาหมโดยเฉพาะการนับทั้งหมด แต่มีสำเนียงเพี้ยนจากภาษาไทยไปบ้าง

  • เอ็ด = หนึ่ง
  • ฉอง = สอง
  • ฉาม = สาม
  • ฉี่ = สี่
  • ห่า = ห้า
  • หรุก = หก
  • จิด = เจ็ด
  • เป็ด = แปด
  • เก่า = เก้า
  • ฉิบ = สิบ

คำทักทาย

  • เปอ่องเลเล = มีความหมายว่าจงเจริญ (ซึ่งมาจากภาษาพม่าซ้อนคำไทอาหมเดิม เนื่องจาก เป(แพ้) แปลว่า ชนะ รวมกับคำว่า อ่อง ซึ่งเป็นภาษาพม่าที่แปลว่า ชนะ เช่นเดียวกัน ส่วนคำว่า เล เป็นคำลงท้ายแบบเดียวกับหางเสียง ครับ, ค่ะ)
  • คุปต่าง = กราบไหว้ (ในบทบูชาบรรพชน)
  • คุปต่าง ชมโหลง = ขอบคุณ

ตารางเทียบภาษา

ด้านล่างคือตารางเทียบภาษาอาหมกับภาษากลุ่มไทอื่น ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม ไทย, ไทตะวันตกเฉียงใต้ดั้งเดิม ...
ไทย ไทตะวันตกเฉียงใต้ดั้งเดิม[6] สัทอักษรไทย ลาว ไทยถิ่นเหนือ ไทใหญ่ ไทลื้อ จ้วงมาตรฐาน อาหม:[5]
ลม *lom /lōm/ /lóm/ /lōm/ /lóm/ /lôm/ /ɣum˧˩/ /lum/
เมือง *mɯaŋ /mɯ̄aŋ/ /mɯ́aŋ/ /mɯ̄aŋ/ /mɤ́ŋ/ /mɤ̂ŋ/ /mɯŋ˧/ /mɯng/
ดิน *ʔdin /dīn/ /dìn/ /dīn/ /lǐn/ /dín/ /dei˧/ /nin/
ไฟ *vai/aɯ /fāj/ /fáj/ /fāj/ /pʰáj/ or /fáj/ /fâj/ /fei˧˩/ /pʰaj/
หัวใจ *čai/aɯ /hǔa tɕāj/ /hǔa tɕàj/ /hǔa tɕǎj/ /hǒ tsǎɰ/ /hó tɕáj/ /sim/ /caj/
รัก *rak /rák/ /hāk/ /hák/ /hâk/ /hak/ /gyai˧˩/ /hak/
น้ำ *naam /náːm/ /nâm/ /nám/ /nâm/ /nà̄m/ /ɣaem˦˨/ /nam/
ปิด

ดูเพิ่ม

หมายเหตุ

  1. "นักภาษาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์โดยทั่วไปมีมุมมองร่วมกันว่าภาษาอาหมตายไปประมาณ 200 ปีแล้ว และชาวอาหมทั้งหมดใช้ภาษาอัสสัมเป็นภาษาแม่แทน"[2]

อ้างอิง

บรรณานุกรม

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.